คอลัมน์ "The Golf Touch" โดย "วันปีย์ สัจจมาร์ค"
หลังจากการผ่านไม้เริ่มต้นซึ่งช่วยสอนให้เราเล่นกอล์ฟเป็นมาแล้วมาสัก 6 เดือน ถึง 2 ปี นักกอล์ฟส่วนมากมักจะมีอาการ “อยากได้ไม้ใหม่” ความต้องการนี้เจอกันทุกคนรับประกันได้ แต่เหตุผลก็ใช่ว่าจะเป็นเพราะกิเลสเสมอไป เรามีหลักการหรือข้ออ้าง (แล้วแต่มุมมอง) สนับสนุนการตัดสินใจซื้อไม้ใหม่ได้ เนื่องจากเมื่อศึกษาวงสวิงเพิ่มเติม อาจจะทำให้เราเข้าใจเกมส์กอล์ฟของตัวเองได้ดีขึ้น และรู้แน่ชัดว่า อุปกรณ์ที่ถืออยู่ไม่เหมาะกับการเล่นหรือสรีระของเรา
เมื่อวันนั้นมาถึง ไม้ที่ใช่อยู่นั้นจะเทียบเท่ากับอาหารหมดอายุ ซึ่งจะจับต้องอีกไม่ได้เป็นอันขาด เพราะมีเชื้อโรคที่ทำลายวงสวิงติดอยู่ อาการนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและด่วนที่สุด มิฉะนั้นคุณจะเริ่มไม่มีความสุขกับชีวิต กลายเป็นนักกอล์ฟขี้บ่นและอื่นๆอีกมากมาย
ไม้ในช่วงพัฒนาเป็นไม้ที่ควรได้รับการคัดสรรอย่างละเอียดและพร้อมที่จะสู้ราคาเมื่อค้นพบ ที่ Las Vegas ตอนที่ผมอยู่มีร้านให้เช่าไม้กอล์ฟ Brand Name พวกใหม่ล่าสุดอยู่ วันนั้นเช่าไป 5ชุดกับเพื่อนอีก 2-3คน ชุดแรกของใหม่ เหล็ก Callaway Big Bertha สมัยแรกๆ ซึ่งลองแล้วตีง่ายและตรง ชุดที่2 ตอนนั้น เกร็ก นอร์แมน ใช้อยู่คือ King Cobra ตีไกลสุดๆ ชุดที่ 3 Lynx Black cat ออกใหม่ช่วง เฟร็ด คัพเพิล กำลังดังเลย แพงมากเกือบพันเหรียญ นุ่มมือมาก ระยะพอๆกันกับ King Cobra ชุดที่4 ตีห่วยแตก จำไม่ได้แล้วด้วยว่ายี่ห้ออะไร ชุดสุดท้าย Cleaveland VAS ที่ คอรี่ เพเว่น ใช้ชนะ U.S. Open มาหมาดๆ สีม่วงๆ อัปลักษณ์สุดๆ แต่รวมๆแล้วทั้งตรงทั้งไกล ตีง่ายและนุ่ม ถึงแม้จะไม่สวยแต่ใช้งานได้ดี ก็เลยใช้มาตลอดจนกระทั่งสอบโปรผ่าน
หลังจากนั้น บอกตัวเองว่า “ถ้าวงสวิงดี ไม้จะยากแค่ไหน ก็ต้องตีได้ เพราะถ้ามัวแต่ใช้ไม้ง่ายแล้วเมื่อไหร่จะวงดี?? ” มอง ฟัลโด้ ที..มอง ไทเกอร์ ที.. ก็เลยได้ Mizuno MP14 มาเป็นอาวุธคู่กายในช่วงพัฒนาเพิ่มอีก 1 ชุด ซึ่งชุดนี้ยังอยู่และนำกลับมาเล่นบ้างบางครั้งบางคราว เพราะรักษาดีเปลี่ยนก้าน และกริพใหม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้ได้ตลอดเวลา ทั้งหมดที่เล่ามาคือไม้ในช่วงพัฒนาฝีมือของผม
ลำดับที่ 3 ขั้นต่อไปถือเป็น “ไม้ในฝัน” ติดตามครั้งหน้านะครับ
หลังจากการผ่านไม้เริ่มต้นซึ่งช่วยสอนให้เราเล่นกอล์ฟเป็นมาแล้วมาสัก 6 เดือน ถึง 2 ปี นักกอล์ฟส่วนมากมักจะมีอาการ “อยากได้ไม้ใหม่” ความต้องการนี้เจอกันทุกคนรับประกันได้ แต่เหตุผลก็ใช่ว่าจะเป็นเพราะกิเลสเสมอไป เรามีหลักการหรือข้ออ้าง (แล้วแต่มุมมอง) สนับสนุนการตัดสินใจซื้อไม้ใหม่ได้ เนื่องจากเมื่อศึกษาวงสวิงเพิ่มเติม อาจจะทำให้เราเข้าใจเกมส์กอล์ฟของตัวเองได้ดีขึ้น และรู้แน่ชัดว่า อุปกรณ์ที่ถืออยู่ไม่เหมาะกับการเล่นหรือสรีระของเรา
เมื่อวันนั้นมาถึง ไม้ที่ใช่อยู่นั้นจะเทียบเท่ากับอาหารหมดอายุ ซึ่งจะจับต้องอีกไม่ได้เป็นอันขาด เพราะมีเชื้อโรคที่ทำลายวงสวิงติดอยู่ อาการนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและด่วนที่สุด มิฉะนั้นคุณจะเริ่มไม่มีความสุขกับชีวิต กลายเป็นนักกอล์ฟขี้บ่นและอื่นๆอีกมากมาย
ไม้ในช่วงพัฒนาเป็นไม้ที่ควรได้รับการคัดสรรอย่างละเอียดและพร้อมที่จะสู้ราคาเมื่อค้นพบ ที่ Las Vegas ตอนที่ผมอยู่มีร้านให้เช่าไม้กอล์ฟ Brand Name พวกใหม่ล่าสุดอยู่ วันนั้นเช่าไป 5ชุดกับเพื่อนอีก 2-3คน ชุดแรกของใหม่ เหล็ก Callaway Big Bertha สมัยแรกๆ ซึ่งลองแล้วตีง่ายและตรง ชุดที่2 ตอนนั้น เกร็ก นอร์แมน ใช้อยู่คือ King Cobra ตีไกลสุดๆ ชุดที่ 3 Lynx Black cat ออกใหม่ช่วง เฟร็ด คัพเพิล กำลังดังเลย แพงมากเกือบพันเหรียญ นุ่มมือมาก ระยะพอๆกันกับ King Cobra ชุดที่4 ตีห่วยแตก จำไม่ได้แล้วด้วยว่ายี่ห้ออะไร ชุดสุดท้าย Cleaveland VAS ที่ คอรี่ เพเว่น ใช้ชนะ U.S. Open มาหมาดๆ สีม่วงๆ อัปลักษณ์สุดๆ แต่รวมๆแล้วทั้งตรงทั้งไกล ตีง่ายและนุ่ม ถึงแม้จะไม่สวยแต่ใช้งานได้ดี ก็เลยใช้มาตลอดจนกระทั่งสอบโปรผ่าน
หลังจากนั้น บอกตัวเองว่า “ถ้าวงสวิงดี ไม้จะยากแค่ไหน ก็ต้องตีได้ เพราะถ้ามัวแต่ใช้ไม้ง่ายแล้วเมื่อไหร่จะวงดี?? ” มอง ฟัลโด้ ที..มอง ไทเกอร์ ที.. ก็เลยได้ Mizuno MP14 มาเป็นอาวุธคู่กายในช่วงพัฒนาเพิ่มอีก 1 ชุด ซึ่งชุดนี้ยังอยู่และนำกลับมาเล่นบ้างบางครั้งบางคราว เพราะรักษาดีเปลี่ยนก้าน และกริพใหม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้ได้ตลอดเวลา ทั้งหมดที่เล่ามาคือไม้ในช่วงพัฒนาฝีมือของผม
ลำดับที่ 3 ขั้นต่อไปถือเป็น “ไม้ในฝัน” ติดตามครั้งหน้านะครับ