จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ บริษัท โกแอดเวนเจอร์เอเชีย ลากูน่า ภูเก็ต, บริษัท ไนกี (ประเทศไทย) จำกัด และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน ลากูน่า ภูเก็ต มาราธอนนานาชาติ ครั้งที่ 4 ประจำปี 2552 ในวันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2552 ตั้งแต่เวลา 4.00 น. ถึง 12.00 น.
ลากูน่า ภูเก็ต มาราธอนนานาชาติ นับเป็นรายการแข่งขันมาราธอนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีนักกีฬาร่วมการแข่งขันมากกว่า 5,000 คนจาก 40 ประเทศทั่วโลก นอกจากการแข่งขันวิ่งมาราธอน 42 กิโลเมตรแล้วยังมีรายการวิ่งมาราธอน 21 กิโลเมตร วิ่ง 10.5 กิโลเมตร และเดินเพื่อสุขภาพ 5 กิโลเมตร
สำหรับนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันประเภทต่างๆ สามารถบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนโครงการเดิน-วิ่งเพื่อน้อง โดยเงินที่ได้จากการบริจาคจะนำไปใช้ในการพัฒนาความเป็นอยู่และโอกาสทางการศึกษาของนักเรียน โรงเรียนบ้านคลองใส ต.ท่านุ่น อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
นอกจากนี้ ฮาจิเมะ นิชิ นักวิ่งมาราธอนอาชีพ ผู้ครองสถิติวิ่งมาราธอน 7 ทวีปเร็วที่สุดจาก กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ซึ่งลงวิ่งในรายการนี้ทั้งสามครั้งที่ผ่านมาก็จะกลับมาร่วมแข่งขันอีกครั้ง และจะเป็นมัคคุเทศก์นำผู้เข้าแข่งขันที่สนใจแนวความคิดของการวิ่ง “อีโคมาราธอน” ของเขา วิ่งผ่านเส้นทางที่กำหนดไว้
โดยแนวความคิด “อีโคมาราธอน” นี้ไม่ได้มุ่งเน้นที่การชนะการแข่งขันโดยใช้เวลาน้อยที่สุดเหมือนการวิ่งมาราธอนทั่วไป แต่จะเน้นให้ผู้วิ่งได้สัมผัสและชื่นชมทัศนียภาพบนเส้นทางการแข่งขันให้มากที่สุด รวมไปถึงการมีปฏิสัมพันธ์ต่อบุคคลที่พบเห็นระหว่างการแข่งขัน และการถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศสวยงามด้วย
ลากูน่า ภูเก็ต มาราธอนนานาชาติ นับเป็นรายการแข่งขันมาราธอนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีนักกีฬาร่วมการแข่งขันมากกว่า 5,000 คนจาก 40 ประเทศทั่วโลก นอกจากการแข่งขันวิ่งมาราธอน 42 กิโลเมตรแล้วยังมีรายการวิ่งมาราธอน 21 กิโลเมตร วิ่ง 10.5 กิโลเมตร และเดินเพื่อสุขภาพ 5 กิโลเมตร
สำหรับนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันประเภทต่างๆ สามารถบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนโครงการเดิน-วิ่งเพื่อน้อง โดยเงินที่ได้จากการบริจาคจะนำไปใช้ในการพัฒนาความเป็นอยู่และโอกาสทางการศึกษาของนักเรียน โรงเรียนบ้านคลองใส ต.ท่านุ่น อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
นอกจากนี้ ฮาจิเมะ นิชิ นักวิ่งมาราธอนอาชีพ ผู้ครองสถิติวิ่งมาราธอน 7 ทวีปเร็วที่สุดจาก กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ซึ่งลงวิ่งในรายการนี้ทั้งสามครั้งที่ผ่านมาก็จะกลับมาร่วมแข่งขันอีกครั้ง และจะเป็นมัคคุเทศก์นำผู้เข้าแข่งขันที่สนใจแนวความคิดของการวิ่ง “อีโคมาราธอน” ของเขา วิ่งผ่านเส้นทางที่กำหนดไว้
โดยแนวความคิด “อีโคมาราธอน” นี้ไม่ได้มุ่งเน้นที่การชนะการแข่งขันโดยใช้เวลาน้อยที่สุดเหมือนการวิ่งมาราธอนทั่วไป แต่จะเน้นให้ผู้วิ่งได้สัมผัสและชื่นชมทัศนียภาพบนเส้นทางการแข่งขันให้มากที่สุด รวมไปถึงการมีปฏิสัมพันธ์ต่อบุคคลที่พบเห็นระหว่างการแข่งขัน และการถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศสวยงามด้วย