ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปชุดอายุต่ำกว่า 21 ปีที่ประเทศสวีเดน โม่แข้งกันจนมาถึงรอบชิงชนะเลิศในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายนนี้ โดยคู่ชิงได้แค่ อังกฤษ พบ เยอรมัน ย้อนอดีตคู่ชิงในปี 1982 ที่ในครั้งนั้นยังเป็น เยอรมันตะวันตก และเป็น "สิงโตคำราม" เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 5-4 แต่เหนืออื่นใดในปีนี้คือการแจ้งเกิดของบรรดานักเตะดาวรุ่งที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น เราไปสำรวจกันว่าใครที่มีแววจะก้าวขึ้นไปเป็นซูเปอร์สตาร์คนต่อไปของวงการลูกหนัง
มาร์คุส เบิร์ก (กองหน้า / สวีเดน)
แม้ว่าเจ้าภาพจะตกรอบรองชนะเลิศด้วยการแพ้จุดโทษ อังกฤษ อดสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์สมัยแรก แต่ สวีเดน ก็แสดงให้เห็นว่าไม่เคยไร้สุดยอดดาวยิง เพราะได้แจ้งเกิด เบิร์ก ดาวยิงวัย 22 ปี จากสโมสร โกรนิงเกน ด้วยผลงานตำแหน่งดาวซัลโว 7 ประตู โดดเด่นกว่าพวกศูนย์หน้าที่เล่นให้กับสโมสรดังๆ ของยุโรปอย่าง มาริโอ บาโลเตลลี และ โบยาน เคอร์คิช ดูแววแล้วน่าจะมาเป็นทายาทบรรดาตำนานอย่าง มาร์ติน ดาห์ลิน, เคนเน็ท แอนเดอร์สัน และ เฮนริค ลาร์สสัน ได้สบาย
เบิร์ก จัดเป็นศูนย์หน้าที่มีสไตล์การเล่นครบเครื่องต้มยำ แม้จะสูงเพียงแค่ 183 เซนติเมตร แต่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี มีการยิงประตูและผ่านบอลได้อย่างแม่นยำทั้งเท้าซ้ายและขวา ส่วนในทีมชาติชุดใหญ่ติดธงไปแล้ว 7 นัดทำได้ 1 ประตู ซึ่งการได้เล่นและซ้อมร่วมกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ โยฮัน เอลมานเดอร์ น่าจะช่วยพัฒนาความสามารถของเจ้าหนูรายนี้แบบก้าวกระโดด แต่น่าเสียดายอาจอดไปลุยฟุตบอลโลก 2010 ที่ แอฟริกาใต้ เนื่องจากผลงานของทีมในรอบคัดเลือกไม่ดี
หลังสร้างความปั่นป่วนให้กองหลังของบรรดาสโมสรในลีกประเทศบ้านเกิด เบิร์ก ย้ายจาก โกเตเบิร์ก ในช่วงซัมเมอร์ของปี 2007 ด้วยค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 137 ล้านบาท) ไปอยู่กับ โกรนิงเกน ในฮอลแลนด์ ปีแรกแม้จะยิงได้ถึง 18 ประตูแต่ก็ไม่ได้ตำแหน่งดาวซัลโว ส่วนทีมจบแค่ที่ 7 ของตาราง แต่ฤดูกาล 2008-09 ระเบิดฟอร์มยิง 13 ประตูจาก 15 แมตช์ หากยังยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำแบบนี้ เชื่อเหลือเกินว่าอีกไม่นานน่าจะเข้าตาทีมใหญ่ทั้งใน อิตาลี, สเปน และ อังกฤษ
เซบาสเตียน โจวินโก (กองกลาง / อิตาลี)
โรแบร์ อัคควาเฟรสกา ดาวยิงทีมชาติอิตาลี ทะลวงตาข่ายไปได้ถึง 3 ประตูในศึกชิงแชมป์ยุโรปยู 21 ปีหนนี้ แต่ก็ยังถือว่าไม่โดดเด่นพอ เพราะยามที่ อิตาลี ต้องการประตู หัวหอกวัย 21 ปี จาก อินเตอร์ มิลาน ที่ถูกปล่อยให้กับ กายารี ยืมตัวใช้งานเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาก็ไม่สามารถบันดาลให้กับทีมได้ จนมีอันต้องตกรอบรองชนะเลิศไปด้วยน้ำมือของ เยอรมัน ด้วยสกอร์ 0-1 ทั้งที่ครึ่งแรกทัพ "อัซซูรีน้อย" บุกได้น้ำได้เนื้อกว่าแต่ก็ยิงทิ้งยิงขว้างกันไปเอง
โจวินโก จึงดูโดดเด่นที่สุดในทีมชาติอิตาลีชุดนี้ ตั้งแต่เกมในรอบแบ่งกลุ่มที่เปิดฟรีคิกให้ อัคควาเฟรสกา โหม่งประตูชัยเหนือ สวีเดน 2-1 รวมถึงเดินเกมรุกอย่างหนักและยิงชนคานในเกมชนะ เบลารุส 2-1 ดาวเตะวัย 22 ปี เล่นได้ทั้งปีกและกองหน้าตัวต่ำ จึงถือเป็นหัวใจสำคัญของทีมคอยบงการเกมรุกอย่างแท้จริง
ยูเวนตุส ปล่อย โจวินโก ให้ เอ็มโปลี ยืมตัวใช้งานก่อนจะดึงตัวกลับมาช่วยทีมในฤดูกาล 2008-09 ยิงไปได้ 2 ประตูในเวที กัลโช เซเรีย อา และ โคปปา อิตาเลีย ในฤดูกาลหน้ากองกลางที่สูงเพียง 164 เซนติเมตรน่าจะมีบทบาทมากขึ้นในทีม "เจ้าม้าลาย" เพราะการแขวนสตั๊ดของ พาเวล เนดเวด มิดฟิลด์จอมทัพทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก เหลือเพียงแค่พัฒนาในเรื่องการยิงประตูให้คมกว่านี้รับรองจะเป็นมิดฟิลด์ความหวังใหม่ของทีมชาติอิตาลี ชุดใหญ่ยุคถ่ายเลือดอย่างแน่นอน
มานูเอล นอยเออร์ (ผู้รักษาประตู / เยอรมัน)
นอยเออร์ คือหนึ่งในนักเตะกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ เยอรมัน ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยเฉพาะเกมรอบรองชนะเลิศที่ถูก อิตาลี บุกพับสนาม แต่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ในครึ่งแรกก่อนได้ประตูชัยในครึ่งหลังชนะไปในที่สุด 1-0 สถิติที่ออกมาระบุชัดว่านายด่านจากสโมสร ชาลเก 04 ต้องทำงานหนักจากแนวรุกคู่ต่อสู้ที่ยิงเข้ากรอบถึง 11 ครั้งแถมครองบอลมากกว่า ผิดกับ "อินทรีเหล็ก" ที่ยิงตรงกรอบเพียงแค่ 4 ครั้งเท่านั้น ทั้งหมดก็ต้องยกความดีความชอบให้กับเกมรับ
เยอรมัน เล่นในสไตล์ที่แข็งแกร่งและเกมรับเหนียวแน่นสืบเนื่องกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ในทัวร์นาเมนต์นี้ก็เช่นกันเมื่อ นอยเออร์ ที่ก้าวไปติดธงชุดใหญ่เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เสียประตูแค่ลูกเดียวเท่านั้นให้กับ อังกฤษ ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่เสมอกันไป 1-1 โดยจะต้องมาล้างตากันอีกครั้งในนัดชิงชนะเลิศ
ด้วยอายุเพียงแค่ 23 ปี และหน่วยก้านที่สูงถึง 193 เซนติเมตร ทำให้ นอยเออร์ กลายเป็นความหวังผู้รักษาประตูมือ 1 ทีมชาติเยอรมัน ในอนาคต หลังจากสิ้นสุดยุคของ โอลิเวอร์ คาห์น ที่สำคัญเคยคว้ารางวัลนายทวารที่ดีที่สุดใน บุนเดสลีกา ปี 2007 และนายทวารที่ดีที่สุดในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ปี 2008 อีกด้วย อย่างไรก็ตามพ่อหนุ่มจาก เกลเซนเคียร์เชน อาจจะอยู่กับ ชาลเก ไม่นาน เพราะ บาเยิร์น มิวนิค เริ่มจับตามองแล้ว