ชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยว-กีฬา เป็นประธานเปิดงาน "สนามศุภชลาศัย ฉลองชัย 72 ปี" โดยมีอดีตดาวดังในตำนานทีมชาติไทยร่วมงานคับคั่ง
เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน "สนามศุภชลาศัย ฉลองชัย 72 ปี" โดยมีผู้บริหารระดับสูงข้าราชการ แขกผู้มีเกียรติ พร้อมสื่อมวลชน เข้าร่วมพิธี
จากนั้น นายสมบัติ คุรุพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงาน "สนามศุภชลาศัย ฉลองชัย 72 ปี" พร้อมเชิญ นายชุมพล ตัดริบบิ้นเปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์ และ "สวน 72 ปี ศุภชลาศัย" พร้อมกับมอบโล่ประกาศเกียติคุณให้กับอดีตนักกีฬาผู้ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศไทย และผู้สนับสนุนการพัฒนาสนามศุภชลาศัย เริ่มจากทายาทหลวงศุภชลาศัย อดีตนักกีฬาที่สร้างซื่อเสียงให้กับประเทศไทย และผู้สนับสนุนการพัฒนาสนามศุภชลาศัย
สนามศุภชลาศัย เป็นสนามที่มีเกียรติประวัติและตำนานมากมาย ซึ่งปัจจุบันกำลังจะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เรื่องกีฬาแบบครบวงจร สนามศุภชลาศัย แต่เดิมมีชื่อว่า "สนามกรีฑาสถาน" ซึ่งใช้เป็นสถานที่แข่งขันกรีฑานักเรียน ก่อนที่ นาวาโท หลวงศุภชลาศัย อธิบดีกรมพลศึกษาคนแรก จะขยายพื้นที่โดยการทำสัญญาเช่าที่ดิน ต.วังใหม่ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อก่อสร้างกรีฑาสถานแห่งชาติ ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2480 ที่เขตปทุมวัน โดยได้เริ่มสร้างอัฒจันทร์ จุคนได้ประมาณ 4,000 คน
โดยสนามแห่งนี้สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2484 จากนั้น กรมพลศึกษา ได้เปลี่ยนชื่อสนามกรีฑาสถาน เป็น "สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ" เพื่อเป็นอนุสรณ์และเกียรติประวัติแก่หลวงศุภชลาศัย ปัจจุบันนิยมเรียกสั้นๆ ว่า สนามศุภชลาศัย หรือสนามกีฬาแห่งชาติ
สำหรับสนามศุภชลาศัย นับเป็นสนามฟุตบอลที่สร้างชื่อให้กับดาวเตะทีมชาติไทยมากมาย โดยปัจจุบันมีอัฒจันทร์ล้อมรอบ มีเก้าอี้นั่งความจุรวม 35,000 ที่นั่ง และสนามแห่งนี้ได้รับเกียรติจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย
