“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกเฉือน “ปอมปีย์” ปอร์ทสมัธ 1-0 ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ของตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขณะที่ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ได้จุดโทษช่วงทดเจ็บเบียดชนะ วีแกน แอธเลติก 2-1
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ปอร์ทสมัธ 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี
พอล ฮาร์ท มีปัญหาจัดทัพ “ปอมปีย์” ปอร์ทสมัธ เล็กน้อยในการเปิดบ้านชน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี เมื่อ เดวิด เจมส์ เจ็บเข่าไม่ฟิต ทำให้ต้องส่ง อัสเมียร์ เบโกวิช ลงเฝ้าเสา แต่เจ้าถิ่นก็ใส่แข้งใหม่อย่าง ทอมมี สมิธ และ ไมเคิล บราวน์ ลงเติมแดนกลางทันที ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส ปรับหมากให้ทีมเยือนแค่ตำแหน่งเดียวพัก โรบินโญ พร้อมกับให้ เคร็ก เบลลามี ลงมาเพิ่มพลังในเกมรุก
เริ่มเกมการแข่งขัน ปอร์ทสมัธ แม้ชื่อชั้นเป็นรองแต่การเล่นในแฟรตตัน ปาร์ค ต่อหน้าแฟนๆ ทำให้ดันเกมสู้ ไล่กดดันนักเตะของ แมนฯ ซิตี ได้ดีพอสมควร และเจ้าถิ่นก็มีโอกาสก่อนจากจังหวะหลุดเข้าไปยิงของ เฟรเดริก ปิกิยอน แต่บอลเข้าแค่ข้างตาข่าย ทีมเยือนมีลุ้นบ้างจากฟรีคิกของ คาร์ลอส เตเบซ แต่บอลหลุดกรอบแบบได้ลุ้น จากนั้น “เรือใบสีฟ้า” น่าจะได้ประตูอีกครั้งจากลูกโยนเข้าไปชุลมุนหน้าประตู ไมกาห์ ริชาร์ดส แตะบอลในกรอบ 6 หลาแต่ อัสเมียร์ เบโกวิช ใช้มือเกี่ยวลูกหนังติดมือหวุดหวิด
ถึงครึ่งชั่วโมง แมนฯ ซิตี ก็มาได้ประตูนำ 1-0 เมื่อได้ลูกเตะมุม แกเร็ธ แบร์รี โยนเข้ามาอย่างเหมาะเหม็งให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ทะยานโหม่งบอลตุงตาข่าย พอเสียประตู “ปอมปีย์” ดันเกมลุยเข้าใส่หวังทวงประตูคืน แต่จังหวะสวนกลับของทีมเยือนทำให้ตาข่ายเจ้าถิ่นสั่นอีกครั้ง เคร็ก เบลลามี หลุดขึ้นมาทางซ้ายเปิดใส่พานเข้าในให้ ไมกาห์ ริชาร์ดส สอดเข้ามาแปโล่งๆ ไม่เหลือ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า แบร์รี ซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ กับ ริชาร์ดส ทำให้ผู้มาเยือนชวดประตูทิ้งห่าง อย่างไรก็ดี จบ 45 นาทียังประคองตัวนำไว้ได้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังไม่นานแฟนๆ เจ้าบ้านเฮเก้อ แม้ ไมเคิล บราวน์ ตะบันบอลเข้าไปเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม แต่ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ผู้ตัดสินเป่าเป็นแฮนด์บอลมิดฟิลด์ “ปอมปีย์” ซะก่อน จากการเข้าไปบล็อกลูกเคลียร์ทิ้งของ โคโล ตูเร นาทีที่ 52 แมนฯ ซิตี ได้ลุ้นบ้างเมื่อได้ลูกฟรีคิกริมกรอบโทษ เบลลามี กึ่งยิงกึ่งผ่านมาหน้าประตูร้อนถึง ยูเนส กาบูล ต้องโหม่งทิ้งไป จังหวะถัดมาโอกาสเป็นของทีมเยือนอีกครั้ง อเดบายอร์ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวลากฝ่าเข้าไปยิงเน้นๆ เบโกวิช ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟ
หนึ่งชั่วโมงพอดี ริชาร์ดส ประสบปัญหาบาดเจ็บ ทำให้ มาร์ค ฮิวจ์ส ต้องขยับส่ง ปาโบล ซาบาเลตา ลงมาปักหลักยืนแบ็กขวาแทน จากนั้นเป็นทาง ปอร์ทสมัธ เริ่มเร่งเครื่องบุกกดดัน พอล ฮาร์ท เติม จอห์น อูตากา เสริมเกมรุกและ อูตากา ก็เกือบแผลงฤทธิ์แตะหลบ เวย์น บริดจ์ ก่อนหวดด้วยซ้ายบอลโค้งหลุดกรอบแบบได้เสียว ท้ายเกม เดวิด นูเจนท์ อีกหนึ่งตัวสำรองพักอกยิงในกรอบโทษแต่บอลพุ่งไปติดอก เชย์ กิฟเวน ครบ 90 นาที “เรือใบสีฟ้า” ประคองตัวเบียดชัยหวิว เก็บ 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัดขึ้นที่ 4 ของตาราง ขณะที่ “ปอมปีย์” ยังไร้แต้มเมื่อลงเล่นไป 4 เกม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ : อัสเมียร์ เบโกวิช , แอนโธนีย์ แวนเดน บอร์เร , ยูเนส กาบูล , อารอน โมโคเอนา , นาเดียร์ เบลฮาดจ์ , ทอมมี สมิธ , เฮย์เดน มัลลินส์ , ริชาร์ด ฮิวจ์ส , ไมเคิล บราวน์ , นิโก ครันจ์ชาร์ , เฟรเดริก ปิกิยอน
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน , ไมกาห์ ริชาร์ดส , โคโล ตูเร , โจลีออน เลสคอตต์ , เวย์น บริดจ์ , ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , แกเร็ธ แบร์รี , เคร็ก เบลลามี , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ , คาร์ลอส เตเบซ
ส่วนผลการแข่งขันระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ วีแกน แอธเลติก ปรากฏว่า “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” พลิกสถานการณ์กลับมาคว้าชัย 2-1 โดยทีมเยือนนำก่อนจาก พอล ชาร์เนอร์ (น.57) ส่วนเจ้าบ้านได้คืนสองลูกรวดจาก หลุยส์ ซาฮา (น.62) และ เลห์ตัน เบนส์ ซัดจุดโทษนำชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
สำหรับคู่ดึกประจำคืนวันอาทิตย์ ปรากฏว่า “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา เปิดรังเขมือบ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแลม 2-0 โดย จอห์น เพนท์ซิล ทำเข้าประตูตัวเองตั้งแต่นาทีที่ 3 ก่อนที่ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ มาซัดประตูสุดสวยย้ำชัยนาที 59
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ปอร์ทสมัธ 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี
พอล ฮาร์ท มีปัญหาจัดทัพ “ปอมปีย์” ปอร์ทสมัธ เล็กน้อยในการเปิดบ้านชน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี เมื่อ เดวิด เจมส์ เจ็บเข่าไม่ฟิต ทำให้ต้องส่ง อัสเมียร์ เบโกวิช ลงเฝ้าเสา แต่เจ้าถิ่นก็ใส่แข้งใหม่อย่าง ทอมมี สมิธ และ ไมเคิล บราวน์ ลงเติมแดนกลางทันที ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส ปรับหมากให้ทีมเยือนแค่ตำแหน่งเดียวพัก โรบินโญ พร้อมกับให้ เคร็ก เบลลามี ลงมาเพิ่มพลังในเกมรุก
เริ่มเกมการแข่งขัน ปอร์ทสมัธ แม้ชื่อชั้นเป็นรองแต่การเล่นในแฟรตตัน ปาร์ค ต่อหน้าแฟนๆ ทำให้ดันเกมสู้ ไล่กดดันนักเตะของ แมนฯ ซิตี ได้ดีพอสมควร และเจ้าถิ่นก็มีโอกาสก่อนจากจังหวะหลุดเข้าไปยิงของ เฟรเดริก ปิกิยอน แต่บอลเข้าแค่ข้างตาข่าย ทีมเยือนมีลุ้นบ้างจากฟรีคิกของ คาร์ลอส เตเบซ แต่บอลหลุดกรอบแบบได้ลุ้น จากนั้น “เรือใบสีฟ้า” น่าจะได้ประตูอีกครั้งจากลูกโยนเข้าไปชุลมุนหน้าประตู ไมกาห์ ริชาร์ดส แตะบอลในกรอบ 6 หลาแต่ อัสเมียร์ เบโกวิช ใช้มือเกี่ยวลูกหนังติดมือหวุดหวิด
ถึงครึ่งชั่วโมง แมนฯ ซิตี ก็มาได้ประตูนำ 1-0 เมื่อได้ลูกเตะมุม แกเร็ธ แบร์รี โยนเข้ามาอย่างเหมาะเหม็งให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ทะยานโหม่งบอลตุงตาข่าย พอเสียประตู “ปอมปีย์” ดันเกมลุยเข้าใส่หวังทวงประตูคืน แต่จังหวะสวนกลับของทีมเยือนทำให้ตาข่ายเจ้าถิ่นสั่นอีกครั้ง เคร็ก เบลลามี หลุดขึ้นมาทางซ้ายเปิดใส่พานเข้าในให้ ไมกาห์ ริชาร์ดส สอดเข้ามาแปโล่งๆ ไม่เหลือ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า แบร์รี ซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ กับ ริชาร์ดส ทำให้ผู้มาเยือนชวดประตูทิ้งห่าง อย่างไรก็ดี จบ 45 นาทียังประคองตัวนำไว้ได้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังไม่นานแฟนๆ เจ้าบ้านเฮเก้อ แม้ ไมเคิล บราวน์ ตะบันบอลเข้าไปเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม แต่ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ผู้ตัดสินเป่าเป็นแฮนด์บอลมิดฟิลด์ “ปอมปีย์” ซะก่อน จากการเข้าไปบล็อกลูกเคลียร์ทิ้งของ โคโล ตูเร นาทีที่ 52 แมนฯ ซิตี ได้ลุ้นบ้างเมื่อได้ลูกฟรีคิกริมกรอบโทษ เบลลามี กึ่งยิงกึ่งผ่านมาหน้าประตูร้อนถึง ยูเนส กาบูล ต้องโหม่งทิ้งไป จังหวะถัดมาโอกาสเป็นของทีมเยือนอีกครั้ง อเดบายอร์ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวลากฝ่าเข้าไปยิงเน้นๆ เบโกวิช ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟ
หนึ่งชั่วโมงพอดี ริชาร์ดส ประสบปัญหาบาดเจ็บ ทำให้ มาร์ค ฮิวจ์ส ต้องขยับส่ง ปาโบล ซาบาเลตา ลงมาปักหลักยืนแบ็กขวาแทน จากนั้นเป็นทาง ปอร์ทสมัธ เริ่มเร่งเครื่องบุกกดดัน พอล ฮาร์ท เติม จอห์น อูตากา เสริมเกมรุกและ อูตากา ก็เกือบแผลงฤทธิ์แตะหลบ เวย์น บริดจ์ ก่อนหวดด้วยซ้ายบอลโค้งหลุดกรอบแบบได้เสียว ท้ายเกม เดวิด นูเจนท์ อีกหนึ่งตัวสำรองพักอกยิงในกรอบโทษแต่บอลพุ่งไปติดอก เชย์ กิฟเวน ครบ 90 นาที “เรือใบสีฟ้า” ประคองตัวเบียดชัยหวิว เก็บ 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัดขึ้นที่ 4 ของตาราง ขณะที่ “ปอมปีย์” ยังไร้แต้มเมื่อลงเล่นไป 4 เกม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ : อัสเมียร์ เบโกวิช , แอนโธนีย์ แวนเดน บอร์เร , ยูเนส กาบูล , อารอน โมโคเอนา , นาเดียร์ เบลฮาดจ์ , ทอมมี สมิธ , เฮย์เดน มัลลินส์ , ริชาร์ด ฮิวจ์ส , ไมเคิล บราวน์ , นิโก ครันจ์ชาร์ , เฟรเดริก ปิกิยอน
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน , ไมกาห์ ริชาร์ดส , โคโล ตูเร , โจลีออน เลสคอตต์ , เวย์น บริดจ์ , ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , แกเร็ธ แบร์รี , เคร็ก เบลลามี , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ , คาร์ลอส เตเบซ
ส่วนผลการแข่งขันระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ วีแกน แอธเลติก ปรากฏว่า “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” พลิกสถานการณ์กลับมาคว้าชัย 2-1 โดยทีมเยือนนำก่อนจาก พอล ชาร์เนอร์ (น.57) ส่วนเจ้าบ้านได้คืนสองลูกรวดจาก หลุยส์ ซาฮา (น.62) และ เลห์ตัน เบนส์ ซัดจุดโทษนำชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
สำหรับคู่ดึกประจำคืนวันอาทิตย์ ปรากฏว่า “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา เปิดรังเขมือบ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแลม 2-0 โดย จอห์น เพนท์ซิล ทำเข้าประตูตัวเองตั้งแต่นาทีที่ 3 ก่อนที่ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ มาซัดประตูสุดสวยย้ำชัยนาที 59