คอลัมน์ ON TRACK โดย เด็กปั๊ม
สัปดาห์ที่แล้ว ทิ้งท้ายไว้ที่ ภารกิจพิเศษสำรวจทางรถไฟสายซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่ผม, เจ๊โอ๋ และ ลุงแซม 3 ประสานแห่งกองบรรณาธิการข่าวกีฬา บ้านพระอาทิตย์ มีคิวควงแขนกันไปตะลุยถิ่นลาว กันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการทดสอบเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ – หนองคาย – ท่านาแล้ง อันจะเป็นเส้นทางสำคัญในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ลาวจะเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปีนี้
แม้จะเหลือเวลาอีกร่วม 9 เดือน ที่เวียงจันทน์เกมส์ ซีเกมส์ครั้งแรกบนแผ่นดินลาว จะเปิดฉากขึ้นระหว่างวันที่ 3-12 ธันวาคม นี้ แต่ทีมข่าวกีฬาคุณภาพอย่าง MGR Sport ไม่มีรอช้า เริ่มเดินเครื่องจัดทัพนักข่าวสำหรับมหกรรมกีฬาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งหลังจากการได้ไปเยือนเวียงจันทน์เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ต้องบอกว่าเสียดายจริงๆครับที่ผมเองจะไม่ได้มีส่วนร่วมในซีเกมส์ครั้งนี้ในฐานะนักข่าวภาคสนาม เนื่องจากมีภารกิจอยู่ทางฝั่ง กรุงเทพฯ เพราะใจจริงแล้ว อยากกลับไปที่นั่นใจจะขาด
การเดินทางครั้งนี้พวกเราพบอุปสรรคเล็กน้อย เมื่อตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของทั้ง 2 ฝั่งอ้างว่า ตม.ของแต่ละฝั่งไม่พร้อม จนทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ลาวด้วยรถไฟ สายประวัติศาสตร์ หนองคาย-ท่านาแล้ง ความยาว 3.5 กิโลเมตรได้ ทางการรถไฟฝั่งไทยเลยทำได้เพียงให้นั่งรถไฟฟรี ในช่วงดังกล่าว ไปท่านาแล้งและกลับมายังหนองคาย อย่างไรก็ดีทีมงาน MGR Sport ก็เข้าสู่นครเวียงจันทน์ด้วยความเรียบร้อย บริเวณด่านสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว
ซึ่งแม้ว่าความคึกคักในเรื่องของการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ของลาวจะยังมีไม่มาก แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจให้ผมจนตั้งใจว่าจะกลับไปเยือนอีกครั้ง นั่นก็คือความน่ารักของผู้คนทั้งหญิงและชาย โดยเฉพาะสาวๆ ที่ดูดีได้โดยที่ไม่ต้องแต่งตัวหวือหวาอะไรมากมาย รวมถึงสภาพบ้านเมืองที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน รถยนต์ขับกันชิวๆ เห็นแล้วสบายใจจริงๆ ที่สำคัญเป็นครั้งแรกที่ผมไปต่างประเทศแล้วไม่มีปัญหาเรื่องภาษาเลยแม้แต่นิดเดียว
จากเรื่องของซีเกมส์ ขอแวะเข้าเรื่องราวในวงการมอเตอร์สปอร์ตกันสักหน่อยครับ หลังกลับจากลาวมาถึงเมืองไทยเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็รีบเปิดคอมพิวเตอร์เช็คข่าวคราววงการเอฟวันทันที ซึ่งก็ไม่เกินความคาดหมายเท่าใดนัก เมื่อทีมฮอนด้าเรซซิง ที่บริษัทแม่ในญี่ปุ่น ถอดใจถอนทีม จนต้องรอกลุ่มทุนรายใหม่เข้ามาซื้อกิจการ ได้เจ้าของทีมใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ที่น่าแปลกใจคือ เจ้าของทีมคนใหม่กลับไม่ใช่บุคคลที่เคยตกเป็นข่าวซื้อทีมฮอนด้าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาแต่อย่างใด
โดยผู้ที่เข้ามาชุบชีวิต ฮอนด้า ให้คงอยู่ในฟอร์มูลา วันต่อไปก็ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือ รอสส์ บราวน์ อดีตทีมบอสฮอนด้าเอง รวมถึงเป็นอดีตผู้อำนวยการด้านเทคนิคของเฟอร์รารี ในยุคที่มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ยิ่งใหญ่มาแล้ว ซึ่งทีมแข่งใหม่กิ๊กทีมนี้ จะใช้ชื่อ บราวน์จีพี ลงแข่งขันฤดูกาล 2009 ภายใต้เครื่องเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมี เจนสัน บัตตัน และรูเบน บาร์ริเคลโล เป็น 2 นักขับประจำทีม
สิ่งเดียวสำหรับบราวน์จีพีที่ต้องลุ้นในตอนนี้คือ ภาวนาให้เอฟไอเอ เปิดไฟเขียวให้ลงแข่งขันได้ภายใต้เครื่องเมอร์เซเดสฯ เนื่องจากมีกฎว่าค่ายผู้ผลิตสามารถป้อนเครื่องยนต์ให้ทีมแข่งได้มากที่สุดเพียง 2 ทีมเท่านั้น ซึ่งเวลานี้ แม็คลาเรน กับ ฟอร์ชอินเดีย เป็น 2 ทีมที่ใช้งานเครื่องจากค่ายรถเยอรมนีอยู่ก่อนแล้ว
ส่วนเรื่องของซีเกมส์ ผมขอเป็นกำลังใจให้กับอ้ายลาวเต็มที่ และหวังว่าในอีก 9 เดือนที่เหลือก่อนถึงการแข่งขันในเดือนธันวาคม ลาวจะพร้อมเต็มพิกัดสำหรับมหกรรมกีฬาระดับอาเซียนครั้งแรกของตัวเอง สมกับที่ทุกคนตั้งตารอคอย
สัปดาห์ที่แล้ว ทิ้งท้ายไว้ที่ ภารกิจพิเศษสำรวจทางรถไฟสายซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่ผม, เจ๊โอ๋ และ ลุงแซม 3 ประสานแห่งกองบรรณาธิการข่าวกีฬา บ้านพระอาทิตย์ มีคิวควงแขนกันไปตะลุยถิ่นลาว กันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการทดสอบเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ – หนองคาย – ท่านาแล้ง อันจะเป็นเส้นทางสำคัญในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ลาวจะเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปีนี้
แม้จะเหลือเวลาอีกร่วม 9 เดือน ที่เวียงจันทน์เกมส์ ซีเกมส์ครั้งแรกบนแผ่นดินลาว จะเปิดฉากขึ้นระหว่างวันที่ 3-12 ธันวาคม นี้ แต่ทีมข่าวกีฬาคุณภาพอย่าง MGR Sport ไม่มีรอช้า เริ่มเดินเครื่องจัดทัพนักข่าวสำหรับมหกรรมกีฬาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งหลังจากการได้ไปเยือนเวียงจันทน์เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ต้องบอกว่าเสียดายจริงๆครับที่ผมเองจะไม่ได้มีส่วนร่วมในซีเกมส์ครั้งนี้ในฐานะนักข่าวภาคสนาม เนื่องจากมีภารกิจอยู่ทางฝั่ง กรุงเทพฯ เพราะใจจริงแล้ว อยากกลับไปที่นั่นใจจะขาด
การเดินทางครั้งนี้พวกเราพบอุปสรรคเล็กน้อย เมื่อตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของทั้ง 2 ฝั่งอ้างว่า ตม.ของแต่ละฝั่งไม่พร้อม จนทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ลาวด้วยรถไฟ สายประวัติศาสตร์ หนองคาย-ท่านาแล้ง ความยาว 3.5 กิโลเมตรได้ ทางการรถไฟฝั่งไทยเลยทำได้เพียงให้นั่งรถไฟฟรี ในช่วงดังกล่าว ไปท่านาแล้งและกลับมายังหนองคาย อย่างไรก็ดีทีมงาน MGR Sport ก็เข้าสู่นครเวียงจันทน์ด้วยความเรียบร้อย บริเวณด่านสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว
ซึ่งแม้ว่าความคึกคักในเรื่องของการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ของลาวจะยังมีไม่มาก แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจให้ผมจนตั้งใจว่าจะกลับไปเยือนอีกครั้ง นั่นก็คือความน่ารักของผู้คนทั้งหญิงและชาย โดยเฉพาะสาวๆ ที่ดูดีได้โดยที่ไม่ต้องแต่งตัวหวือหวาอะไรมากมาย รวมถึงสภาพบ้านเมืองที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน รถยนต์ขับกันชิวๆ เห็นแล้วสบายใจจริงๆ ที่สำคัญเป็นครั้งแรกที่ผมไปต่างประเทศแล้วไม่มีปัญหาเรื่องภาษาเลยแม้แต่นิดเดียว
จากเรื่องของซีเกมส์ ขอแวะเข้าเรื่องราวในวงการมอเตอร์สปอร์ตกันสักหน่อยครับ หลังกลับจากลาวมาถึงเมืองไทยเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็รีบเปิดคอมพิวเตอร์เช็คข่าวคราววงการเอฟวันทันที ซึ่งก็ไม่เกินความคาดหมายเท่าใดนัก เมื่อทีมฮอนด้าเรซซิง ที่บริษัทแม่ในญี่ปุ่น ถอดใจถอนทีม จนต้องรอกลุ่มทุนรายใหม่เข้ามาซื้อกิจการ ได้เจ้าของทีมใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ที่น่าแปลกใจคือ เจ้าของทีมคนใหม่กลับไม่ใช่บุคคลที่เคยตกเป็นข่าวซื้อทีมฮอนด้าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาแต่อย่างใด
โดยผู้ที่เข้ามาชุบชีวิต ฮอนด้า ให้คงอยู่ในฟอร์มูลา วันต่อไปก็ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือ รอสส์ บราวน์ อดีตทีมบอสฮอนด้าเอง รวมถึงเป็นอดีตผู้อำนวยการด้านเทคนิคของเฟอร์รารี ในยุคที่มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ยิ่งใหญ่มาแล้ว ซึ่งทีมแข่งใหม่กิ๊กทีมนี้ จะใช้ชื่อ บราวน์จีพี ลงแข่งขันฤดูกาล 2009 ภายใต้เครื่องเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมี เจนสัน บัตตัน และรูเบน บาร์ริเคลโล เป็น 2 นักขับประจำทีม
สิ่งเดียวสำหรับบราวน์จีพีที่ต้องลุ้นในตอนนี้คือ ภาวนาให้เอฟไอเอ เปิดไฟเขียวให้ลงแข่งขันได้ภายใต้เครื่องเมอร์เซเดสฯ เนื่องจากมีกฎว่าค่ายผู้ผลิตสามารถป้อนเครื่องยนต์ให้ทีมแข่งได้มากที่สุดเพียง 2 ทีมเท่านั้น ซึ่งเวลานี้ แม็คลาเรน กับ ฟอร์ชอินเดีย เป็น 2 ทีมที่ใช้งานเครื่องจากค่ายรถเยอรมนีอยู่ก่อนแล้ว
ส่วนเรื่องของซีเกมส์ ผมขอเป็นกำลังใจให้กับอ้ายลาวเต็มที่ และหวังว่าในอีก 9 เดือนที่เหลือก่อนถึงการแข่งขันในเดือนธันวาคม ลาวจะพร้อมเต็มพิกัดสำหรับมหกรรมกีฬาระดับอาเซียนครั้งแรกของตัวเอง สมกับที่ทุกคนตั้งตารอคอย
