คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
ชุสตีน เอแน็ง ( Justine Henin ) นักเทนนิสสาวอดีตมือ 1 ของโลกชาวเบลเจียม ซึ่งเคยประกาศเลิกเล่นอาชีพไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2008 และอีก 16 เดือนต่อมา เธอได้แถลงข่าวกับ “ แวร ลาเวอนีร ” ( Vers l’ Avenir ) หนังสือพิมพ์ของ เบลเจียม ถึงความต้องการที่จะหวนกลับคืนสู่คอร์ทอีกครั้ง ก่อนจะอำลาคอร์ท เธอได้เตรียมการวางอนาคตไว้แล้วด้วยการเปิดสถาบันสอนเทนนิสของเธอเองตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2007 ให้ชื่อสถาบันแห่งนี้ว่า “ คลับ ชุสตีน เอแน็ง ” โดยเขียนเป็นภาษาฝรั่งว่า “ Club Justine N1 ” ซึ่งถ้าเป็นคนที่ไม่รู้ที่มาที่ไปก็คงอ่านว่า คลับ ชุสตีน เอ็นวัน แหงๆอยู่แล้วครับ
ถ้าจะตั้งชื่อสถาบันด้วยชื่อ นามสกุลเต็มยศ มันคงจะยาวเกินไปและไม่มีอะไรพิเศษกระมัง ความที่เธอเป็นชาวเบลเจียมในซีกที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส จึงเล่นคำด้วยภาษาฝรั่งเศส นั่นคือ ตัว “ N ” ในภาษาฝรั่งเศส เขาอ่านออกเสียงว่า “ แอ็น ” ส่วนเลข “ 1 ” ในภาษาฝรั่งเศสคือ “ un ” ออกเสียงว่า “ เอิง ” แต่ต้องให้เสียงมันขึ้นจมูกหน่อย มันก็จะกลายเป็น “ แอ็ง ” แล้วคราวนี้ เอาทั้งสองพยางค์มาอ่านรวมกันเร็วๆ แถมเชื่อมคำแบบสตายล์ฝรั่งเศสด้วย มันก็จะให้เสียงออกมาเป็น “ แอ็นแน็ง ” นามสกุลของเธอนั่นเอง
สัญลักษณ์ของ “ อาดีดาส ” ( Adidas ) บริษัทผลิตเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาของ เจอรมานี ที่ อดอล์ฟ ดาสเลอร์ ( Adolf Dassler ) ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1924 เป็นรูปแถบ 3 แถบ ชื่อของหมอนี่ถูกเรียกสั้นๆว่า “ อาดี ” ( Adi ) ดังนั้น จาก อาดี ดาสเลอร์ มันจึงกลายเป็นยี่ห้อ อาดีดาส และสัญลักษณ์ 3 แถบดังกล่าว อาดีดาสก็ไม่ได้ออกแบบเองครับ เขาไปขอซื้อมาจากบริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬาสัญชาติฟินแลนด์ชื่อ คารฮู สปอร์ทส ( Karhu Sports ) ในช่วงทศวรรษที่ 50 โดยจ่ายเงินไปคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบันก็ประมาณ 7 หมื่นกว่าบาท แถมวิสกีไปอีก 2 ขวดเท่านั้น
ข้ามไปทางทวีปอเมริกา เมื่อวันที่ 25 มกราคม 1964 ฟิลิป ไนท์ ( Philip Knight ) นักกรีฑามหาเศรษฐี กับ บิล บาวเออร์แมน ( Bill Bowerman ) อดีตโคชของเขา ร่วมก่อตั้ง Nike Incorporated โดยไปเอาชื่อมาจาก “ นิเค ” ( Nike ) เทพีแห่งชัยชนะตามตำนานเทพของกรีก ซึ่งเป็นลูกสาวของ พัลลัส ( Pallas ) เทพแห่งปัญญาและนักรบ กับ สติกซ์ ( Styx ) เทพีแห่งความเกลียดชัง อาฆาตแค้น พี่ๆของ นิเค คือ คราโตส ( Cratos ) เทพแห่งพละกำลัง บีอา ( Bia ) เทพีแห่งอำนาจและความรุนแรง และ เซลุส ( Zelus ) เทพแห่งการต่อสู้ พี่น้องครอกนี้เป็นผู้รับใช้ของ ซุส ( Zeus ) แม่พามาช่วย ซุส ในการทำสงครามกับ ทายทัน ( Titan ) โดย นิเค เป็นผู้ขับรถม้าศึก ชื่อในตำนานเทพโรมันของเธอคือ วิคตอเรีย ( Victoria ) และปีกของ นิเค เป็นสัญลักษณ์ของลักษณะอันรวดเร็วแห่งชัยชนะ แต่ 2 หนุ่มอเมริกันคงอ่านภาษากรีกไม่เป็น จึงเล่นอ่านแบบภาษาอังกฤษมันซะเลย จาก นิเค จึงกลายเป็น “ นายกี ”
สำหรับสัญลักษณ์ของ “ แกรนด์สปอร์ต ” ( Grand Sport ) บริษัทผลิตเสื้อผ้ากีฬาของไทยที่คุณกิจ พฤกษ์ชะอุ่ม ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1961 ก็มีการตีความกันไปต่างๆนานา เพราะจากรูปลักษณ์ดังกล่าวก็มองได้หลายอย่าง ฝรั่งบางคนบอกว่าเป็น ปีกนก หรือ ปีกของ นิเค บางคนก็มองเป็นรูปตัว “ V ” มาจาก Victory คือ ชัยชนะ แต่คุณธารา ลูกชายคุณกิจ บอกถึงที่มากับผมว่า มันเป็นเพียง ลายกนก ของไทย คือต้องการบ่งบอกถึงความอ่อนนุ่ม ประณีตเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากครับ
ชุสตีน เอแน็ง ( Justine Henin ) นักเทนนิสสาวอดีตมือ 1 ของโลกชาวเบลเจียม ซึ่งเคยประกาศเลิกเล่นอาชีพไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2008 และอีก 16 เดือนต่อมา เธอได้แถลงข่าวกับ “ แวร ลาเวอนีร ” ( Vers l’ Avenir ) หนังสือพิมพ์ของ เบลเจียม ถึงความต้องการที่จะหวนกลับคืนสู่คอร์ทอีกครั้ง ก่อนจะอำลาคอร์ท เธอได้เตรียมการวางอนาคตไว้แล้วด้วยการเปิดสถาบันสอนเทนนิสของเธอเองตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2007 ให้ชื่อสถาบันแห่งนี้ว่า “ คลับ ชุสตีน เอแน็ง ” โดยเขียนเป็นภาษาฝรั่งว่า “ Club Justine N1 ” ซึ่งถ้าเป็นคนที่ไม่รู้ที่มาที่ไปก็คงอ่านว่า คลับ ชุสตีน เอ็นวัน แหงๆอยู่แล้วครับ
ถ้าจะตั้งชื่อสถาบันด้วยชื่อ นามสกุลเต็มยศ มันคงจะยาวเกินไปและไม่มีอะไรพิเศษกระมัง ความที่เธอเป็นชาวเบลเจียมในซีกที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส จึงเล่นคำด้วยภาษาฝรั่งเศส นั่นคือ ตัว “ N ” ในภาษาฝรั่งเศส เขาอ่านออกเสียงว่า “ แอ็น ” ส่วนเลข “ 1 ” ในภาษาฝรั่งเศสคือ “ un ” ออกเสียงว่า “ เอิง ” แต่ต้องให้เสียงมันขึ้นจมูกหน่อย มันก็จะกลายเป็น “ แอ็ง ” แล้วคราวนี้ เอาทั้งสองพยางค์มาอ่านรวมกันเร็วๆ แถมเชื่อมคำแบบสตายล์ฝรั่งเศสด้วย มันก็จะให้เสียงออกมาเป็น “ แอ็นแน็ง ” นามสกุลของเธอนั่นเอง
สัญลักษณ์ของ “ อาดีดาส ” ( Adidas ) บริษัทผลิตเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาของ เจอรมานี ที่ อดอล์ฟ ดาสเลอร์ ( Adolf Dassler ) ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1924 เป็นรูปแถบ 3 แถบ ชื่อของหมอนี่ถูกเรียกสั้นๆว่า “ อาดี ” ( Adi ) ดังนั้น จาก อาดี ดาสเลอร์ มันจึงกลายเป็นยี่ห้อ อาดีดาส และสัญลักษณ์ 3 แถบดังกล่าว อาดีดาสก็ไม่ได้ออกแบบเองครับ เขาไปขอซื้อมาจากบริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬาสัญชาติฟินแลนด์ชื่อ คารฮู สปอร์ทส ( Karhu Sports ) ในช่วงทศวรรษที่ 50 โดยจ่ายเงินไปคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบันก็ประมาณ 7 หมื่นกว่าบาท แถมวิสกีไปอีก 2 ขวดเท่านั้น
ข้ามไปทางทวีปอเมริกา เมื่อวันที่ 25 มกราคม 1964 ฟิลิป ไนท์ ( Philip Knight ) นักกรีฑามหาเศรษฐี กับ บิล บาวเออร์แมน ( Bill Bowerman ) อดีตโคชของเขา ร่วมก่อตั้ง Nike Incorporated โดยไปเอาชื่อมาจาก “ นิเค ” ( Nike ) เทพีแห่งชัยชนะตามตำนานเทพของกรีก ซึ่งเป็นลูกสาวของ พัลลัส ( Pallas ) เทพแห่งปัญญาและนักรบ กับ สติกซ์ ( Styx ) เทพีแห่งความเกลียดชัง อาฆาตแค้น พี่ๆของ นิเค คือ คราโตส ( Cratos ) เทพแห่งพละกำลัง บีอา ( Bia ) เทพีแห่งอำนาจและความรุนแรง และ เซลุส ( Zelus ) เทพแห่งการต่อสู้ พี่น้องครอกนี้เป็นผู้รับใช้ของ ซุส ( Zeus ) แม่พามาช่วย ซุส ในการทำสงครามกับ ทายทัน ( Titan ) โดย นิเค เป็นผู้ขับรถม้าศึก ชื่อในตำนานเทพโรมันของเธอคือ วิคตอเรีย ( Victoria ) และปีกของ นิเค เป็นสัญลักษณ์ของลักษณะอันรวดเร็วแห่งชัยชนะ แต่ 2 หนุ่มอเมริกันคงอ่านภาษากรีกไม่เป็น จึงเล่นอ่านแบบภาษาอังกฤษมันซะเลย จาก นิเค จึงกลายเป็น “ นายกี ”
สำหรับสัญลักษณ์ของ “ แกรนด์สปอร์ต ” ( Grand Sport ) บริษัทผลิตเสื้อผ้ากีฬาของไทยที่คุณกิจ พฤกษ์ชะอุ่ม ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1961 ก็มีการตีความกันไปต่างๆนานา เพราะจากรูปลักษณ์ดังกล่าวก็มองได้หลายอย่าง ฝรั่งบางคนบอกว่าเป็น ปีกนก หรือ ปีกของ นิเค บางคนก็มองเป็นรูปตัว “ V ” มาจาก Victory คือ ชัยชนะ แต่คุณธารา ลูกชายคุณกิจ บอกถึงที่มากับผมว่า มันเป็นเพียง ลายกนก ของไทย คือต้องการบ่งบอกถึงความอ่อนนุ่ม ประณีตเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากครับ