xs
xsm
sm
md
lg

“แลมพ์-สตีวี” เบิล สิงโตเขมือบ 5-1 ตีตั๋วบอลโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟรงค์ แลมพาร์ด และ สตีเวน เจอร์ราร์ด เหมาคนละ 2 เม็ด ช่วยให้ อังกฤษ เปิดบ้านไล่ทะลวง โครเอเชีย หงายพังพาบ 5-1 พร้อมทั้งการันตีสิทธิ์เข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้ได้สำเร็จ



ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 6
อังกฤษ 5–1 โครเอเชีย

แลมพาร์ด ฉลองประตูนำ 1-0
ที่สนามเวมบลีย์ อังกฤษ จ่าฝูงกลุ่ม 6 เปิดบ้านต้อนรับ โครเอเชีย ซึ่งหากเจ้าบ้านชนะจะตีตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้ทันที เกมนี้ ฟาบิโอ คาเปลโล กุนซือชาวอิตาลีส่ง อารอน เลนนอน ลงทำเกมทางกราบขวา โดยมี เวย์น รูนีย์ กับ เอมิล เฮสกีย์ เป็นคู่หัวหอก ด้านทีมเยือนนำโดยกองหน้าตัวความหวังอย่าง เอดูอาร์โด ดา ซิลวา และ อิวิกา โอลิช
จอห์นสัน กด ดูดู้ แต่ไม่เสียจุดโทษ
หลังเขี่ยลูกเริ่มเล่นมาได้เพียง 7 นาที เลนนอน ก็แผลงฤทธิ์ด้วยการเลื้อยเข้าเขตโทษก่อนถูก โยซิป ซิมูนิช ดักล้มลง ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษโดยไม่ลังเล ซึ่ง แฟรงค์ แลมพาร์ด รับหน้าที่กดผ่านมือ เวดราน รุนเย เสียบมุมอย่างเด็ดขาดให้ทัพสิงโตได้คำรามก่อน 1-0 จากนั้นนาทีที่ 13 แกเร็ธ แบร์รี มีจังหวะกระทุ้งบอลติดไซด์ก้อยเล็กน้อย แต่ รุนเย ยังพุ่งปัดได้อย่างยอดเยี่ยม

ขุนพลหมากรุกหาทางตอบโต้บ้าง นาทีที่ 17 มาริโอ มานด์ซูคิช เก็บตกซัดในเขตโทษจากจังหวะที่กองหลังอังกฤษเคลียร์ไม่ขาด ทว่าข้ามคานออกไป ถัดมานาทีเดียว อังกฤษ ก็ขยับสกอร์บอร์ดเป็น 2-0 เมื่อ เลนนอน บรรจงหยอดจากริมเส้นด้านขวาลึกไปถึงเสาสอง สตีเวน เจอร์ราร์ด สอดเข้ามาโหม่งจากด้านหลัง ดาริโย เซอร์นา หนีมือ รุนเย เข้าสู่ก้นตาข่าย

เกมยังเป็นของพลพรรคทรี ไลออนส์ โดยตลอด นาทีที่ 35 รูนีย์ แทงให้ เลนนอน สปีดเข้าไปชิปในเขตโทษ แต่ รุนเย ไม่ยอมเสียประตูเพิ่มล้มตัวปัดไว้ได้ทัน จากนั้นนาทีที่ 43 เลนนอน จ่ายให้ เฮสกีย์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลเดี่ยวกับ รุนเย ในเขตโทษ ทว่าหัวหอกวีแกน แอธเลติก ซัดไม่ผ่านมือ รุนเย จบครึ่งแรก อังกฤษ นำอยู่ 2-0
แฟนบอลจอมซ่าลงมาป่วนในครึ่งหลัง
เข้าสู่ครึ่งหลัง โครเอเชีย พยายามกลับสู่เกมโดยเร็ว นาทีที่ 50 เซอร์นา เล่นลูกเตะมุมเร็วด้วยการเปิดให้ มานด์ซูคิช โฉบเข้ามายิงที่เสาแรก แต่ก็ข้ามคานออกหลัง จากนั้น 5 นาที เอดูอาร์โด โดน เกล็น จอห์นสัน กดไหล่ในเขตโทษจากจังหวะที่พยายามโถมเข้าโหม่งพังประตู แต่ผู้ตัดสิน อัลเบร์โต อุนเดียโน ไม่เป่าให้เป็นจุดโทษ ทำให้ สลาเวน บิลิช กุนซือหมากรุกโวยผู้ตัดสินที่ 4 เป็นการใหญ่ที่ข้างสนาม

สิงโตคำรามไม่ยอมปรานีให้กับอาคันตุกะด้วยการทะลวงเพิ่มเป็น 3-0 ในนาทีที่ 59 เมื่อ จอห์นสัน เติมขึ้นมาทางขวาก่อนพาบอลไปถึงเส้นหลังแล้วเปิดเข้ากลางให้ แลมพาร์ด โขกหนีมือ รุนเย เสียบมุมเป็นประตูที่ 2 ของมิดฟิลด์เชลซีในนัดนี้ ก่อนที่ เจอร์ราร์ด จะมาเบิ้ลสกอร์ให้ตัวเองได้เช่นกันในนาทีที่ 67 จากการสอดเข้ามาโหม่งลูกเปิดโด่งของ รูนีย์ ส่งบอลย้อยเข้าไปเป็น 4-0

โครแอตมาเจาะตาข่ายได้สำเร็จในนาทีที่ 72 เริ่มจาก เอดูอาร์โด โขกในเขตโทษถูก โรเบิร์ต กรีน ล้มตัวปัดได้หวุดหวิดก่อนที่ มลาเดน เปทริช จะคืนหลังให้ มานด์ซูคิช ยิงจังหวะสองติดเซฟของ กรีน อีก ทว่าดาบสามเป็น “ดูดู้” ซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือ ไล่ตามมาห่างๆ 1-4 แต่เพียงแค่ 5 นาทีต่อมาขุนพลนักเตะผู้ดีก็ทะยานนำเป็น 5-1 จากความผิดพลาดของ รุนเย ที่หวดลูกคืนหลังของ อิวิกา คริซานัช ไม่ดีมาเข้าทาง รูนีย์ เก็บตกซัดง่ายๆ กระทั่งจบ 90 นาทีด้วยสกอร์นี้ อังกฤษ จึงชนะเป็นนัดที่ 8 ติดต่อกัน ตีตั๋วไปลุยเวิลด์คัพแน่นอนแล้วจากการมี 24 คะแนน เป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม 6 นำหน้า โครเอเชีย อยู่ถึง 7 คะแนน

รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
อังกฤษ
– โรเบิร์ต กรีน, เกล็น จอห์นสัน, จอห์น เทอร์รี, แม็ทธิว อัพสัน, แอชลีย์ โคล, อารอน เลนนอน, แฟรงค์ แลมพาร์ด, แกเร็ธ แบร์รี, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เวย์น รูนีย์, เอมิล เฮสกีย์

โครเอเชีย – เวดราน รุนเย, ดาริโย เซอร์นา, อิวิกา คริซานัช, โยซิป ซิมูนิช, ดานิเยล ปรานยิช, มาริโอ มานด์ซูคิช, อ็อกเยน วูโคเยวิช, นิโกลา โปคริวัช, นิโก ครานชาร์, อิวิกา โอลิช, เอดูอาร์โด ดา ซิลวา

ส่วนผลคู่อื่นที่น่าสนใจ โปรตุเกส บุกเฉือน ฮังการี 1-0 โดย เปเป้ ปราการหลังเติมขึ้นมาโหม่งลูกฟรีคิกของ เดโก ในนาทีที่ 10 ทำให้ "ฝอยทอง" ยังมีลุ้นผ่านเข้ารอบสุดท้ายใน 2 นัดที่เหลือ หลังจากเตะ 8 นัด มี 13 คะแนน ตามหลัง เดนมาร์ก จ่าฝูงกลุ่ม 1 อยู่ 5 คะแนน และ สวีเดนทีมอันดับ 2 อยู่ 2 คะแนน

ด้าน ฝรั่งเศส ก็ยังต่อลมหายใจในการตีตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายได้เช่นกันจากการบุกไปเสมอ เซอร์เบีย ทีมนำกลุ่ม 7 ถึงถิ่น 1-1 โดยที่ "ตราไก่" เหลือ 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 10 เมื่อ ฮูโก ยอริส ผู้รักษาประตูทำฟาวล์ นิโกลา ซิกิช ที่กำลังแตะหลบในเขตโทษ ซึ่ง เนนาด มิลิยาส สังหารจุดโทษให้เซิร์บนำ 1-0 ก่อนที่ เธียร์รี อองรี จะตามซ้ำลูกยิงของ นิโกลาส์ อเนลกา ตีเสมอในนาทีที่ 31 จบเกมนี้ ฝรั่งเศส รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม มี 15 คะแนนตามหลัง เซอร์เบีย 4 แต้มโดยเหลืออีก 2 นัด

ขณะที่ สเปน กลายเป็นทีมที่ 3 ของโซนยุโรปต่อจาก ฮอลแลนด์ และ อังกฤษ ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายแน่นอนแล้ว หลังเฝ้าบ้านถล่ม เอสโตเนีย 3-0 โดยได้ประตูจาก เชส ฟาเบรกาส, ซานติ คาซอร์ลา และ ฆวน มาตา ในนาทีที่ 32, 82 และ 90 ตามลำดับ ครองจ่าฝูงกลุ่ม 5 โดยมี24 คะแนน ทิ้งห่าง บอสเนีย อยู่ 8 แต้มโดยเหลืออีกเพียง 2 เกม

ผลฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป
กลุ่ม 1
มอลต้า แพ้ สวีเดน 0-1
แอลเบเนีย เสมอ เดนมาร์ก 1-1
ฮังการี แพ้ โปรตุเกส 0-1

กลุ่ม 2
อิสราเอล ชนะ ลักเซมเบิร์ก 7-0
ลัตเวีย เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 2-2
มอลโดวา เสมอ กรีซ 1-1

กลุ่ม 3
สาธารณรัฐเช็ก ชนะ ซาน มาริโน 7-0
ไอร์แลนด์เหนือ แพ้ สโลวาเกีย 0-2
สโลวีเนีย ชนะ โปแลนด์ 3-0

กลุ่ม 4
ลิกเตนสไตน์ เสมอ ฟินแลนด์ 1-1
เยอรมนี ชนะ อาเซอร์ไบจาน 4-0
เวลส์ แพ้ รัสเซีย 1-3

กลุ่ม 5
อาร์เมเนีย ชนะ เบลเยียม 2-1
บอสเนียฯ เสมอ ตุรกี 1-1
สเปน ชนะ เอสโตเนีย 3-0

กลุ่ม 6
เบลารุส เสมอ ยูเครน 0-0
อันดอร์รา แพ้ คาซัคสถาน 1-3
อังกฤษ ชนะ โครเอเชีย 5-1

กลุ่ม 7
หมู่เกาะแฟโร ชนะ ลิธัวเนีย 2-1
โรมาเนีย เสมอ ออสเตรีย 1-1
เซอร์เบีย เสมอ ฝรั่งเศส 1-1

กลุ่ม 8
มอนเตเนโกร เสมอ ไซปรัส 1-1
อิตาลี ชนะ บัลแกเรีย 2-0

กลุ่ม 9
นอร์เวย์ ชนะ มาซิโดเนีย 2-1
สกอตแลนด์ แพ้ ฮอลแลนด์ 0-1
กำลังโหลดความคิดเห็น