แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศผลประกอบการในรอบ 1 ปีจนถึงวันที่ 30 มิถุนายนปีก่อน ปรากฎว่ามีกำไรก่อนหักภาษี 48.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.6 พันล้านบาท) โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขาย คริสเตียโน โรนัลโด ปีกจอมสับไปให้ รีล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน ด้วยค่าตัวถึง 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4.2 พันล้านบาท) เมื่อช่วงซัมเมอร์ก่อน
ซึ่งหากปราศจากเงินค่าตัวอันเป็นสถิติโลกของ โรนัลโด แล้ว "ผีแดง" จะขาดทุน 31.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.7 พันล้านบาท) แทน นอกจากนี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก 11 สมัย ยังประกาศว่าผลประกอบการของสโมสรว่าเพิ่มขึ้นจาก 80.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4.3 พันล้านบาท) ของปี 2008 เป็น 91.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4.8 พันล้านบาท) ในรอบปีถัดมา
อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด มีภาระต้องเสียดอกเบี้ยให้ธนาคารสูงถึง 41.9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.2 พันล้านบาท) จากการที่กองทุนของตระกูลเกลเซอร์ยืมเงินมาเทคโอเวอร์สโมสรเป็นจำนวน 509.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท) เมื่อปี 2005
ดังนั้น "ผีแดง" เตรียมระดมเงินทุนอีกประมาณ 500 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.65 หมื่นล้านบาท) ด้วยการออกหุ้นกู้มีประกันกำหนดชำระเงินในปี 2017 นำมาปรับโครงสร้างจากหนี้เงินกู้ที่มีอยู่เพื่อทำให้เกิดความมั่นคงต่อสโมสรในระยะยาวและจะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยที่ปัจจุบันสโมสรต้องจ่ายสูงถึงร้อยละ 14