แม้ว่าเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ หนองคาย-ท่านาแล้ง จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการให้ทั้งคนไทยและคนลาวได้ข้ามพรมแดนรวมถึงเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าสำคัญมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทว่าในขณะที่เหลือเวลาเพียง 6 วันก่อนที่พิธีเปิดจะเริ่มขึ้นมีประชาชนน้อยคนที่รับทราบว่านี่คืออีกเส้นทางหนึ่งของการเดินทางมาร่วมชม "เวียงจันทน์เกมส์ 2009"
ก่อนหน้าที่แฟนกีฬาชาวไทยส่วนใหญ่จะเดินทางเข้าสู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ทางด่านสะพานมิตรภาพจังหวัดหนองคาย ขณะเดียวกันก็สามารถบินตรงจากประเทศไทยเข้าสู่เวียงจันทน์ นครหลวงของลาวได้ทางสนามบินแห่งชาติ วัดไต
อย่างไรก็ดียังมีอีกหนึ่งเส้นทางที่น่าสนใจที่จะเป็นประตูสู่ซีเกมส์ครั้งที่ 25 ในครั้งนี้ ก็คือการเดินทางด้วยรถไฟเส้นทาง หนองคาย-ท่านาแล้ง เข้าสู่เวียงจันทน์ โดยทีมงาน MGR SPORT ที่เลือกเดินทัพเข้าสู่ลาวด้วยการใช้บริการรถไฟไทย ก็พบว่าเส้นทางดังกล่าวเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยนักท่องเที่ยวและแฟนกีฬาที่เดินทางโดยรถไฟมาลงยังสถานีหนองคาย สามารถต่อรถไฟเข้าสู่สปป.ลาวได้ทันที โดยมีรูปแบบราคา 20 บาทสำหรับที่นั้งชั้น 3 ไม่ปรับอากาศ และ 50 บาทสำหรับที่นั่งชั้น 2 ปรับอากาศ ขณะเดียวกันก็ใช้เวลาเดินรถเพียง 15 นาทีก็ถึงที่หมายสถานีท่านาแล้ง นอกจากนี้เส้นทางรถไฟสายดังกล่าวยังเปิดบริการถึง 4 เที่ยว ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 9.30 น. ,10.30 น. ,16.ooน. และ 17.00 น .
อย่างไรก็ดีจากการสังเกตของทีมข่าวพบว่า 6 วันก่อนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ความคึกคักที่สนานีท่านาแล้งยังยังมีไม่มากนัก รวมถึงมีเพียงชาวต่างชาติจากฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่ใช้บริการ ขณะที่คนไทยยังบางตา
ถึงกระนั้นทีมงาน MGR SPORT ได้พบกับ อนุชา ปูนปั้น แฟนฟุตบอลพันธุ์แท้ทีมชาติไทย ที่ลงทุนนั่งรถไฟมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อมาชมเกมเปิดสนามซีเกมส์ระหว่างทีมชาติไทย ปะทะทีมชาติเวียดนามในช่วงเย็นวันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งเจ้าตัวเผยว่านี่คือเส้นทางที่หลายคนยังไม่รู้และน่าจะได้รับการโปรโมตมากกว่านี้
"ผมว่านี่คือเส้นทางที่สะดวกที่สุด ที่หลายคนยังไม่ทราบ เพราะทั้งฝั่งไทยและลาวไม่มีการโปรโมตให้ทราบ เพราะส่วนใหญ่คนจะไปข้ามพรมแดนที่สะพานมิตรภาพ แต่ผมคิดว่านี่คือเส้นทางที่ดีประประหยัดที่สุดสำหรับแฟนกีฬ่าที่จะเข้ามาเอาใจช่วยนักกีฬาไทย"
พร้อมกันนี้ นายอนุชายังทิ้งท้ายถึงการเดินทางของตัวเองเพื่อมาชมเกมนักเปิดสนามว่า "ผมเดินทางจากกรุงเทพฯเพื่อมาชมเกมทีมชาติไทยโดยเฉพาะ แม้ว่าจะยังไม่มีตั๋วแต่ก็จะไปหาซื้อหน้าสนาม และก็จะเดินทางกลับหลังจบเกมทางด่านสะพานมิตระภาพ และจะกลับมาอีกครั้งในเกมนัดชิง ที่ผมมั่นใจว่าไทยเราจะเข้าชิงแน่นอน"
เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันที่ "เวียงจันทน์เกมส์ 2009" จะเปิดฉากขึ้น เส้นทาง "หนองคาย-ท่านาแล้ง" จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งประตูสู่ซีเกมส์ครั้งที่ 25 ระหว่างวันที่ 9 - 18 ธันวาคมนี้ ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ก่อนหน้าที่แฟนกีฬาชาวไทยส่วนใหญ่จะเดินทางเข้าสู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ทางด่านสะพานมิตรภาพจังหวัดหนองคาย ขณะเดียวกันก็สามารถบินตรงจากประเทศไทยเข้าสู่เวียงจันทน์ นครหลวงของลาวได้ทางสนามบินแห่งชาติ วัดไต
อย่างไรก็ดียังมีอีกหนึ่งเส้นทางที่น่าสนใจที่จะเป็นประตูสู่ซีเกมส์ครั้งที่ 25 ในครั้งนี้ ก็คือการเดินทางด้วยรถไฟเส้นทาง หนองคาย-ท่านาแล้ง เข้าสู่เวียงจันทน์ โดยทีมงาน MGR SPORT ที่เลือกเดินทัพเข้าสู่ลาวด้วยการใช้บริการรถไฟไทย ก็พบว่าเส้นทางดังกล่าวเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยนักท่องเที่ยวและแฟนกีฬาที่เดินทางโดยรถไฟมาลงยังสถานีหนองคาย สามารถต่อรถไฟเข้าสู่สปป.ลาวได้ทันที โดยมีรูปแบบราคา 20 บาทสำหรับที่นั้งชั้น 3 ไม่ปรับอากาศ และ 50 บาทสำหรับที่นั่งชั้น 2 ปรับอากาศ ขณะเดียวกันก็ใช้เวลาเดินรถเพียง 15 นาทีก็ถึงที่หมายสถานีท่านาแล้ง นอกจากนี้เส้นทางรถไฟสายดังกล่าวยังเปิดบริการถึง 4 เที่ยว ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 9.30 น. ,10.30 น. ,16.ooน. และ 17.00 น .
อย่างไรก็ดีจากการสังเกตของทีมข่าวพบว่า 6 วันก่อนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ความคึกคักที่สนานีท่านาแล้งยังยังมีไม่มากนัก รวมถึงมีเพียงชาวต่างชาติจากฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่ใช้บริการ ขณะที่คนไทยยังบางตา
ถึงกระนั้นทีมงาน MGR SPORT ได้พบกับ อนุชา ปูนปั้น แฟนฟุตบอลพันธุ์แท้ทีมชาติไทย ที่ลงทุนนั่งรถไฟมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อมาชมเกมเปิดสนามซีเกมส์ระหว่างทีมชาติไทย ปะทะทีมชาติเวียดนามในช่วงเย็นวันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งเจ้าตัวเผยว่านี่คือเส้นทางที่หลายคนยังไม่รู้และน่าจะได้รับการโปรโมตมากกว่านี้
"ผมว่านี่คือเส้นทางที่สะดวกที่สุด ที่หลายคนยังไม่ทราบ เพราะทั้งฝั่งไทยและลาวไม่มีการโปรโมตให้ทราบ เพราะส่วนใหญ่คนจะไปข้ามพรมแดนที่สะพานมิตรภาพ แต่ผมคิดว่านี่คือเส้นทางที่ดีประประหยัดที่สุดสำหรับแฟนกีฬ่าที่จะเข้ามาเอาใจช่วยนักกีฬาไทย"
พร้อมกันนี้ นายอนุชายังทิ้งท้ายถึงการเดินทางของตัวเองเพื่อมาชมเกมนักเปิดสนามว่า "ผมเดินทางจากกรุงเทพฯเพื่อมาชมเกมทีมชาติไทยโดยเฉพาะ แม้ว่าจะยังไม่มีตั๋วแต่ก็จะไปหาซื้อหน้าสนาม และก็จะเดินทางกลับหลังจบเกมทางด่านสะพานมิตระภาพ และจะกลับมาอีกครั้งในเกมนัดชิง ที่ผมมั่นใจว่าไทยเราจะเข้าชิงแน่นอน"
เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันที่ "เวียงจันทน์เกมส์ 2009" จะเปิดฉากขึ้น เส้นทาง "หนองคาย-ท่านาแล้ง" จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งประตูสู่ซีเกมส์ครั้งที่ 25 ระหว่างวันที่ 9 - 18 ธันวาคมนี้ ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
