"ศรีราชา" โอดน่าได้โทษ "กระต่าย" ถ่อมขอแค่รอดไทยลีก

ครองพล ดาวเรือง กุนซือศรีราชา เอฟซี ครวญทีมตนน่าได้ลูกจุดโทษในครึ่งหลัง ชี้หากสิงห์เชิ้ตดำเห็นภาพช้าต้องเป่าให้ ส่วน ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผู้จัดการทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี พอใจที่กำชัย พร้อมทั้งมองว่า 3 คะแนนวันนี้มีค่าต่อการประคองตัวในไทยลีก

ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่ 3 เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา "กระต่ายโลกันตร์" บางกอกกล๊าส เฝ้ารังลีโอ สเตเดียม เฉือนชนะ "บลู มาลิน" ศรีราชา 1-0 จากประตูชัยของ ซามูเอล อจายี ในนาทีที่ 13 พร้อมทั้งขึ้นรั้งจ่าฝูงอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ครองพล ดาวเรือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมเยือนให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า ผู้ตัดสิน ประยูร วีระพูล เป่าผิดพลาดในนาทีที่ 73 โดย ซารุตะ ฮิโรโนริ กองกลางชาวญี่ปุ่นถูก สุรเชษฐ์ งามทิพย์ ของเจ้าถิ่นแซะล้มในเขตโทษ ซึ่งเป็นจังหวะที่มองว่าน่าได้ลูกจุดโทษอันเป็นโอกาสตีเสมอ แต่กลายเป็นว่า ซารุตะ โดนใบเหลือง เนื่องจาก ประยูร มองว่าเจตนาพุ่งล้ม

โดย ครองพล ให้สัมภาษณ์หลังเกมกับผู้สื่อข่าว MGR Sport ที่ไปเกาะติดขอบสนามว่า "จังหวะนั้นผมนั่งอยู่ในมุมมองที่เห็นชัดเจน ซึ่งตามปกติควรจะเป็นจุดโทษ ถ้ากรรมการได้เห็นภาพช้าจะต้องให้อย่างแน่นอน แต่นี่มันเกิดขึ้นไปแล้ว เราจะไปเรียกร้องภายหลังก็คงไม่ได้อะไรอยู่ดี"

นอกจากนี้ เฮดโค้ชบลู มาลิน ยังกล่าวถึงรูปเกมวันนี้และแมตช์ต่อไปที่จะบู๊กับ ราชนาวี ระยอง ในวันที่ 5 เมษายนว่า "ผมยอมรับว่าครึ่งแรกเราตกเป็นรอง เนื่องจากผู้เล่น บางกอกกล๊าส เก๋าเกมมากกว่า แต่พอกลับมาเล่นครึ่งหลัง พละกำลังของพวกเขาตกลง ทำให้เราสู้ได้อย่างสูสีมากขึ้น น่าเสียดายที่ตีเสมอแบ่งแต้มกลับมาไม่ได้ ส่วนนัดหน้าที่จะพบ ราชนาวี ระยอง เราต้องมีแต้มสถานเดียว ไม่เช่นนั้นแล้วเราอาจตกที่นั่งลำบาก"

ด้าน ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผู้จัดการทีมกระต่ายโลกันตร์ พูดถึงชัยชนะของทีมว่า "วันนี้เราเริ่มต้นได้ยอดเยี่ยม การยิงประตูขึ้นนำไปก่อนช่วยให้คลายความกดดันและเล่นได้ง่ายขึ้น แม้ครึ่งหลังจะแผ่วลงไปจนถูกกดดันหลายครั้ง แต่สุดท้ายเราก็ยันอยู่และคว้าผลการแข่งขันที่ดีได้"

ขณะเดียวกัน ศุภสิน ยังเปิดเผยถึงจังหวะที่ ศรีราชา ควรได้ลูกจุดโทษว่า "จังหวะนั้นผมมองเห็นเหตุการณ์ไม่ถนัด เพราะนั่งอยู่ไกลแถมยังโดนบังด้วย พอมาเห็นอีกทีผู้เล่นศรีราชาก็ได้ใบเหลืองไปแล้ว"

พร้อมกันนี้ ผจก.บางกอกกล๊าส ยังกล่าวแบบถ่อมตน แม้ทีมจะนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราวว่า "ผมคิดว่าทีมเราออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ได้ดีเกินคาด แต่เราตั้งเป้าหมายปีนี้เอาไว้แค่ประคองตัวให้อยู่ในไทยลีกต่อไป แม้เราจะใช้นักเตะของธนาคารกรุงไทยที่คว้าอันดับ 6 ปีที่แล้ว แต่ต้องไม่ลืมว่าเราใช้ทีมผู้บริหารใหม่ยกชุด ซึ่งต้องปรับหลายๆ อย่างโดยเฉพาะการบริหารจัดการ สถานะของเราจึงไม่ต่างจากทีมน้องใหม่ คิดว่าปีแรกในนาม บางกอกกล๊าส ก็คงพออยู่รอดในช่วงกลางตารางของไทยลีก"