สมจิตร จงจอหอ ยอดมวยเหรียญทองโอลิมปิก ยอมรับชีวิตเปลี่ยนแปลงไป แต่ยืนยันหลังคว้าเงินอัดฉีดร่วม 20 ล้านบาท ไม่มีลืมตัวแน่นอน
เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน 2551 ณ ห้องเรนโบว์ ชั้น 5 โรงแรมอิมพีเรียล ควีนสพาร์ค พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด มหาชน ในนามผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม "ช้าง" จัดงานเลี้ยงต้อนรับ และเฉลิมฉลองความสำเร็จให้กับทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดย นายฐาปน กล่าวว่า "ขอแสดงความยินดีกับทุกคน ที่เป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศไปทำหน้าที่ครั้งนี้ และทุกคนไม่ว่าจะได้เหรียญหรือไม่ ล้วนชนะใจคนไทยทุกคน"
จากนั้นผู้บริหารใหญ่ของ "ช้าง" ได้มอบเช็กเงินสด 1 ล้านบาท ให้กับ สมจิตร จงจอหอ และ ประภาวดี เจริญรัตนธารากุล ในฐานะที่ทั้งคู่คว้าเหรียญทองมาได้
ขณะเดียวกันได้มอบเช็กเงินสด 5 แสนบาท ให้กับ มนัส บุญจำนงค์ และ บุตรี เผือดผ่องที่คว้าเหรียญเงินมา นอกจากนี้ ยังมอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬาทุกคนที่ไม่ได้เหรียญคนละ 1 หมื่นบาทอีกด้วย
ด้าน สมจิตร จงจอหอ ยอดมวยเหรียญทองโอลิมปิก กล่าวเปิดใจกับผู้สื่อข่าว ยอมรับว่าชีวิตทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก "ตอนนี้ไปไหนมาไหนก็มีคนเข้ามาทักทายพูดคุยด้วยตลอด ยอมรับว่าชีวิตผมคงกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้ จากนี้ไปเราคงต้องอยู่ในสายตาประชาชนมากขึ้น ทำอะไรคนเขาก็จับตาดูอยู่ตลอด"
"แต่ผมเชื่อว่าไม่มีปัญหา เพราะผมเองก็เป็นคนธรรมดา ผมทราบดีว่าคนไทยทุกคนดีใจกับความสำเร็จของผมในวันนี้ และผมอยากบอกว่าถ้าไม่มีคนคอยให้กำลังใจ ผมก็มาไม่ถึงวันนี้แน่ และรู้สึกดีใจมากที่มีส่วนทำให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุข"
"เรื่องเงินอัดฉีดที่ได้มาจำนวนมาก ผมก็คิดไว้แล้วว่ามันเปลี่ยนตัวผมไม่ได้ ผมไปโอลิมปิกครั้งนี้ ผมตั้งใจไปคว้าเหรียญ ซึ่งเมื่อผมได้มาแล้วมันก็เป็นความภูมิใจของผม และพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ส่วนเรื่องเงินนั้นผมก็คิดไว้แล้วว่าจะใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น ยึดถือความพอเพียงเป็นหลัก ไม่มีการลืมตัวแน่นอน" สมจิตรกล่าว