"โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย ยอมรับผู้เล่นเป็นรอง "มังกรไฟ" บีอีซีฯ ในศึกชิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอคัพ วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคมนี้ในเวลา 17.00น. ณ สนามศุภชลาศัย แต่ยังมั่นใจคว้าแชมป์แน่นอน โดยชี้ว่ารูปเกมจะออกมาสนุกแน่
หากมองถึงอันดับในตารางแล้วจะเห็นว่าทั้งคู่อยู่ระดับทีมหัวแถวของ ไทยพรีเมียร์ลีก โดย การท่าเรือฯ รั้งอันดับ 6 ขณะที่ บีอีซีฯ อยู่ในอันดับ 4 แต่จากผลงานการเจอกันของทั้งสองทีมจะเห็นว่าทีมดังจากย่านคลองเตยเป็นรองอยู่พอสมควร เมื่อนัดแรก "สิงห์เจ้าท่า" เปิดบ้านแพ้ไป 0-1 ส่วนนัดที่สองยังบุกไปแพ้ถึงหนองจอก 3-1
ส่งผลให้ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ นายใหญ่ของ การท่าเรือไทย ยอมรับแข้ง "มังกรไฟ" แข็งแกร่งไม่น้อย "ทีมของผม ณ วันนี้ต้องยอมรับว่าถ้าเทียบผู้เล่นแบบตัวต่อตัวกับ บีอีซี เทโรศาสน แล้วเป็นรองอย่างมาก เนื่องจากทีมคู่แข่งมีนักเตะทีมชาติจำนวนมาก ขณะที่ทีมผมนั้นตรงข้ามกันเลย"
"แต่ด้วยสถานการณ์ที่เรามองว่าเป็นรองนี้ ผมไม่ได้เป็นกังวลอะไรเลย เพราะสภาพความพร้อมของผู้เล่น รวมถึงสภาพจิตใจแล้วเต็มที่แน่นอน และเชื่อว่ารูปเกมออกมาสนุกแน่ ทุกคนหิวกระหายในการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เพื่อหยุดการรอคอยถ้วยแชมป์มา 16 ปีของสโมสรเสียที ขณะเดียวกันเราก็ต้องการไปเล่นฟุตบอลสโมสรเอเชียด้วย" กุนซือท่าเรือแสดงความมั่นใจ
ขณะที่ “บิ๊กเชฐ” พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสรการท่าเรือไทย เผยว่าเกมนี้แม้ลูกทีมเป็นรองในด้านฝีเท้า แต่จะไม่เป็นรองในเรื่องเสียงเชียร์แน่นอน "เราอาจถูกมองว่าเป็นรอง แต่ผมไม่คิดว่าฝีเท้าผู้เล่นจะห่างกันมาก ซึ่งเราได้แก้เกมด้วยการสั่งจองตั๋ว 5,000 ใบให้กับแฟนบอลที่จะเข้าให้กำลังใจแล้ว ด้วยเสียงเชียร์และกำลังใจเหล่านี้ผมเชื่อว่าจะทำให้งานฉลองปิดฤดูกาลของเราไม่กร่อยแน่นอน"
ด้าน "บิ๊กแบน" ตะวัน ศรีปาน กุนซือทีม "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน เผยว่าไม่คิดประมาทคู่แข่งแต่อย่างใด แม้จะมีอันดับที่เหนือกว่าเมื่อจบศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 "ทีมการท่าเรือฯ พัฒนาไปมาก ภายใต้การทำงานของ สะสม พบประเสริฐ หากเราประมาทพวกเขาก็คงเข้าทาง เนื่องจากคู่แข่งมีเกมสวนกลับที่น่ากลัวมาก โดยเฉพาะการวางบอลของ จิรวัฒน์ มัครมย์ กองกลางตัวเก่งของ ท่าเรือ ให้กองหน้าจอมเก๋าอย่าง พิพัฒน์ ต้นกันยา เข้าทำ"
อย่างไรก็ตามอดีตกองกลางสุดคลาสสิคของทีมชาติไทยรายนี้ ยังมั่นใจว่าจากความร้อนแรงของ อานนท์ สังสระน้อย และ วุฒิชัย ทาทอง จะช่วยนำทัพสยบคู่แข่งที่สนามศุภชลาศัยได้ในที่สุด "ด้วยรูปแบบการเล่น และระบบทีมเวิร์คที่ช่วยให้ทีมมีผลงานที่ดีในช่วงเลกสองของศึกไทยลีกที่ผ่านมา ประกอบกับฟอร์มที่ร้อนแรงของ อานนท์ ที่ทำไปแล้ว 18 ประตู ผมเชื่อว่าเกมนี้น่าจะเป็นเกมที่สนุก และสูสีมาก ซึ่งเชื่อว่าในท้ายที่สุดแล้วทีมของเราน่าจะถึงถ้วยแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ในปีนี้"
ทั้งนี้ นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอคัพ จะเริ่มคิกอ็อฟ ในเวลา 17.00 น. ที่สนามศุภชลาศัย ซึ่งจะเริ่มเปิดขายบัตรผ่านประตูในเวลา 15.00 น. โดยด้านอัฒจรรย์มีหลังคา บัตรราคา 80 บาท และอัฒจรรย์ไม่มีหลังคา 50 บาท สำหรับแชมป์ฟุตบอลรายการเอฟเอ คัพ 2009 จะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล เอเอซี คัพ พร้อมกับได้แข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก. ที่จะนำแชมป์ ไทยพรีเมียร์ลีก กับ แชมป์ เอฟเอ คัพ มาฟาดแข้งกันก่อนเปิดฤดูกาล 2010