"น้องสอง" บุตรี เผือดผ่อง และ เจียรณัฎฐ์ นาคะวิโรจน์ 2 จอมเตะเทควันโดทีมชาติไทย ประเดิมไม่สวยหลังพ่ายคู่แข่งชวดเหรียญทอง ก่อนจะมาได้ รภัทรกร ประสพสุข คว้าเหรียญทองกู้หน้ามาได้ในศึกมาร์เชียลอาร์ทเกมส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
การแข่งขันกีฬาเอเชียน มาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2552 ณ อินดอร์สเตเดียมหัวหมาก เป็นการแข่งขันกีฬาเทควันโดโดยมีการชิงชัยกัน 4 เหรียญทอง ซึ่งมี 3 นักกีฬาทีมชาติไทย ประกอบด้วย "น้องสอง" บุตรี เผือดผ่อง ลงแข่งขันในรุ่นฟินเวทหญิง, "เจ้าบอส" เจียรนัฐ นาคะวิโรจน์ รุ่นฟินเวทชาย และ รภัทรกร ประสพสุข รุ่นเฮฟวีเวทหญิง
ปรากฎว่า "เจ้าบอส" เจียรนัฐ ชิงตกรอบรองชนะเลิศไปก่อน หลังแข่งขันกัน 4 ยก ทำคะแนนเท่ากับ คิม แจ บอง จากเกาหลีใต้ 2-2 คะแนน ต้องไปตัดสินที่จำนวนครั้งของการออกอาวุธ และเป็นนักกีฬาแดนกิมจิที่ออกอาวุธมากกว่าจึงผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ
ขณะที่ "น้องสอง" บุตรี ทะลุมาถึงรอบรองชนะเลิศ ดวลกับ คริสตินา เหลย จากมาเก๊า และเป็นสาวไทยที่เหนือชั้นกว่าเมื่อเอาชนะอาร์เอสซีเอาท์คลาส 7-0 คะแนน ในยกที่ 2 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ คิม มิน จู จอมเตะชาวเกาหลีใต้
ซึ่งการดวลกันในยกแรก "เจ้าสอง" ออกนำไปก่อน 1-0 คะแนน ขณะที่ในยกถัดมาจอมเตะแดนกิมจิเอาคืนได้เสมอกัน 1-1 คะแนน อย่างไรก็ตามช่วงท้ายเกมทั้งคู่เอาแต่จดจ้องไม่ออกอาวุธ จึงถูกผู้ตัดสินตัดคนละ 1 คะแนน จึงมาเสมอกันที่ 0-0 เหมือนเดิมกระทั่งหมดยก
ยกที่ 3 สาวไทยดักเตะได้แต้มออกนำเป็น 1-0 อีกครั้ง ทว่า มิน จู ยังเตะไล่ทำคะแนนมาเสมอกัน 1-1 อีกครั้งทำให้ต้องมาตัดสินกันต่อในยกที่ 4 ซึ่งเป็น คิม มิน จู ที่อาศัยจังหวะที่ดีกว่าในช่วงต้นยกเตะทำคะแนนชนะ "น้องสอง" 1-0 คะแนน พร้อมกับคว้าเหรียญทองไปครอง ขณะที่สาวไทยได้เพียงเหรียญเงินเท่านั้น
ส่วน รภัทรกร ประสพสุข สาวไทยที่ลงแข่งขันรุ่นเฮฟวีเวท โชว์เพลงเตะสุดสะเด่าเอาชนะ เอฟเกนิยา คาริโมวา จากอุซเบกิสถานไปอย่างสวยงามในรอบชิงชนะเลิศ 3-0 คะแนน พร้อมกับคว้าเหรียญทองแรกให้กับทีมเทควันโดไทยได้สำเร็จ
นอกเหนือจาก 3 เหรียญรางวัลจากกีฬาเทควันโดข้างต้นแล้ว ทัพนักกีฬาไทยยังได้อีก 1 เหรียญทองแดงจาก จุฬาลักษณ์ เยียอ้น นักยูโดที่คว้ามาได้จากการลงแข่งรุ่นฮาล์ฟ มิดเดิลเวท (มากกว่า 57 กก. แต่ไม่เกิน 63 กก.)
ส่วนนักยูโดไทยอีก 3 ราย คือ ขวัญชนก จาติกวณิช ลงแข่งรุ่น 48 กก.หญิง พ่ายรอบแรกต่อ ฟิลิปโปวา มาร์การิตา จากเติร์กเมนิสถาน ขณะที่ อิทธิพงษ์ ธนาภรณ์ ลงรุ่น 60 กก.ชาย แพ้ในรอบชิงเหรียญทองแดงต่อ คานาท เบอิมเบตอฟ คาซักสถาน เช่นเดียวกับรุ่น 66 กก.ชายที่ มานะวิทย์ สมบูรณ์ แพ้ เหงียน ควอก ฮุง จากเวียดนามในรอบชิงเหรียญทองแดง
สรุปอันดับเหรียญ ทีมชาติไทยอยู่อันดับ 4 ของตาราง มี 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง โดย เกาหลีใต้ เป็นจ่าฝูงมี 4 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ตามมาด้วยญี่ปุ่น มี 4 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง และอันดับ 3 เป็น คาซักสถาน มี 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง
