ดไวท์ ยอร์ค อดีตกองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดคว้าทริปเปิลแชมป์ในปี 1999 ออกโรงเตือน คริสเตียโน โรนัลโด รุ่นน้องในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คิดผิดที่แสดงอารมณ์ไม่พอใจ หลังถูกเปลี่ยนตัวออก พร้อมชี้ คาร์ลอส เตเบซ หอกอาร์เจนไตน์ น่าจะยอมรับความจริงเหมือนกับ โอเล กุนนาร์ โซลชา
โรนัลโด แสดงท่าทางฮึดฮัดไม่พอใจที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมที่ แมนฯยู เปิดรังเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-0 ในศึกพรีเมียร์ชิป เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยไม่สนใจว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เจ้านายใหญ่ต้องการเก็บตัวเอาไว้เล่นในเกมบุกไปเยือน วีแกน แอธเลติก ในวันพุธถัดไปนี้
ยอร์ค ออกมาเผยว่า “เมื่อพิจารณาสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับ แมนฯยู ใกล้เป็นแชมป์ลีกและเข้าชิงถ้วยยุโรป ทุกสิ่งดำเนินไปได้สวย แต่กลับมีบางคนที่ทำพฤติกรรมเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นปัดเสื้อทิ้งและแสดงอารมณ์ฉุนเฉียว เฟอร์กี ย่อมไม่พอใจ และคงต้องมีการปิดห้องคุยกันเพื่อไขข้อข้องใจ เพราะการทำแบบนั้นต่อหน้าคนมากมายกุนซือไม่พอใจแน่”
“แฟนบอลจะอยู่ข้าง เฟอร์กี เสมอ กุนซือมีหน้าที่ตัดสินใจและมีเหตุผล ซึ่งน้อยครั้งที่คนอย่างเขาจะตัดสินใจพลาด เกมเมื่อวันอาทิตย์นักเตะน่าจะเข้าใจ ผมผิดหวังเหลือเกิน หากเป็นผมจะไม่ทำแบบนั้นแน่ สุดท้ายผมเชื่อว่าเจ้านายจะคุยและแสดงให้เป็นว่าใครใหญ่สุด” หอกตรินิแดดและโตเบโก กล่าว
เมื่อปี 1999 ที่ แมนฯยู ลุ้น 3 แชมป์ ยอร์ค เคยถูกพักเป็นตัวสำรองในเกมนัดชิง เอฟเอ คัพ ที่ทีมเอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0 เพราะมีเกมนัดชิง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กับ บาเยิร์น มิวนิค รออยู่ ซึ่ง เฟอร์กี ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการตัดสินใจครั้งนั้นถูกต้องด้วยประการทั้งปวง
พร้อมกันนี้ ยอร์ค ที่ยังเล่นอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ มองว่า คาร์ลอส เตเบซ ดาวยิงอาร์เจนไตน์ น่าจะดู โอเล กุนนาร์ โซลชา ตำนานซูเปอร์ซับของ แมนฯยูไนเต็ด เป็นตัวอย่าง เพราะแม้จะยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำแต่ก็ยอมรับได้ในบทบาทตัวสำรอง เนื่องจากเหนืออื่นใดไม่มีนักเตะคนใดจะมายิ่งใหญ่กว่าต้นสังกัดอย่างแน่นอน
“ปัญหาคือ เตเบซ มาอยู่ในช่วงที่ เวย์น รูนีย์ และ โรนัลโด กำลังฮอต โซลชาก็เคยเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ยิงประตูได้แต่ต้องเป็นตัวสำรอง เขาไม่พอใจเช่นกันแต่ว่ายอมรับได้เมื่อไหร่ที่ถูกเรียกเขาก็พร้อม สโมสรยิ่งใหญ่กว่านักเตะคนเดียว ทั้ง โรนัลโด และเตเบซ ต้องเข้าใจจุดนี้” หอกวัย 37 ปี กล่าวในท้ายที่สุด