xs
xsm
sm
md
lg

20 ล้านยูโร แมน ยู หรือ บารซา / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน

ฟุตบอล ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก ( UEFA Champions League ) ฤดูกาล 2008-2009 เริ่มแข่งขันกันมาตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2008 เป็นเวลาร่วม 10 เดือนครึ่ง จนบัดนี้ได้ แมนเชสเตอร์ ยูนายเท็ด แชมป์เก่าจากอังกฤษ กับ บารเซโลนา อดีตแชมป์เมื่อปี 2006 เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก ( Stadio Olimpico ) ในกรุงโรมา ประเทศอิตาลี วันที่ 27 พฤษภาคมนี้เรียบร้อยแล้ว

ทีมที่เข้าร่วมแข่งขันในปีนี้มีทั้งหมด 76 ทีม โดย ยูเอ็ฟฟา จัดให้ทีมสโมสรแชมป์จากประเทศที่อยู่อันดับ 25-53 ของการจัดอันดับค่าสัมประสิทธิ์ 5 ปีของ ยูเอ็ฟฟา ( UEFA League co-efficient Ranking ) รวม 28 ทีม มาเตะในรอบคัดเลือกรอบแรก แบบน็อคเอาท์ เหย้า-เยือน ทั้งนี้ ยกเว้น ลีคเทินสตายน์ ( Liechtenstein ) ที่ไม่มีการจัดการแข่งขันลีกในประเทศ จากนั้นก็เอาทีมชนะ 14 ทีมผ่านเข้าไปเจอกับ แชมป์ของประเทศที่อยู่อันดับ ยูเอ็ฟฟา 17-24 อีก 8 ทีม รวมทั้ง รองแชมป์จากอันดับ ยูเอ็ฟฟา 10--15 อีก 6 ทีม ในรอบคัดเลือกรอบสอง ซึ่งก็จะรวมเป็น 28 ทีม แข่งแบบน็อคเอาท์ เหย้า-เยือน เช่นเดิม

เมื่อได้ 14 ทีมชนะ ก็นำมาขยำรวมกับอีก 18 ทีมที่มาจาก ทีมแชมป์จากชาติที่อยู่อันดับ ยูเอ็ฟฟา 11-16 อีก 6 ทีม รองแชมป์จากชาติที่อยู่อันดับ ยูเอ็ฟฟา 7-9 อีก 3 ทีม ทีมที่จบอันดับที่ 3 ในตารางคะแนนของชาติที่อยู่อันดับ ยูเอ็ฟฟา 1-6 อีก 6 ทีม ตรงนี้ขอเรียนท่านผู้อ่านว่า บารเซโลนา เริ่มโผล่เข้ามาในรอบนี้ในฐานะทีมที่จบอันดับ 3 ในตารางคะแนนของ ปรีเมรา ดีบีซิออน ( Primera Division ) ของสเปน นอกจากนั้น ยังมีทีมที่จบอันดับที่ 4 ในตารางคะแนนของชาติที่อยู่อันดับ ยูเอ็ฟฟา 1-3 อีก 3 ทีม ทั้ง 32 ทีมนี้จะเตะกันในรอบคัดเลือกรอบสาม ซึ่งยังเป็นแบบน็อคเอาท์ เหย้า-เยือน แล้วคราวนี้จึงจะเริ่มเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีม โดย 16 ทีมมาจากผู้ชนะในรอบคัดเลือกรอบสาม ผสมกับ ทีมแชมป์ของชาติที่อยู่อันดับ ยูเอ็ฟฟา 1-10 อีก 10 ทีม และ ทีมรองแชมป์ของชาติที่อยู่อันดับ ยูเอ็ฟฟา 1-6 อีก 6 ทีม

เมื่อทั้ง 76 ทีมดังกล่าวได้เข้ามาเล่นใน ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก นั้น ยูเอ็ฟฟา มอบเงินให้ทันทีทีมละ 3 ล้านยูโร หรือประมาณ 142 ล้านบาท แล้วถ้าทีมใดได้เข้าร่วมเล่นในรอบแบ่งกลุ่มก็จะได้รับเงินอีก 2.4 ล้านยูโร หรือประมาณ 114 ล้านบาท นั่นหมายถึงว่า อานอร์โทซิส ฟามากุสตา ( Anorthosis Famagusta FC ) ทีมแชมป์จากซายปรัส ซึ่งปีนี้กรุยทางบักโกรกตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบแรก จนมาเอาชนะ โอลิมเปียโกส ( Olympiacos FC ) ทีมแชมป์จากกรีซอย่างเหลือเชื่อในรอบคัดเลือกรอบสาม และได้เข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มนั้น ทีมนี้รับเงินจาก ยูเอ็ฟฟา ไป 5.4 ล้านยูโร หรือประมาณ 256 ล้านบาทเลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ยูนายเท็ด ได้เข้ามาร่วมเล่นในรอบแบ่งกลุ่มเลย ไม่ต้องเหนื่อยก็รับไปจำนวนเดียวกันเนื้อๆก่อน

เมื่อทำการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม จะแพ้หรือชนะนั้น ก็มีผลต่อเงินรางวัลที่จะได้จาก ยูเอ็ฟฟา อีกด้วย กล่าวคือ ถ้าทีมใดชนะก็ได้รับเงินนัดละ 600,000 ยูโร หรือประมาณ 28 ล้านบาท ถ้าเสมอก็เอาไปแบ่งกันทีมละ 300,000 ยูโร นั่นคือเงินรางวัลเพื่อเป็นแรงจูงใจให้แต่ละทีมทำผลงานดีและได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งจะกลับมาใช้ระบบน็อคเอาท์ เหย้า-เยือน และถ้าทีมใดได้เข้าถึงรอบ 8 ทีม ยูเอ็ฟฟา แจกอีกทีมละ 2.5 ล้านยูโร ถ้ายังรอดชีวิตหลุดเข้าไปเป็น 1 ใน 4 ทีมสุดท้าย คราวนี้รับเงินอีก 3 ล้านยูโร ยังไม่หมดครับ ถ้าได้เข้าชิงชนะเลิศ การันตีว่าต้องได้รับอีก 4 ล้านยูโรแน่ๆ เพราะ ยูเอ็ฟฟา เตรียมเงินปลอบใจจำนวนนี้ไว้ให้รองแชมป์ ส่วนแชมป์ฟาดไปเต็มๆอีก 7 ล้านยูโร

ท่านผู้อ่านไม่ต้องกังวลครับว่า ยูเอ็ฟฟา จะนำเงินตั้งมากมายมาจากไหนเพื่อมาจ่ายเป็นรางวัลให้กับทีมสโมสรต่างๆ เพราะแหล่งที่มาของเงินนั้นหลายทางเหลือเกิน ที่ชัดๆก็จากค่าบัตรเข้าชมการแข่งขันแต่ละนัด เงินค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันที่ขายไปกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเขาบอกว่าบางนัดนั้น มีผู้ชมกว่า 200 ล้านคนทีเดียว นอกจากนั้น ยังมีผู้สนับสนุนหลัก โดยตั้งแต่เริ่มเปลี่ยนมาเป็น แชมเปียนส์ ลีก ในปี 1992 นั้น ยูเอ็ฟฟา ถึงกับต้องมีมติรับสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุนไม่ให้เกิน 8 จ้าว แลกกับสิทธิ์ที่แต่ละจ้าวจะได้ตั้งป้ายโฆษณาสินค้าของตนรอบๆสนามแข่งขันได้จ้าวละ 4 ป้าย สิทธิ์ในการมีโลโกสินค้าตอนสัมภาษณ์ทั้งก่อนและหลังการแข่งขัน ฯลฯ ซึ่งบางครั้ง ผู้ชมถึงกับบ่นว่า ไอ้ป้ายโฆษณามันใหญ่โตเกินขนาดปกติ จนบดบังการชมเกมการแข่งขันบางส่วน เป็นเหตุให้แฟนบอลต้องเสียอารมณ์ไปตามๆกัน ทีมไหนจะได้รับเงินรวมกว่า 20 ล้านยูโร แมน ยู หรือ บารซา ติดตามชมดึกวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ครับ
ดำเดียวในยุโรป / กษิติ กมลนาวิน
ในขณะที่ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรของทวีปยุโรปเดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลลีกสูงสุดภายในประเทศต่างๆ ก็คืบคลานใกล้ได้แชมป์เข้าไปทุกที ถ้าเป็นสำนวนไทยที่ใช้กันก็คงเรียกว่า เข้าสู่โค้งสุดท้าย อันนี้เอามาจากการแข่งขันกรีฑาที่มีลู่วิ่งรอบสนามฟุตบอลเป็นระยะทาง 400 เมตร ซึ่งของเราไปนับกันตั้งแต่ช่วงเข้าสู่ 200 เมตรสุดท้ายที่เป็นทางโค้ง แต่ถ้าเป็นฝรั่งเศส เขาจะถือเอาช่วง 100 เมตรสุดท้ายจริงๆ เขาจึงมีสำนวนว่า เข้าสู่ช่วงทางตรงสุดท้าย จะอย่างไรก็ตาม บางลีกก็พอจะเห็นแชมป์ชัดๆกันแล้ว แต่บางลีกอาจต้องรอลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น