คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
นับศตวรรษมาแล้วที่เรารู้จัก พายน์เฮิร์สท รีสอร์ท ( Pinehurst Resort ) ใน นอร์ธ แคโรลายนา สหรัฐอเมริกา ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1895 ภายในมีสนามกอล์ฟ 18 หลุมถึง 8 สนามรวมกระจุกกันอยู่ และได้รับการขนานนามว่าเป็นกอล์ฟ รีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในโลกจาก เดอะ กินเนส เวิร์ลด เร็คเคิร์ดส ( the Guinness World Records ) หนังสือบันทึกสถิติโลกที่ตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 1955 จนถึงปัจจุบัน แต่ตอนนี้ พายน์เฮิร์สท รีสอร์ท ตกกระป๋องไปเสียแล้ว เพราะเมื่อเวลาผ่านมา 1 ศตวรรษ ประเทศจีนได้สร้าง มิชเชิน ฮิลส์ กอล์ฟ คลับ ( Mission Hills Golf Club ) ขึ้นใน เฉินเจิ้น ( Shenzhen ) ประกอบไปด้วยสนามกอล์ฟ 18 หลุมถึง 12 สนาม และ เดอะ กินเนส เวิร์ลด เร็คเคิร์ดส ก็หันมายกย่องให้ที่นี่เหนือกว่าอย่างไม่มีข้อสงสัย
ในปี 1895 เจมส์ วอล์คเคอร์ ทัฟท์ส ( James Walker Tufts ) นักธุรกิจอเมริกันเริ่มซื้อที่ดินกว้างใหญ่ขนาด 22 ตารางกิโลเมตรใน นอร์ธ แคโรลายนา เทียบพื้นที่เป็นระบบที่คนอเมริกันใช้ก็ราว 5,500 เอเคอร์ ซึ่งราคายุคนั้นก็ตกเอเคอร์ละ 1 เหรียญสหรัฐ กว่าจะได้สร้างสนามกอล์ฟแห่งแรกก็ปาเข้าไปปี 1897 เสร็จสมบูรณ์ในปี 1898 และก็ได้จัดการแข่งขันกอล์ฟครั้งแรกเป็นรายการ ยูนายเต็ด นอร์ธ แอนด์ เซาธ์ อามาเตอร์ แชมเปียนชิพ ( United North and South Amateur Championship ) ในปี 1901 ในระหว่างนั้นเอง ที่ทางรีสอร์ทได้จ้าง โดนัลด์ รอส ( Donald Ross ) นักกอล์ฟฝีมือกลางๆชาวสก็อตแลนด์ที่ใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐฯตั้งแต่เด็กๆ มาเป็น “ โพร ” สอนประจำที่รีสอร์ท ซึ่งก็ทำให้เขาได้มีโอกาสออกแบบสนามกอล์ฟไปด้วย หมอนี่ออกแบบรวดเดียว 4 สนามเลย แล้วอยู่มาสักพัก ก็เลิกเล่นเลิกสอน หันมาเอาดีทางออกแบบสนามกอล์ฟอย่างเดียว สำหรับสนามที่สร้างชื่อให้ รอส จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กรีนเป็นเนินแบบหลังเต่า โดยเฉพาะสนาม พายน์เฮิร์สท หมายเลข 2 ( Pinehurst No. 2 )
พายน์เฮิร์สท รีสอร์ท มีสนามกอล์ฟ 8 แห่ง โรงแรม 3 แห่ง สปา รวมทั้งสถานที่นันทนาการครบครัน เคยจัดการแข่งขันรายการใหญ่มาแล้ว เช่น พีจีเอ แชมเปียนชิพ ในปี 1936 รายเดอร์ คัพ ในปี 1951 ยู เอส โอเพน ในปี 1999 และ 2005 และกำลังจะจัดอีกในปี 2014
ส่วน มิชเชิน ฮิลส์ กอล์ฟ คลับ นั้น จีนเริ่มสร้างในปี 1992 เปิดเป็นสนามไดรฟ์ ( Driving range) ให้บุคคลทั่วไปก่อน แล้วจ้างสุดยอดนักกอล์ฟของโลกจากชาติต่างๆมาออกแบบคนละสนาม เริ่มตั้งแต่ แจ็ค นิคลอส นักกอล์ฟสหรัฐฯ เจ้าของฉายา เจ้าหมีทอง เดอะ โกลเดิน แบร์ ( The Golden Bear ) ออกแบบ เวิร์ลด คัพ คอร์ส ( World Cup Course ) เกรก นอร์แมน เจ้าของฉายา ฉลามขาวผู้ยิ่งใหญ่ เดอะ เกรท ไวท์ ชาร์ค ( The Great White Shark ) ชาวออสตราเลีย ออกแบบ นอร์แมน คอร์ส อันนิกา โซเรนสตัม นักกอล์ฟสาวชาวสวีเดนที่เพิ่งประกาศเลิกเล่นอาชีพไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เธอออกแบบ อันนิกา คอร์ส ( Annika Course ) เดอะ บิก อีซี ( The Big Easy ) เออร์นี เอลส์ นักกอล์ฟอัฟริกาใต้ ออกแบบ เอลส์ คอร์ส ( Els Course ) เดอะ บิก ฟิเจียน ( The Big Fijian ) วีเจย์ ซิงห์ อดีตมือ 1 ของโลกชาวฟิจิ ออกแบบ วีเจย์ คอร์ส ( Vijay Course ) นิค ฟัลโด นักกอล์ฟอังกฤษ นี่ก็เคยขึ้นมือ 1 ของโลกเหมือนกัน เขาออกแบบ ฟัลโด คอร์ส ( Faldo Course ) “ ออลลี ” ( Ollie ) โฆเซ มาริอา โอลาซาบาล นักกอล์ฟเลือดสเปน ออกแบบ โอลาซาบาล คอร์ส ( Olazabal Course ) นักกอล์ฟญี่ปุ่นก็ได้รับเชิญให้มาแสดงฝีมือด้วย โดย มาซาชิ โอซากิ ( Masashi Ozaki ) หรือที่เรารู้จักในนาม จัมโบ โอซากิ ( Jumbo Ozaki ) เขาออกแบบ โอซากิ คอร์ส (Ozaki Course) เดวิด เลดเบทเทอร์ นักกอล์ฟฝีมือพื้นๆชาวอังกฤษ แต่สอนเก่ง เขาเป็นคนที่ปรับวงสวิงให้ นิค ฟัลโด จนกลับมาคว้าแชมป์ชุ่ยเลย หมอนี่ออกแบบ เลดเบทเทอร์ คอร์ส ( Leadbetter Course ) พีท ดาย ( Pete Dye ) นักออกแบบสนามกอล์ฟมืออาชีพชาวสหรัฐฯ คนนี้ออกแบบ พีท ดาย คอร์ส ( Pete Dye Course )
ทั้งหมดที่กล่าวมา 11 สนามนั้นเป็นสนามระดับแชมเปียนชิพ มี 18 หลุมทั้ง พาร์ 3 พาร์ 4 และพาร์ 5 ใช้แข่งขันรายการใหญ่ยักษ์ได้ทั้งสิ้น แล้วยังมีนักกอล์ฟเจ้าถิ่นอีกคนหนึ่งคือ จ้าง เหลียน เหว่ย ( Zhang Lian-Wei ) ซึ่งเป็นนักกอล์ฟจากสาธารณรัฐประชาชนจีนคนแรกที่ไปโด่งดังในระดับนานาชาติ เขาออกแบบสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่เป็นพาร์ 3 ล้วนๆคือ จ้าง เหลียนเหว่ย คอร์ส ( Zhang Lianwei Course )
นอกจากสนามกอล์ฟ 12 สนามแล้ว ภายใน มิชเชิน ฮิลส์ กอล์ฟ คลับ ยังมี สถาบันสอนกอล์ฟ ( David Leadbetter Golf Academy ) สปา รีสอร์ท โรงแรม 5 ดาว ศูนย์นันทนาการ พร้อมด้วยคอร์ทเทนนิสอีก 51 คอร์ท ซึ่ง 1 ในนั้นมีคอร์ทกลางที่จุผู้ชมได้ 3,000 คน นับว่าเป็นศูนย์กีฬาเทนนิสที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย และที่สำคัญ สิ่งที่แสดงความยิ่งใหญ่ของ มิชเชิน ฮิลส์ ก็คือ ได้รับสิทธิในการจัดการแข่งขันกอล์ฟทีมชายชิงแชมป์โลก ( the Mission Hills World Cup ) ที่นำเอานักกอล์ฟชาติละ 2 คนเป็นตัวแทนทีมชาติมาชิงแชมป์โลกกัน ทาง มิชเชิน ฮิลส์ ได้รับสิทธิดังกล่าวตั้งแต่ปี 2007 ยิงยาวไปถึงปี 2018 ทีเดียว 12 ปีเลยครับ
นับศตวรรษมาแล้วที่เรารู้จัก พายน์เฮิร์สท รีสอร์ท ( Pinehurst Resort ) ใน นอร์ธ แคโรลายนา สหรัฐอเมริกา ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1895 ภายในมีสนามกอล์ฟ 18 หลุมถึง 8 สนามรวมกระจุกกันอยู่ และได้รับการขนานนามว่าเป็นกอล์ฟ รีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในโลกจาก เดอะ กินเนส เวิร์ลด เร็คเคิร์ดส ( the Guinness World Records ) หนังสือบันทึกสถิติโลกที่ตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 1955 จนถึงปัจจุบัน แต่ตอนนี้ พายน์เฮิร์สท รีสอร์ท ตกกระป๋องไปเสียแล้ว เพราะเมื่อเวลาผ่านมา 1 ศตวรรษ ประเทศจีนได้สร้าง มิชเชิน ฮิลส์ กอล์ฟ คลับ ( Mission Hills Golf Club ) ขึ้นใน เฉินเจิ้น ( Shenzhen ) ประกอบไปด้วยสนามกอล์ฟ 18 หลุมถึง 12 สนาม และ เดอะ กินเนส เวิร์ลด เร็คเคิร์ดส ก็หันมายกย่องให้ที่นี่เหนือกว่าอย่างไม่มีข้อสงสัย
ในปี 1895 เจมส์ วอล์คเคอร์ ทัฟท์ส ( James Walker Tufts ) นักธุรกิจอเมริกันเริ่มซื้อที่ดินกว้างใหญ่ขนาด 22 ตารางกิโลเมตรใน นอร์ธ แคโรลายนา เทียบพื้นที่เป็นระบบที่คนอเมริกันใช้ก็ราว 5,500 เอเคอร์ ซึ่งราคายุคนั้นก็ตกเอเคอร์ละ 1 เหรียญสหรัฐ กว่าจะได้สร้างสนามกอล์ฟแห่งแรกก็ปาเข้าไปปี 1897 เสร็จสมบูรณ์ในปี 1898 และก็ได้จัดการแข่งขันกอล์ฟครั้งแรกเป็นรายการ ยูนายเต็ด นอร์ธ แอนด์ เซาธ์ อามาเตอร์ แชมเปียนชิพ ( United North and South Amateur Championship ) ในปี 1901 ในระหว่างนั้นเอง ที่ทางรีสอร์ทได้จ้าง โดนัลด์ รอส ( Donald Ross ) นักกอล์ฟฝีมือกลางๆชาวสก็อตแลนด์ที่ใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐฯตั้งแต่เด็กๆ มาเป็น “ โพร ” สอนประจำที่รีสอร์ท ซึ่งก็ทำให้เขาได้มีโอกาสออกแบบสนามกอล์ฟไปด้วย หมอนี่ออกแบบรวดเดียว 4 สนามเลย แล้วอยู่มาสักพัก ก็เลิกเล่นเลิกสอน หันมาเอาดีทางออกแบบสนามกอล์ฟอย่างเดียว สำหรับสนามที่สร้างชื่อให้ รอส จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กรีนเป็นเนินแบบหลังเต่า โดยเฉพาะสนาม พายน์เฮิร์สท หมายเลข 2 ( Pinehurst No. 2 )
พายน์เฮิร์สท รีสอร์ท มีสนามกอล์ฟ 8 แห่ง โรงแรม 3 แห่ง สปา รวมทั้งสถานที่นันทนาการครบครัน เคยจัดการแข่งขันรายการใหญ่มาแล้ว เช่น พีจีเอ แชมเปียนชิพ ในปี 1936 รายเดอร์ คัพ ในปี 1951 ยู เอส โอเพน ในปี 1999 และ 2005 และกำลังจะจัดอีกในปี 2014
ส่วน มิชเชิน ฮิลส์ กอล์ฟ คลับ นั้น จีนเริ่มสร้างในปี 1992 เปิดเป็นสนามไดรฟ์ ( Driving range) ให้บุคคลทั่วไปก่อน แล้วจ้างสุดยอดนักกอล์ฟของโลกจากชาติต่างๆมาออกแบบคนละสนาม เริ่มตั้งแต่ แจ็ค นิคลอส นักกอล์ฟสหรัฐฯ เจ้าของฉายา เจ้าหมีทอง เดอะ โกลเดิน แบร์ ( The Golden Bear ) ออกแบบ เวิร์ลด คัพ คอร์ส ( World Cup Course ) เกรก นอร์แมน เจ้าของฉายา ฉลามขาวผู้ยิ่งใหญ่ เดอะ เกรท ไวท์ ชาร์ค ( The Great White Shark ) ชาวออสตราเลีย ออกแบบ นอร์แมน คอร์ส อันนิกา โซเรนสตัม นักกอล์ฟสาวชาวสวีเดนที่เพิ่งประกาศเลิกเล่นอาชีพไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เธอออกแบบ อันนิกา คอร์ส ( Annika Course ) เดอะ บิก อีซี ( The Big Easy ) เออร์นี เอลส์ นักกอล์ฟอัฟริกาใต้ ออกแบบ เอลส์ คอร์ส ( Els Course ) เดอะ บิก ฟิเจียน ( The Big Fijian ) วีเจย์ ซิงห์ อดีตมือ 1 ของโลกชาวฟิจิ ออกแบบ วีเจย์ คอร์ส ( Vijay Course ) นิค ฟัลโด นักกอล์ฟอังกฤษ นี่ก็เคยขึ้นมือ 1 ของโลกเหมือนกัน เขาออกแบบ ฟัลโด คอร์ส ( Faldo Course ) “ ออลลี ” ( Ollie ) โฆเซ มาริอา โอลาซาบาล นักกอล์ฟเลือดสเปน ออกแบบ โอลาซาบาล คอร์ส ( Olazabal Course ) นักกอล์ฟญี่ปุ่นก็ได้รับเชิญให้มาแสดงฝีมือด้วย โดย มาซาชิ โอซากิ ( Masashi Ozaki ) หรือที่เรารู้จักในนาม จัมโบ โอซากิ ( Jumbo Ozaki ) เขาออกแบบ โอซากิ คอร์ส (Ozaki Course) เดวิด เลดเบทเทอร์ นักกอล์ฟฝีมือพื้นๆชาวอังกฤษ แต่สอนเก่ง เขาเป็นคนที่ปรับวงสวิงให้ นิค ฟัลโด จนกลับมาคว้าแชมป์ชุ่ยเลย หมอนี่ออกแบบ เลดเบทเทอร์ คอร์ส ( Leadbetter Course ) พีท ดาย ( Pete Dye ) นักออกแบบสนามกอล์ฟมืออาชีพชาวสหรัฐฯ คนนี้ออกแบบ พีท ดาย คอร์ส ( Pete Dye Course )
ทั้งหมดที่กล่าวมา 11 สนามนั้นเป็นสนามระดับแชมเปียนชิพ มี 18 หลุมทั้ง พาร์ 3 พาร์ 4 และพาร์ 5 ใช้แข่งขันรายการใหญ่ยักษ์ได้ทั้งสิ้น แล้วยังมีนักกอล์ฟเจ้าถิ่นอีกคนหนึ่งคือ จ้าง เหลียน เหว่ย ( Zhang Lian-Wei ) ซึ่งเป็นนักกอล์ฟจากสาธารณรัฐประชาชนจีนคนแรกที่ไปโด่งดังในระดับนานาชาติ เขาออกแบบสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่เป็นพาร์ 3 ล้วนๆคือ จ้าง เหลียนเหว่ย คอร์ส ( Zhang Lianwei Course )
นอกจากสนามกอล์ฟ 12 สนามแล้ว ภายใน มิชเชิน ฮิลส์ กอล์ฟ คลับ ยังมี สถาบันสอนกอล์ฟ ( David Leadbetter Golf Academy ) สปา รีสอร์ท โรงแรม 5 ดาว ศูนย์นันทนาการ พร้อมด้วยคอร์ทเทนนิสอีก 51 คอร์ท ซึ่ง 1 ในนั้นมีคอร์ทกลางที่จุผู้ชมได้ 3,000 คน นับว่าเป็นศูนย์กีฬาเทนนิสที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย และที่สำคัญ สิ่งที่แสดงความยิ่งใหญ่ของ มิชเชิน ฮิลส์ ก็คือ ได้รับสิทธิในการจัดการแข่งขันกอล์ฟทีมชายชิงแชมป์โลก ( the Mission Hills World Cup ) ที่นำเอานักกอล์ฟชาติละ 2 คนเป็นตัวแทนทีมชาติมาชิงแชมป์โลกกัน ทาง มิชเชิน ฮิลส์ ได้รับสิทธิดังกล่าวตั้งแต่ปี 2007 ยิงยาวไปถึงปี 2018 ทีเดียว 12 ปีเลยครับ