xs
xsm
sm
md
lg

สาลิการ่อแร่โดนไก่จิก 1-0 เรือใบเฮอัดแบ็กกีส์ 4-2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด นับถอยหลังหล่นชั้นจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เข้าไปทุกขณะหลังบุกพ่าย “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดรังบด เวสต์บรอมวิช อัลเบียนส์ 4-2

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

กูเตียร์เรซ หงายเก๋งเมื่อเจอ ปาลาซิออส
แฮร์รี เรดแนปป์ พาทัพ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ หนีโซนตกชั้นได้แล้ว ตอนนี้เป้าหมายเปลี่ยนเป็นลุ้นไปเตะฟุตบอลยุโรป ซึ่งเจ้าถิ่นจัดทัพใหญ่นำโดย อารอน เลนนอน, ลูกา โมดริช หรือว่า ร็อบบี คีน ขณะที่แดนกลางได้ วิลสัน ปาลาซิออส พ้นโทษแบน ขณะที่ อลัน เชียเรอร์ วางหมากให้ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ด้วยแผนเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คน มีทาง ไรอัน เทย์เลอร์ กับ เดเมียน ดัฟฟ์ เดินเกมคล้ายวิงแบ็ก คู่หน้าใช้ แอนดรูว์ คาร์โรลล์ เสริมงาน ไมเคิล โอเวน
เบนท์ ซัดชัยให้ไก่เดือยทอง
เริ่มเกมการแข่งขัน สเปอร์ส ซึ่งยังต้องการคะแนนเพื่อลุ้นไปลุยศึก ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลหน้า เป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เล็กๆ ผ่าน 10 นาทีแรก ร็อบบี คีน เบียด เดเมียน ดัฟฟ์ เข้ากรอบโทษทางด้านขวาก่อนตัดสินใจไหลใส่พานกะให้ ดาร์เรน เบนท์ ได้ซัดเน้นๆ แต่แผงรับทีมเยือนยังลงมาช่วยเคลียร์ได้ทัน ห้านาทีถัดมาเจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง ลูกา โมดริช ลากจากขวาตัดเข้ามาจ่ายให้ เบนท์ แปเรียด สตีฟ ฮาร์เปอร์ ต้องล้มตัวรับเอาไว้

บี้อยู่พักใหญ่ “ไก่เดือยทอง” มาจิกนำ 1-0 จนได้ในนาทีที่ 24 จากจังหวะที่ โมดริช จ่ายบอลไปในกรอบโทษ เซบาสเตียน บาสซง สกัดพลาดเข้าทาง เบนท์ หลุดไปยิงด้วยขวาติดบล็อก ฮาร์เปอร์ กระเด้งมาให้ดาวยิงผิวสีแปซ้ำเข้าหน้าต่างเสาสอง เกมดำเนินไปแบบวันเวย์ ทอม ฮัดเดิลสโตน สบโอกาสกระหน่ำจากนอกกรอบโทษติดปลายมือ ฮาร์เปอร์ หลุดคานแบบมีเสียว

ผ่านครึ่งชั่วโมง แฮร์รี เรดแนปป์ ต้องถอด ไมเคิล ดอว์สัน ที่มีอาการเจ็บออกและก็ส่ง อลัน ฮัตตัน ไปยืนแบ็กขวาพร้อมขยับ เวดราน ชอร์ลูกา เข้าในแทน เจ็ดนาทีถัดมา สเปอร์ส โถมขึ้นไปอีกครั้ง คีน ป้ายบอลจากสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายให้ โมดริช ยิงลักษณะดีดๆ ด้วยขวาบอลแฉลบขา บาสซง เปลี่ยนทางยังดีที่เบา ฮาร์เปอร์ ก้มไปเก็บบอลเอาไว้ ท้ายครึ่งแรก ฮัดเดิลสโตน ได้โอกาสอัดด้วยซ้ายแต่ก็โดนนายทวาร “สาลิกาดง” ปัดพ้นกรอบไปอีก จบ 45 นาทีแรกเจ้าถิ่นนำแถมเกมดีกว่ามาก
คีน บดกับ ส.เทย์เลอร์
ครึ่งหลัง อลัน เชียเรอร์ ปรับหมากด้วยการส่ง อลัน สมิธ มาช่วยเกมรุกพร้อมกับถอด สตีเวน เทย์เลอร์ ซึ่งเป็นผู้เล่นแนวรับออกไป แต่ สเปอร์ส เกือบได้ส้มหล่นเมื่อ ฮาบิบ เบย์ ดันปล่อยบอลตกพื้น คีน เข้าไปตวัดยิงยังดีที่กองหลังทีมเยือนแก้ตัวบล็อกออกหลังไป หนึ่งชั่วโมงผ่านไป นิวคาสเซิล มีดันเกมขึ้นมาสู้บ้างแต่จังหวะเจาะเข้าทำยังไม่มีเนื่องจากเกมนี้แผงรับ “ไก่เดือยทอง” ยังตั้งมั่นได้อย่างเหนียวแน่น

แต่ความผิดพลาดในแผงหลังของทีมเยือนเกือบโดนไปอีก เบนท์ หลุดขึ้นไปตรงที่ว่างก่อนตบเข้าใน บาสซง สกัดไม่พ้นอันตราย วิลสัน ปาลาซิออส วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ แต่ บาสซง ยังเข้าบล็อกได้ทัน จากนั้น “ฮอตชอต” เปลี่ยนตัวอีกครั้งใส่ โอบาเฟมี มาร์ตินส์ และ มาร์ค วิดูกา ลงมาเสริมเกมรุกเต็มสูบ พร้อมกับถอด เควิน โนแลน กับ แอนดรูว์ คาร์โรลล์ ออกมา นาทีที่ 67 สาวก “ทูน อาร์มี” เฮเก้อเมื่อ มาร์ตินส์ ยิงบอลแฉลบเสาเข้าประตูแต่กองหน้าทีมชาติไนจีเรียดันทำแฮนด์บอลเสียก่อน

จังหวะถัดมา สเปอร์ส สวนขึ้นมาบ้าง เลนนอน อาศัยความคล่องแคล่วลากตัดจากขวาเข้ามาอัดด้วยซ้ายบอลไซด์หลุดเสานิดเดียวเท่านั้น เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย มาร์ตินส์ ได้ฮาล์ฟวอลเลย์ในกรอบโทษแต่ตรงตัว เอเรลโญ โกเมส เจ้าถิ่นปรับหมากบ้างส่ง เจอร์เมน เดโฟ ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์ลงมาเคาะสนิทแทน เบนท์ ท้ายเกม มาร์ตินส์ ชวดโอกาสตีเสมอให้ทีมเยือนหมุนตัวยิงข้ามคาน ครบ 90 นาที สเปอร์ส รักษาสกอร์คว้าชัยมีเพิ่มเป็น 44 คะแนนจากการลงเตะ 33 นัด อยู่ที่ 9 ขณะที่ นิวคาสเซิล ยังอยู่รองบ๊วย มีเพียง 30 คะแนน ห่างจากโซนตกชั้นอย่าง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 4 แต้ม

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สเปอร์ส
: เอเรลโญ โกเมส , เวดราน ชอร์ลูกา , ไมเคิล ดอว์สัน , โจนาธาน วูดเกต , เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต , อารอน เลนนอน , วิลสัน ปาลาซิออส , ทอม ฮัดเดิลสโตน , ลูกา โมดริช , ดาร์เรน เบนท์ , ร็อบบี คีน

นิวคาสเซิล : สตีฟ ฮาร์เปอร์ , ฮาบิบ เบย์ , เซบาสเตียน บาสซง , สตีเวน เทย์เลอร์ , ไรอัน เทย์เลอร์ , โยนาส กูเตียร์เรซ , เควิน โนแลน , นิคกี บัตต์ , เดเมียน ดัฟฟ์ , ไมเคิล โอเวน , แอนดรูว์ คาร์โรลล์
 
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี บดเอาชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบียนส์ 4-2 โดยเจ้าถิ่นนำก่อน 2-0 จาก โรบินโญ และ เนดุม โอนัวฮา แต่ คริส บรันท์ อัดสองประตูให้ทีมเยือนตามเจ๊า อย่างไรก็ตาม เอลาโน ซัดจุดโทษให้ “เรือใบสีฟ้า” พลิกกลับมานำอีกครั้ง ก่อนที่ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ยิงปิดกล่องช่วงทดเจ็บ
กำลังโหลดความคิดเห็น