xs
xsm
sm
md
lg

ร่วงทั้งผัวทั้งเมีย / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน

ในช่วงปี 1997-2005 ที่ ทิม มอนท์โกเมอรี ( Tim Montgomery ) ลมกรดสหรัฐอเมริกายังเวียนว่ายอยู่ในวงการกรีฑานั้น เขาเป็นนักกรีฑาคนหนึ่งที่เคยรุ่งเรืองขึ้นถึงจุดสูงสุดมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการได้แชมป์กรีฑาชิงแชมป์โลก การคว้าเหรียญทอง โอลิมปิค เกมส์ รวมถึงการได้เมียเป็นนักกรีฑาชื่อดังระดับโลก ใครๆต่างก็ยอมรับว่า ชีวิตของหมอนี่ดูดีไปหมด แต่หลังจากนั้น หลายสิ่งหลายอย่างก็ค่อยๆถูกเปิดเผยออกมาให้ชาวโลกได้รับรู้ว่า ภาพของ ทิม ที่เรามองเห็น ล้วนแต่เป็นสิ่งจอมปลอม เน่าเฟะทั้งสิ้น ชัยชนะที่ได้มา หมอนี่โกง เอาเปรียบนักกรีฑาคู่แข่งด้วยการใช้สารกระตุ้น แถมยังนำชีวิตตนเองเข้าไปพัวพันกับยาเสพติด การฟอกเงิน จนต้องเข้าไปอยู่ในคุก

ความจริงตอนเด็กๆนั้น ทิม ถูกสร้างให้เป็นนักบาสเก็ตบอล หรือไม่งั้นก็ อเมริกันฟุตบอล มากกว่าที่จะเอาดีทางกรีฑา แต่หลังจากย้ายไปเข้าเรียนที่ มหาวิทยาลัย นอร์ฟอล์ค สเตท ( Norfolk State University ) ในปี 1994 ซึ่งมีชื่อทางด้านกรีฑาประเภทลู่ เขาก็ร่วมลงแข่งกรีฑาในระดับเยาวชนหลายรายการ และก็ทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะรายการสปรินท์และวิ่งผลัด อีก 2 ปีต่อมา ทิม ติดตัวโอลิมปิคไปแข่งรายการวิ่งผลัด 4x100 เมตรชาย ทีมชุดนั้นมี จอน ดรัมมอนด์ ( Jon Drummond ) ทิม ฮาร์เดน ( Tim Harden ) มายเคิล มาร์ช ( Michael Marsh ) เดนนิส มิทเชล ( Dennis Mitchell ) และ ทิม มอนท์โกเมอรี โดยเขาได้ร่วมลงวิ่งเพียงแค่รอบคัดเลือก ( Heats ) อย่างไรก็ตาม เมื่อทีมสหรัฐฯได้อันดับ 2 รองจากทีมกรีฑาของแคนาดา ทิม ก็พลอยได้เหรียญเงินไปกับเขาด้วย ส่วนรายการวิ่ง 100 เมตรชายนั้น ทิม ยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเข้าไปแข่ง

ช่วงต้นเดือนสิงหาคมปีรุ่งขึ้น เขาผ่านการคัดเลือกในรายการวิ่ง 100 เมตรชายเข้าไปแข่งกรีฑาชิงแชมป์โลกครั้งที่ 6 ( 6th World Championships in Athletics ) ที่จัดขึ้นใน โอลิมปิค สเตเดียม กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ถือเป็นกรีฑานานาชาติระดับเมเจอร์รายการแรกของเขา และที่นั่น เขาวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 9.94 วินาที เป็นรอง โมริส กรีน ( Maurice Greene ) ลมกรดเพื่อนร่วมชาติที่ทำเวลาได้ 9.86 วินาที และ โดโนแวน เบลีย์ ( Donovan Bailey ) จากแคนาดาที่เวลา 9.91 วินาที แล้วอีก 2 ปีต่อมาในกรีฑาชิงแชมป์โลกครั้งที่ 7 ที่ เอสตาดิโอ โอลิมปิโก ( Estadio Olimpico ) ใน เซบียา ประเทศ สเปน คราวนี้ ทิม หลุดไปเยอะ ได้เพียงอันดับที่ 6 ในรายการวิ่ง 100 เมตรชาย รอบชิงชนะเลิศ แต่ก็คว้าเหรียญทองได้สำเร็จในรายการวิ่งผลัด 4x100 เมตรชาย ทีมชุดนั้น นอกจาก จอน ดรัมมอนด์ และตัวเขาเองแล้ว ยังมี บรายอัน ลูอิส ( Brian Lewis ) กับ โมริส กรีน ร่วมทีมด้วย สำหรับ โอลิมปิค เกมส์ ที่ ซิดนีย์ ประเทศ ออสตราเลีย ทิม ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานรายการวิ่ง 100 เมตรชายเช่นเคย แต่ได้ร่วมทีมผลัด ซึ่งสหรัฐฯได้เหรียญทอง

ในที่สุด ทิม มอนท์โกเมอรี ก็ทุบสถิติของ โมริส กรีน ลงได้ในวันที่ 14 กันยายน 2002 ในกรีฑา กร็อง ปรี ( Grand Prix ) ที่ ชาร์เลตี ( Charlety ) ในกรุงปารี ประเทศฝรั่งเศส ด้วยเวลา 9.78 วินาที เฉือนไปเพียง 0.01 วินาที ซึ่งในวันนั้นมีลมส่งท้ายไม่เกินมาตรฐานที่สหพันธ์กรีฑานานาชาติกำหนดในกรณีที่จะให้การรับรองสถิติโลกคือ 2.0 เมตร/วินาที พอดีเป๊ะ อย่างไรก็ตาม ภายหลังสถิติโลกอันนี้ก็ต้องถูกลบออก เพราะมีการตรวจพบโดยองค์กรควบคุมการใช้สารกระตุ้นของสหรัฐฯ ( United States Anti-Doping Agency - USADA ) ว่า ทิม ใช้สารกระตุ้น ทั้ง อินซูลิน สตีรอยด์ และ เอริโธรโพอิเอทิน ( Erythropoietin – EPO ) ทิมเป็นนักกรีฑา 1 ในหลายสิบคนที่ได้รับการแนะนำจากห้องแล็บสุดฉาวที่มีชื่อว่า บาลโก ( Bay Area Laboratory Co-Operative – Balco ) ตั้งอยู่ใกล้กับ ซาน ฟรานซิสโก

เขาเคยใช้ชีวิตร่วมกับ แมเรียน โจนส์ ลมกรดสาวชื่อดังจากสหรัฐฯ ที่เคยได้หลายเหรียญทองจากกรีฑาชิงแชมป์โลก แต่สำหรับเหรียญโอลิมปิค เกมส์ ที่ได้จากซิดนีย์ ปี 2000 นั้น เธอเองก็ถูกริบคืนไปหมดแล้ว ด้วยข้อหาใช้สารกระตุ้น คู่นี้มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ชื่อ ทิม จูเนียร์ ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกทางกัน

หลังจากนั้น ชีวิตของ ทิม ก็ยิ่งร่วงลงเรื่อยๆ โดยในเดือนเมษายน 2006 เขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน ทิมถูกจับในข้อหาใช้เช็คปลอม 3 ฉบับที่รวมตัวเลขเป็นจำนวนเงิน 775,000 เหรียญสหรัฐฯ โดยเขาได้รับค่าตอบแทนในการร่วมขบวนการเพื่อช่วยเหลือ สตีเวน ริดดิค ( Steven Riddick ) อดีตโค้ชของเขาเป็นเงิน 20,000 เหรียญสหรัฐฯ นอกจากนั้น ทิม ยังนำเช็คที่ถูกขโมยเซ็นสั่งจ่ายเงิน 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปเข้าบัญชีอีก งานนี้ ริดดิค ตกเป็นจำเลยด้วยและติดคุก 5 ปี ในขณะที่ ทิม โดน 46 เดือน ส่วน แมเรียน โจนส์ อดีตหวานใจก็ติดร่างแหไปด้วย เพราะดันไปให้การเท็จตอนที่ถูกสอบสวนทั้งเรื่องเช็คปลอมและการใช้สารกระตุ้น เธอโดนไป 6 เดือน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา อดีตลมกรดสหรัฐฯ วัย 33 ปี โดนตัดสินจำคุก หลังจากที่ตำรวจทำแผนล่อซื้อและถ่ายภาพวีดิโอที่เขาค้าเฮโรอีนถึง 4 ครั้ง รวมน้ำหนัก 114 กรัม ในช่วงเดือนสิงหาคม 2007 ถึงเดือนเมษายน 2008 อันนี้เขาบอกว่าต้องเจอคุกเพิ่มอีก 5 ปีและถูกปรับอีกร่วม 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล่าสุด ทิม คงรับสภาพแล้ว เขาเปิดปากจากคุกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการใช้สารกระตุ้นนั้นเป็นความจริง นี่คือตัวอย่างชีวิตของคนที่พยายามสร้างภาพเลอเลิศด้วยความฉ้อฉล เอาเฉพาะนักกีฬาครับ วงการการเมือง ดารา นักแสดงไม่ต้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น