คอลัมน์ ON TRACK โดย เด็กปั๊ม
เดิมทีว่าจะหยิบยกเรื่องราวของทีมเรโนลต์ในศึกรถสูตรหนึ่ง ที่ล่าสุดกำลังตกที่นั่งลำบากเนื่องจากถูกสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) สั่งสอบสวนคดีล็อคผลการแข่งขันสิงคโปร์ จีพี 2008 มาพูดคุยกัน ทว่าเมื่อเหลือบไปเห็นหมวกกันน็อคของ วาเลนติโน รอสซี ในศึกโมโตจีพีรายการ ซาน มาริโน เมื่อคืนวันอาทิตย์ ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า "เดอะด็อดเตอร์" แกมามุกไหนกันแน่
เอาเป็นว่าผมขอยกเอาเรื่องคดีฉาวเรโนลต์ในศึกเอฟวันไปพูดคุยกันในสัปดาห์หน้า เพื่อมาไขข้อสงสัยว่า เพราะเหตุใดยอดนักบิดแชมป์โลก 8 สมัย ถึงอุตรินำหมวกกันน็อคลายใหม่ที่มีเจ้าลา Donkey จากภาพยนตร์เรื่อง Shrek มาใช้ในการบิดสนามดังกล่าว มิหนำซ้ำเมื่อถอดหมวกในช่วงขึ้นโพเดียมแกยังนำหูลามาใส่เป็นการฉลองแชมป์อีกด้วย
ขึ้นชื่อว่าเป็นนักบิดอัจฉริยะทำอะไรไม่มีที่มาคงไม่ใช่ "เดอะด็อดเตอร์" แน่นอน เพราะเมื่อสืบเสาะไปแล้ว รอสซี แกเผยก่อนลงทำศึกซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ ที่มิซาโน เซอร์กิต สนามที่อยู่ห่างจากบ้านพักของตัวเองเพียง 15 กิโลเมตรว่า ต้องการนำหมวกลายเจ้า ลา Donkey ลงบิดรายการนี้โดยเฉพาะ
ซึ่งเจ้าตัวให้เหตุผลว่าถึงคอนเซปต์ในครั้งนี้ว่า เกิดจากความต้องการส่วนตัวที่จะลบความผิดหวังจากการพลาดล้มในศึกอินเดียนาโพลิส จีพี ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนให้เร็วที่สุด จึงขอสร้างความสุขให้แฟนๆในสนามมิซาโน ด้วยการใส่หมวกลวดลายเจ้า Donkey สุดฮาลงแข่งขัน
ขณะเดียวกันรอสซียังบอกด้วยครับว่า เหตุผลที่ต้องใช้เจ้าลาตัวนี้มาเป็นสัญลักษณ์ ก็เพราะตามธรรมเนียมของอิตาลี ใครที่ทำผิดพลาดแบบโง่ๆ ก็มักจะถูกตราหน้าว่าเจ้าลาโง่ ซึ่งก็เปรียบเสมือนตนเองที่พลาดแบบไม่น่าให้อภัยจนไม่จบการแข่งขันที่อินเดียนาโพลิสนั่นเอง
โดยในการแข่งขันที่สนามอินเดียนาโพลิส มอเตอร์ สปีดเวย์ เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี ที่รอสซีต้องออกจากการแข่งขันด้วยสาเหตุพลาดล้มด้วยตัวเอง หลังจากเคยทำตัวเป็นลาโง่ครั้งก่อนหน้านี้ ในการแข่งขันที่สนามบาเลนเซีย ประเทศสเปนในปี 2007 โน้นเลย
ฟังดูแบบผิวเผินเหตุผลของรอสซีอาจออกจะไปในทางเอาฮาอย่างเดียว ทว่าเมื่อมองลงไปลึกๆแล้ว นี่คือความมุ่งมั่นของยอดนักบิดที่เก่งที่สุดในโลก ที่นำเอาข้อผิดพลาดของตัวเองมาเป็นแรงกระตุ้น ให้กลับมาชนะในสนามแข่งได้อีกครั้ง ซึ่งในที่สุดเจ้าลาโง่หมายเลข 46 ก็ทำสำเร็จด้วยแชมป์รายการนี้จริงๆเสียด้วยครับ แหม่...ทำไปได้
เดิมทีว่าจะหยิบยกเรื่องราวของทีมเรโนลต์ในศึกรถสูตรหนึ่ง ที่ล่าสุดกำลังตกที่นั่งลำบากเนื่องจากถูกสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) สั่งสอบสวนคดีล็อคผลการแข่งขันสิงคโปร์ จีพี 2008 มาพูดคุยกัน ทว่าเมื่อเหลือบไปเห็นหมวกกันน็อคของ วาเลนติโน รอสซี ในศึกโมโตจีพีรายการ ซาน มาริโน เมื่อคืนวันอาทิตย์ ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า "เดอะด็อดเตอร์" แกมามุกไหนกันแน่
เอาเป็นว่าผมขอยกเอาเรื่องคดีฉาวเรโนลต์ในศึกเอฟวันไปพูดคุยกันในสัปดาห์หน้า เพื่อมาไขข้อสงสัยว่า เพราะเหตุใดยอดนักบิดแชมป์โลก 8 สมัย ถึงอุตรินำหมวกกันน็อคลายใหม่ที่มีเจ้าลา Donkey จากภาพยนตร์เรื่อง Shrek มาใช้ในการบิดสนามดังกล่าว มิหนำซ้ำเมื่อถอดหมวกในช่วงขึ้นโพเดียมแกยังนำหูลามาใส่เป็นการฉลองแชมป์อีกด้วย
ขึ้นชื่อว่าเป็นนักบิดอัจฉริยะทำอะไรไม่มีที่มาคงไม่ใช่ "เดอะด็อดเตอร์" แน่นอน เพราะเมื่อสืบเสาะไปแล้ว รอสซี แกเผยก่อนลงทำศึกซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ ที่มิซาโน เซอร์กิต สนามที่อยู่ห่างจากบ้านพักของตัวเองเพียง 15 กิโลเมตรว่า ต้องการนำหมวกลายเจ้า ลา Donkey ลงบิดรายการนี้โดยเฉพาะ
ซึ่งเจ้าตัวให้เหตุผลว่าถึงคอนเซปต์ในครั้งนี้ว่า เกิดจากความต้องการส่วนตัวที่จะลบความผิดหวังจากการพลาดล้มในศึกอินเดียนาโพลิส จีพี ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนให้เร็วที่สุด จึงขอสร้างความสุขให้แฟนๆในสนามมิซาโน ด้วยการใส่หมวกลวดลายเจ้า Donkey สุดฮาลงแข่งขัน
ขณะเดียวกันรอสซียังบอกด้วยครับว่า เหตุผลที่ต้องใช้เจ้าลาตัวนี้มาเป็นสัญลักษณ์ ก็เพราะตามธรรมเนียมของอิตาลี ใครที่ทำผิดพลาดแบบโง่ๆ ก็มักจะถูกตราหน้าว่าเจ้าลาโง่ ซึ่งก็เปรียบเสมือนตนเองที่พลาดแบบไม่น่าให้อภัยจนไม่จบการแข่งขันที่อินเดียนาโพลิสนั่นเอง
โดยในการแข่งขันที่สนามอินเดียนาโพลิส มอเตอร์ สปีดเวย์ เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี ที่รอสซีต้องออกจากการแข่งขันด้วยสาเหตุพลาดล้มด้วยตัวเอง หลังจากเคยทำตัวเป็นลาโง่ครั้งก่อนหน้านี้ ในการแข่งขันที่สนามบาเลนเซีย ประเทศสเปนในปี 2007 โน้นเลย
ฟังดูแบบผิวเผินเหตุผลของรอสซีอาจออกจะไปในทางเอาฮาอย่างเดียว ทว่าเมื่อมองลงไปลึกๆแล้ว นี่คือความมุ่งมั่นของยอดนักบิดที่เก่งที่สุดในโลก ที่นำเอาข้อผิดพลาดของตัวเองมาเป็นแรงกระตุ้น ให้กลับมาชนะในสนามแข่งได้อีกครั้ง ซึ่งในที่สุดเจ้าลาโง่หมายเลข 46 ก็ทำสำเร็จด้วยแชมป์รายการนี้จริงๆเสียด้วยครับ แหม่...ทำไปได้