โจ คาลซากี ยอดมวยเวลส์เชื้อสายอิตาเลียน เปรยเตรียมประกาศแขวนนวมตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ หลังจากไล่ถลุงชนะคะแนน รอย โจนส์ จูเนียร์ส อดีตแชมป์โลก 4 รุ่นชาวอเมริกัน ขาดลอยคว้าแชมป์โลกรุ่นไลต์ เฮฟวี เวต มาครอง แต่ไม่วายทิ้งท้าย หากมีไฟต์น่าสนใจก็พร้อมจะขึ้นสังเวียนอีกครั้ง
ศึก "เเบตเทิล ออฟ ซูเปอร์พาวเวอร์ส" ชิงแชมป์โลกรุ่นไลต์ เฮฟวีเวต 175 ปอนด์ ของ ริง แมกกาซีน (Ring Magazine Light-Heavyweight championship) ณ สังเวียน เมดิสัน แสควร์ การ์เดน กลางมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน รูปเกมยกแรก คาลซากี พลาดท่าโดนฮุคขวาเข้าหน้าจนลงไปกองให้กรรมการนับอย่างรวดเร็ว
แต่หลังจากนั้น คาลซากี ฟื้นคืนสติขึ้นมาไล่สาดหมัดใส่ โจนส์ อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมาถึงยกที่ 7 คาลซากี ยิงซ้ายตรงเข้าเต็มเปลือกตาซ้ายของ โจนส์ จนเกิดเเผลแตกยาวกว่า 1 นิ้วเมื่อสถานการณ์เข้าทาง คาลซากี เดินหน้าเน้นเเย็บเปิดเเผลแตกของ โจนส์ จนร่อแร่ โดยหลังยกที่ 8 และ 10 แพทย์สนามขึ้นมาดูอาการแต่ยังปล่อยให้การชกดำเนินต่อไปจนครบ 12 ยก
จากนั้นกรรมการผู้ให้คะเเนนทั้ง 3 คนตัดสินให้ คาลซากี ชนะเป็นเอกฉันท์ด้วยสกอร์เท่ากันคือ 118-109 คว้าแชมป์โลกไลต์ เฮฟวีเวตไปครองอย่างยิ่งใหญ่พร้อมทำสถิติสุดยอดชนะ 46 แพ้ 0 น็อกเอาต์ถึง 32 ไฟต์ และนับเป็นชัยชนะบนแผ่นอเมริกัน 2 ไฟต์ติดทั้งๆ ที่โดนนับในยกแรก หลังจากก่อนหน้านี้เอาชนะ เบอร์นาร์ด "ดิ เอ็กซิคิวชั่นเนอร์" ฮอปกินส์ มาเมื่อเดือนเมษายน
หลังไฟต์ คาลซากี ให้สัมภาษณ์ว่า "ยกแรกผมไม่ทันระวังหมัดของ โจนส์ เลยโดนเต็มๆ จนลงไปกองกับพื้น แต่หลังจากนั้นผมก็กลับมาสู่สไตล์ของตัวเองและเอาชนะไฟต์นี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก" เมื่อถูกถามถึงการแขวนนวม ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ยอดมวยวัย 35 ปี เผยว่า "ผมคงต้องเลิกชกจริงๆ ตามที่ตัดสินใจไปแล้ว จากนี้คงกลับไปพักผ่อนและอยู่กับตัวเองและครอบครัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่ที่โปรโมเตอร์และเงินด้วยว่าจะมีไฟต์ไหนน่าสนใจหรือไม่"
ส่วนผู้แพ้ รอย โจนส์ ซึ่งหลังจบไฟต์นี้มีสถิติชนะ 52 แพ้ 5 กล่าวว่า "ผมแพ้จริงๆ แม้จะอัด คาลซากี ลงไปโดนนับในยกแรกแต่ผมก็ไม่ได้มั่นใจว่าตัวเองจะได้เปรียบ และยิ่งมาโดนชกแตกในยก 7 รูปเกมของผมก็เสียไปเลย ทำอะไรไม่ถนัดจนสุดท้ายก็เป็นแบบที่เห็น"