นับจากศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกเปลี่ยนการแข่งขันรุ่นใหญ่มาเป็นรุ่นโมโตจีพี (800 ซีซี) ในปี 2002 ไม่มีนักบิดคนไหนยิ่งใหญ่ไปกว่าวาเลนติโน รอสซี ที่คว้าแชมป์โลกไปถึง 5 จาก 7 ปีหลังสุด ทว่าจากผลการแข่งขันในศึกคาตาลัน กรังด์ปรีซ์ ที่ประเทศสเปน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ "เดอะด็อกเตอร์" จะยังคงเป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปได้ครองอย่างสุดมัน ทว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่ฮอร์เก ลอเรนโซ เพื่อนร่วมทีมจากสเปน แสดงให้โลกได้เห็นว่า เขาผู้นี้คือผู้ท้าชิงอันดับ 1 ที่พร้อมเขย่าบัลลังก์แชมป์โลกในฤดูกาลนี้
การดวลความเร็วของ 2 นักบิดค่ายเฟียต-ยามาฮ่า ที่สังเวียนคาตาลุนญา เซอร์กิต เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ได้รับการยกย่องจากสื่อต่างประเทศว่านี่คือการต่อสู้บนแทร็กที่ยอดเยี่ยมที่สุดสนามหนึ่งของโมโตจีพี หลังจาก รอสซี ในฐานะนักบิดรุ่นพี่ ขับเคี่ยวกับลอเรนโซ ที่ออกตัวจากตำแหน่งโพลโพซิชันแบบล้อต่อล้อตลอด 25 รอบการแข่งขัน ก่อนที่ในท้ายที่สุด แชมป์โลก 8 สมัยจากอิตาลีจะคงความอัจฉริยะสมชื่อ ปาดแซงนักซิ่งรุ่นน้องในโค้งสุดท้าย พร้อมทั้งเฉือนเข้าเส้นชัยไปเพียง 0.095 วินาที ต่อหน้ากลางกองเชียร์สแปนิชกว่า 90,000 คนในสนาม
จากชัยชนะของรอสซี ส่งผลให้ยอดนักบิดวัย 30 ปี ขยับคะแนนขึ้นมามี 106 แต้ม ร่วมกับ ลอเรนโซ รุ่นน้องร่วมค่าย รวมไปถึง เคซีย์ สโตเนอร์ อีกหนึ่งเต็งแชมป์จากดูคาติ ทว่าบริษัทรับพนันแบบถูกกฎหมายทุกสำนักในทวีปยุโรปมองว่านักบิดสแปนิชวัย 22 ปี คือศัตรูเบอร์ 1 ของรอสซี เหนือสโตเนอร์ พร้อมทั้งขยับอัตราคว้าแชมป์ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 อันจะส่งผลให้ 2 นักบิดจากทีมเดียวกัน ต้องชิงตำแหน่งแชมป์ประจำปีกันเองในฤดูกาลนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งจากเส้นทางอีก 10 สนามที่เหลือของปีนี้ จะถือเป็นครั้งแรกในชีวิตของ "เดอะด็อกเตอร์" ที่จะมีก้างขวางคอชิ้นโตเป็นเพื่อนร่วมทีมตัวเอง หลังก่อนหน้านี้เคยเบียดแย่งแชมป์กับนักบิดทีมคู่แข่งมาโดยตลอด ซึ่งจากสถิติ 124 เรซของนักบิดหน้าทะเล้น นับจากปี 2002 เป็นต้นมา เขาเพลี้ยงพล้ำให้กับเพื่อนร่วมทีมเพียง 12 สนามเท่านั้น ไล่จากคาร์ลอส เชกา (2 ครั้ง) ,โคลิน เอ็ดเวิร์ดส (4 ครั้ง) และในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุดถูก ลอเรนโซ ลูกคมไปถึง 6 ครั้ง
โดยภายหลังได้ดวลรุ่นน้องแบบมันหยดภายใต้รถ ยามาฮ่า YZR-M1รอสซี ออกมาเผยถึงเส้นทางการไล่ล่าลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 9 ของตัวเองว่า "ผมมั่นใจว่าผลการแข่งขันที่คาตาลัน คือชนะที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตนักแข่งของผม มันเป็นเรซที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ผมรู้ดีว่าลอเรนโซยอดเยี่ยมแค่ไหน และเราก็แสดงให้เห็นแล้วเมื่อดวลกันตัวต่อตัว นี่คือสัญญาณที่บอกว่าผมกำลังจะเจองานหนักไปตลอดฤดูกาลนี้"
ขณะที่นักซิ่งรุ่นน้องในฐานะผู้ท้าชิงอันดับ 1 แม้จะออมายอมรับในความพ่ายแพ้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะรุ่นพี่ในทีมให้ได้ "แม้ว่าจะผิดหวังเล็กๆกับผลที่ออกมาในสนามล่าสุด แต่ก็ถือเป็นเกียรติสำหรับผมที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้กับนักบิดระดับวาเลนติโน โดยเฉพาะการแสดงความกล้าที่จะเอาชนะให้ทุกคนได้เห็น บางทีอาจเป็นเพราะผมยังเด็กและยังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ แต่หากเราทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเช่นนี้ต่อไปในทุกๆสนาม ใครจะไปรู้ล่ะท้ายที่สุดแล้วผมอาจจะเอาชนะเขาก็ได้"
ทางด้านดานิเอเล โรแมกโนลี ทีมบอสคู่ใจของนักบิดเลือดกระทิงดุ ก็แสดงความมั่นใจว่าอันดับ 2 บนโพเดียมในสนามล่าสุดไม่ได้ทำให้ ลอเรนโซ เสียความได้เปรียบในการลุ้นแชมป์โลกฤดูกาลนี้แต่อย่างใด "บรรยากาศในพิตของทีมยามาฮ่าในช่วง 4 รอบสุดท้ายสุดยอดมาก นักบิดทั้ง 2 คนแสดงให้เห็นสปิริตที่ยอดเยี่ยม 20 คะแนนที่ฮอร์เกทำได้ (จากอันดับ 2) ยังทำให้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่แข็งแกร่งในการลุ้นแชมป์โลกต่อไป เช่นเดียวกับวาเลนติโน และเคซีย์ เราหวังว่าจะเขาจะทำผลงานเช่นนี้ต่อไปและขยับได้อีกสัก 1 อันดับในสนามหน้า"
แม้ฮอร์เก ลอเรนโซ จะมีวัยเพียง 22 ปี รวมถึงเคยแสดงความผิดพลาดจนเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บถึง 5 ครั้งในฤดูกาลที่ผ่านมาจนถูกสบประมาทว่าอดีตแชมป์โลก 250 ซีซีรายนี้ ไม่มีทางในการเอาดีได้ในการแข่งขันรุ่นใหญ่ได้ ทว่าจากผลงาน ชนะ 2 สนาม และขึ้นโพเดียมได้ถึง 5 จาก 6 เรซแรกในปีนี้ น่าจะพอการันตีได้ว่า นักซิ่งจากมายอร์กาพร้อมแล้วที่จะก้าวไปเขย่าบัลลังก์ที่รอสซียึดครองมายาวนาน และบางทีเมื่อจบฤดูกาล "เดอะด็อกเตอร์" อาจจะต้องยอมศิโรราบให้กับรุ่นน้องจากทีมเดียวกันก็เป็นได้