ศรายุทธ ชัยคำดี อดีตดาวยิงทีมชาติไทยลุกจากม้านั่งในช่วง 3 นาทีสุดท้ายลงมาปล่อยทีเด็ดช่วยให้ โอสถสภา เอ็ม-150 บุกมาเอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-1 พร้อมทั้งเชิญชวนชาวจังหวัดสระบุรีมาร่วมกันเชียร์ทีมมากๆ ในนัดประเดิมย้ายบ้านพบ ชลบุรี เอฟซี ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 วันพุธหน้า
ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 10 เปิดสนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง รับการมาเยือนของ โอสถสภา เอ็ม-150 ทีมอันดับ 5 โดยนัดนี้ถูกขยับขึ้นมาจากสุดสัปดาห์ เนื่องจากกรุงเทพมหานครจะใช้สนามจัดกิจกรรมในวันอาทิตย์นี้
เริ่มเกมเป็น “พลังเอ็ม” ที่เปิดฉากบุกเข้าหาก่อนแต่ยังเจาะตาข่ายไม่สำเร็จ ก่อนที่ “แข้งเทพ” จะจับจังหวะการเล่นของตัวเองได้ กระทั่งมีลุ้นในนาทีที่ 27 เมื่อ ศุภเสกข์ ไก่แก้ว เปิดลูกเตะมุมด้านขวา อาทิตย์ บุญพา กองหลังเติมขึ้นมาโหม่งตรงตัว กิตติศักดิ์ ระวังป่า ทว่านายทวารทีมชาติไทยรับกระฉอกเกือบเข้าประตู แต่ยังตามมาคว้าได้ในจังหวะสอง
จากนั้น ศุภเสกข์ มีโอกาสสับไกหน้าเขตโทษใกล้เคียงกับการได้ประตูในนาทีที่ 44 แต่ กิตติศักดิ์ ถูกพุ่งปัดออกหลัง ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก พยุงศักดิ์ พันนารัตน์ แบ็กซ้ายทีมเยือนสาดบอลลึกจากกลางสนามด้านซ้ายจนเกือบเสียบใต้คาน แต่ วีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นยังไม่เผลอกระโดดปัดออกหลังทันเวลา จบ 45 นาทีแรกเสมออยู่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลังเกมเริ่มทวีความเข้มข้นโดยต่างมีลุ้นพังสกอร์ได้ด้วยกันทั้งสองทีม แต่เป็น โอสถสภา ที่สามารถออกนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 61 เมื่อ สุรเดช ธงชัย โยนจากเส้นหลังด้านซ้าย คริสเตียน อายิว เอ็กบา ตัวรุกชาวกานาสอดเข้ามาแปเน้นๆ ในเขตโทษผ่านมือ วีระ เสียบมุมตาข่าย กระนั้น แบงค็อก ตามมาทวงคืนเป็น 1-1 อย่างรวดเร็วใน 3 นาทีถัดมาจากการต่อบอลเจาะเข้าเขตโทษก่อนที่ ศุภเสกข์ จะตบเรียดให้ ไกรสร ปั้นเจริญ ชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือซาก
ทัพห้างยาหวิดพังประตูนำได้อีกครั้งในนาทีที่ 67 โดย เอ็กบา ดึงบอลหลบแผงหลังบียูแล้วซัดระยะ 18 หลา ทว่าลูกพุ่งชนเสาอย่างน่าเสียดาย เวลาล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 87 ศรายุทธ ชัยคำดี ก็ถูกเปลี่ยนลงมาแทน คัพฟ้า บุญมาตุ่น เพื่อล่าตาข่าย ซึ่งก็ได้ผลทันตาในอีก 2 นาทีให้หลัง เมื่อ “โจ้ 5หลา” รับบอลนอกเขตโทษก่อนหาจังหวะกดด้วยขวาส่งบอลเรียดเสียบมุมเสาสองชนิดที่ วีระ ยืนขาตาย เป็นประตูชัยให้ โอสถสภา บุกกำชัย 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 43 คะแนน ขึ้นมาอยู่ที่ 4 ชั่วคราว ส่วน แบงค็อก ยังรั้งอันดับ 10 เช่นเดิม มีอยู่ 27 คะแนน
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
แบงค็อก ยูไนเต็ด – วีระ เกิดพุดซา, ทรงศักดิ์ เฮมเขียว, อาทิตย์ บุญพา, ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์ (กัปตันทีม), จีรณัฐ นนทเกษ, โฟฟานา ชีค อาบิบ, ฐณกรณ์ พิชิตชัยพจนารถ, รามเทพ ชัยแป้น, ศุภเสกข์ ไก่แก้ว, ไกรสร ปั้นเจริญ, นพพล ผลอุดม
โอสถสภา เอ็ม-150 – กิตติศักดิ์ ระวังป่า (ผู้รักษาประตู / กัปตันทีม), ไพฑูรย์ เทียบมา, ประทุม ชูทอง, ศิวะเมต ธนูศร, พยุงศักดิ์ พันนารัตน์, ธนสิทธิ์ ทองอินทร์, อภิศักดิ์ อาสายุทธ์, คัพฟ้า บุญมาตุ่น, จักรกริช บุญคำ, สุรเดช ธงชัย, คริสเตียน อายิว เอ็กบา
ภายหลังจบเกม ศรายุทธ เผยถึงสาเหตุที่ออกสตาร์ทบนม้านั่งสำรองและแสดงความดีใจที่ลงมาเป็นฮีโร่พังประตูชัยให้พลังเอ็มว่า “อ.อาจหาญ (ทรงงามทรัพย์ เฮดโค้ช) คงเห็นว่าผมล้าจากการกรำศึกหนักมาหลายเกมติดต่อกันเลยให้พักบ้าง อย่างไรก็ตาม ผมพอใจที่สามารถทำประตูสำคัญให้ทีมได้ทั้งที่มีเวลาอยู่ในสนามเพียงไม่นาน ซึ่งช่วยเรียกความมั่นใจของผมกลับคืนมาได้หลังจากยิงไม่ได้มา 6 นัดแล้ว ส่วนเรื่องกลับมาลุ้นแชมป์อีกครั้งก็คงหวังลึกๆ แต่ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดนัดต่อนัดดีกว่า”
“โจ้ 5 หลา” ยังได้พูดถึงชาวสระบุรีที่ทีมเตรียมย้ายจากสนามธนารมณ์ ลำลูกกา ไปใช้เป็นรังเหย้าแมตช์แรกในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย พบ ชลบุรี เอฟซี ในวันพุธที่ 23 กันยายนนี้ว่า “ผมเชื่อว่าคนสระบุรีคงติดตามผลงานของ โอสถสภา อยู่บ้างตั้งแต่ทราบว่าเราจะไปใช้สนามเหย้าที่นั่น ส่วนชัยชนะวันนี้ทำให้เราพร้อมลุยกับ ชลบุรี ซึ่งถือเป็นงานหนักแต่จะพยายามผ่านไปให้ได้ ผมอยากให้ชาวสระบุรีมาช่วยกันเชียร์เยอะๆ เพราะแฟนบอลชลบุรีคงมากันไม่น้อยแน่ ซึ่งเราเองก็ต้องการกำลังใจจากกองเชียร์เหมือนกัน อีกอย่างตอนนี้ฟุตบอลไทยกำลังพัฒนาไปได้ดี เชื่อว่าผู้ชมจะได้ดูการแข่งขันที่สนุกและมีคุณภาพแน่นอน”
