เดวิด เบ็คแฮม กองกลางทีมชาติอังกฤษ เผยความลับสั่นสะเทือนวงการลูกหนังโลก กับอาการหอบหืดที่เป็นมาตั้งแต่เด็ก หลังเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอล เอ็มแอลเอส คัพ ที่พ่ายจุดโทษ สื่อเชื่อน่าจะส่งผลกระทบต่อโอกาสติดธง “สิงโตคำราม” ไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ แอฟริกาใต้
เบ็คแฮม อกหักวืดคว้าแชมป์เมเจอร์แรกในลีกลูกหนัง สหรัฐอเมริกา หลังจาก แอลเอ กาแล็คซี แชมป์สายตะวันตก แพ้จุดโทษ รีล ซอลท์ เลค แชมป์สายตะวันออก 4-5 หลังจากเสมอกัน 1-1 ในเกมนัดชิง เอ็มแอลเอส คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น นักเตะวัย 34 ปี ถูกจับภาพได้ว่าใช้เครื่องพ่นยาหอบหืด
ทำให้ ไซมอน โอลิเวียรา เอเยนต์ส่วนตัวของ เบ็คแฮม ต้องออกมาเผยว่า “เดวิด ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการหอบหืดตั้งแต่เด็ก แต่ถึงกระนั้นก็ตามก็เห็นได้ชัดแล้วว่าไม่ส่งผลกระทบต่อผลงานของเขา ไม่มีใครเคยบอกเรื่องนี้กับสื่อ แต่สิ่งนี้ก็อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาทุกคนประสบความสำเร็จ”
“เดลี เมล” สื่อดังของอังกฤษ เชื่อว่า ข่าวนี้น่าจะส่งผลกระทบต่อการติดทีมชาติ “สิงโตคำราม” ลุ้นไปลุยฟุตบอลโลกหนที่ 4 ของ เบ็คแฮม ที่ แอฟริกาใต้ ในช่วงกลางปีหน้า เพราะว่า ฟาบิโอ คาเปลโล กุนซือชาวอิตาเลียน จะเลือกนักเตะที่มีสภาพความฟิตมากที่สุดมาก่อนเป็นอันดับแรก
ดอกเตอร์ ไมค์ โทมัส ผู้อำนวยการที่ปรึกษาเกี่ยวกับโรคหอบหืดใน อังกฤษ เผยว่า “โรคหอบหืดมักจะเกิดกับบรรดานักกีฬาระดับโลก พอล สโคลส์ และ พอลลา แรดคลิฟฟ์ ก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม โรคนี้ไม่สามารถที่จะหยุดพวกคุณจากการเข้าแข่งขันในระดับสูงอย่างแน่นอน”
เบ็คแฮม เพิ่งโชว์สภาพความฟิตลงเล่น 120 นาทีเต็ม ให้กับ แอลเอ กาแล็คซี แถมยังอาสายิงจุดโทษไม่พลาด ซึ่งถือเป็นการลงเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษหนที่ 2 ในรอบ 9 วัน ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทัพ เอซี มิลาน อดีตต้นสังกัดในเวที กัลโช เซเรีย อา อิตาลี แบบยืมตัว ในช่วงตลาดเปิดเดือนมกราคมนี้
ก่อนหน้านี้ ไม่มีใครระแคะระคายเกี่ยวกับอาการหอบหืดของ เบ็คแฮม อดีตนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ รีล มาดริด ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงที่สุดในโลก เนื่องจากวิวัฒนาการของวงการแพทย์ ที่มีทั้งการรับประทานยา รวมถึงฉีดยา แทนการใช้เครื่องพ่นยาที่ต้องติดตัวตลอดเวลา