นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ นายกสมาคมมวยไทยแห่งประเทศไทย ยอมรับค่อนข้างหวั่นฝีมือนักชกเจ้าภาพ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไม่น้อยในการลงชิงชัยเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25
มวยไทย มีคิวชิงชัยกันถึง 14 เหรียญทองใน "เวียงจันทน์เกมส์" โดยจะประเดิมการแข่งขันกันตั้งแต่วันที่ 10-15 ธันวาคม ซึ่งทีมข่าว MGR Sport มีโอกาสได้พูดคุยกับ นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ นายกสมาคมมวยไทย ถึงปัญหาที่ ในมวยหญิงรุ่น 60 กก. มีเพียง เดือนนภา คงเฟือง ลงต่อคนเดียวเท่านั้น
ซึ่ง นายสันติภาพ ชี้แจงดังนี้ "สำหรับเรื่องดังกล่าวจะนำไปประชุมกันระหว่างผู้จัดการทีม ซึ่งถ้าหาก เดือนนภา มีชื่อคนเดียวในรุ่นคงลงแข่งไม่ได้อยู่แล้ว เราจึงต้องหารือกับชาติสมาชิกว่าจะมีประเทศไทยขยับรุ่นมาเล่นในรุ่น 60 กก.หรือไม่ หรือมิเช่นนั้น เราคงต้องให้ เดือนนภา ขยับลงมาต่อยในรุ่น 57-60 กก.แทน"
เมื่อถามถึงคู่แข่งสำคัญ นายกสมาคมมวยไทย เผยดังนี้ "มาต่อยในซีเกมส์ครั้งนี้ ผมอยากให้จับตามองเจ้าภาพเป็นพิเศษ เพราะนักมวยลาวเก่งขึ้นมากทีเดียว โดยประเทศของเขามีการจัดต่อยมวยไทยถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่องลาวสตาร์อยู่ทุกเดือน อีกทั้งลาวก็เตรียมตัวกันมาดี ในเอเชียนอินดอร์เกมส์ ได้มาถึง 2 เหรียญทองจาก 5 รุ่น ทั้งนี้ต้องบอกว่ากระแสความนิยมมวยไทยในลาวคึกคักมาทีเดียว ผมทราบมาว่าตั๋วที่สนามบึงขะยองที่ไทยไปช่วยสร้างให้นั่น ตั๋วถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงแล้ว ทั้งที่ราคาอยู่ที่ 200-250 บาท"
"ส่วนนักชกจากชาติอื่นๆ ที่น่าจับตามอง ต้องบอกว่า เมียนมาร์ เข้าก็มีสัญชาตญาณของมวยไทยอยู่ไม่น้อย ฟิลิปปินส์ ก็ดีขึ้น เพียงแต่นักชกของเขาดูจะหมดแรงง่ายไปหน่อยอย่างที่เห็นในเอเชียนอินดอร์เกมส์ ขณะที่ เวียดนาม ก็ถือว่าใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ไทยซึ่งจัดมวยเก่าใหม่ผสมกันมาชกยังคงหวังไว้ที่ 5 เหรียญทองจากการส่งลงแข่งทั้งสิ้น 9 รุ่น"
สุดท้าย นายสันติภาพ ที่เป็นประธานมวยไทยแห่งเอเชีย ยังกล่าวทิ้งท้ายถึงการพัฒนาวงการมวยไทยในภูมิภาคอาเซียน "ตอนนี้เราพยายามผลักดันให้ทั้ง 11 ชาติในอาเซียนมีสมาคมกีฬามวยไทยขึ้นมา ซึ่งเราพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในส่วนของอุปกรณ์"
มวยไทย มีคิวชิงชัยกันถึง 14 เหรียญทองใน "เวียงจันทน์เกมส์" โดยจะประเดิมการแข่งขันกันตั้งแต่วันที่ 10-15 ธันวาคม ซึ่งทีมข่าว MGR Sport มีโอกาสได้พูดคุยกับ นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ นายกสมาคมมวยไทย ถึงปัญหาที่ ในมวยหญิงรุ่น 60 กก. มีเพียง เดือนนภา คงเฟือง ลงต่อคนเดียวเท่านั้น
ซึ่ง นายสันติภาพ ชี้แจงดังนี้ "สำหรับเรื่องดังกล่าวจะนำไปประชุมกันระหว่างผู้จัดการทีม ซึ่งถ้าหาก เดือนนภา มีชื่อคนเดียวในรุ่นคงลงแข่งไม่ได้อยู่แล้ว เราจึงต้องหารือกับชาติสมาชิกว่าจะมีประเทศไทยขยับรุ่นมาเล่นในรุ่น 60 กก.หรือไม่ หรือมิเช่นนั้น เราคงต้องให้ เดือนนภา ขยับลงมาต่อยในรุ่น 57-60 กก.แทน"
เมื่อถามถึงคู่แข่งสำคัญ นายกสมาคมมวยไทย เผยดังนี้ "มาต่อยในซีเกมส์ครั้งนี้ ผมอยากให้จับตามองเจ้าภาพเป็นพิเศษ เพราะนักมวยลาวเก่งขึ้นมากทีเดียว โดยประเทศของเขามีการจัดต่อยมวยไทยถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่องลาวสตาร์อยู่ทุกเดือน อีกทั้งลาวก็เตรียมตัวกันมาดี ในเอเชียนอินดอร์เกมส์ ได้มาถึง 2 เหรียญทองจาก 5 รุ่น ทั้งนี้ต้องบอกว่ากระแสความนิยมมวยไทยในลาวคึกคักมาทีเดียว ผมทราบมาว่าตั๋วที่สนามบึงขะยองที่ไทยไปช่วยสร้างให้นั่น ตั๋วถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงแล้ว ทั้งที่ราคาอยู่ที่ 200-250 บาท"
"ส่วนนักชกจากชาติอื่นๆ ที่น่าจับตามอง ต้องบอกว่า เมียนมาร์ เข้าก็มีสัญชาตญาณของมวยไทยอยู่ไม่น้อย ฟิลิปปินส์ ก็ดีขึ้น เพียงแต่นักชกของเขาดูจะหมดแรงง่ายไปหน่อยอย่างที่เห็นในเอเชียนอินดอร์เกมส์ ขณะที่ เวียดนาม ก็ถือว่าใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ไทยซึ่งจัดมวยเก่าใหม่ผสมกันมาชกยังคงหวังไว้ที่ 5 เหรียญทองจากการส่งลงแข่งทั้งสิ้น 9 รุ่น"
สุดท้าย นายสันติภาพ ที่เป็นประธานมวยไทยแห่งเอเชีย ยังกล่าวทิ้งท้ายถึงการพัฒนาวงการมวยไทยในภูมิภาคอาเซียน "ตอนนี้เราพยายามผลักดันให้ทั้ง 11 ชาติในอาเซียนมีสมาคมกีฬามวยไทยขึ้นมา ซึ่งเราพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในส่วนของอุปกรณ์"