ศึกแกรนด์สแลมแห่งเอเชีย/แปซิฟิก "ออสเตรเลียน โอเพน 2010" เตรียมเปิดฉากแข่งขันระหว่างวันที่ 18-31 มกราคมนี้ เว็บไซต์ประจำการแข่งขันได้พาแฟนสักหลาดลัดเลาะเข้าห้องครัวภายใน เมิลเบิร์น ปาร์ก เปิดใจกุ๊กมือดีซึ่งต้องทำอาหารบริการเหล่าหวดหนุ่มแร็กเกตสาวตลอดห้วงเวลาของการแข่งขัน
สำหรับ ห้องครัวประจำการแข่งขัน ออสเตรเลียน โอเพน มีเชฟหมุนเวียนทำอาหาร 3 คน รวมกับลูกมืออีก 20 คน เปิดบริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าของทุกวัน และปิดบริการหลังการแข่งขันแมตช์สุดท้ายจบลงเรียบร้อยราวหนึ่งชั่วโมง เพื่อรับประกันว่านักหวดที่ลงสนามในคู่ดึกสุดจะอิ่มท้องด้วยอาหารรสเลิศก่อนกลับโรงแรมที่พัก
ในแต่ละวันแผนกอาหารของ ออสซี่ โอเพน ต้องใช้เส้นพาสต้าจำนวน 60 กิโลกรัม หมูบดโบโลญญาอีก 50 กิโลกรัม รวมถึงซอสมะเขือเทศอีก 40 ลิตร นอกจากนี้ยังมีปลาอีก 400 ชิ้น ขนมปัง 5,000 ชิ้น และเครื่องปรุงต่างๆซึ่งสาธยายได้ไม่หมด
โดย ฌาค แชมเมล ผู้จัดการแผนกอาหารประจำการแข่งขันแกรนด์สแลมแห่ง เมลเบิร์น กล่าวว่า "การปรุงอาหารให้นักเทนินทานไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนต้องการคุณค่าทางโภชนาการแตกต่างกันออกไป ซึ่งเราจำเป็นต้องปรุงอาหารให้ได้ตามใบสั่งไม่ว่าจะเป็น พลังงานสูงหรือต่ำ ไขมันน้อยหรือมาก เราต้องทำให้ได้ทั้งหมด ด้วยรสชาติที่อร่อยในเวลาจำกัด"
ด้าน ฟิล แคมป์เบล หนึ่งในเชฟมือดี กล่าวถึงการทำอาหารให้นักเทนนิสทานซึ่งแตกต่างออกไปจากการปรุงให้ประชาชนทั่วไป ว่า "เนยฝรั่งเศสรสชาติเยี่ยมแต่ไขมันสูงเกินไป ดังนั้นเราจึงนิยมนำน้ำมันมะกอกมาใช้แทน ในส่วนของสลัดจะนำน้ำส้มสายชูมาใช้มากกว่า บาลซามี เกลซ (balsamic glaze) ที่มีไขมันมากเกินไป บางครั้งผู้เล่นบางคนก็ไม่ต้องการให้เราใส่เกลือและพริกไทย ซึ่งถือเป็นความท้าทายของเชฟอีกเช่นกัน"
นอกจาก รายการอาหารทั่วไปที่ต้องปรุงสดใหม่ทุกวันและทุกชั่วโมงแล้ว บางครั้งเชฟประจำการแข่งขัน ออสเตรเลียน โอเพน ยังต้องปรุงอาหารหากได้รับคำร้องขอเป็นพิเศษจากฝ่ายจัดการแข่งขัน ยกตัวอย่างกรณี มาเรีย ชาราโปวา ต้องการทานไข่ต้มในเวลาเที่ยงคืน เป็นต้น ซึ่ง แชมเมล ผู้จัดการทีมเสบียงอาหาร ทิ้งท้ายถึงเรื่องนี้ว่า "ต้องแน่ใจว่าเราสามารถทำอาหารได้คุณภาพตามใบสั่งทุกประการ โดยทุกจานสดใหม่และสะอาดถูกใจทุกคน ใครหิวขอให้บอกเรา"