“ตะลุยแดนมังกร” กับ “ภู่ หว่า เฮง”
การไม่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติเมื่อสี่ปีก่อนที่เอเธนส์ ประกอบกับที่ผ่านมาไม่เคยขึ้นไปคว้า “เหรียญทอง” มาคล้องคอได้แม้แต่หนเดียว ทำให้ขุนพลแข้งชายบราซิเลียน หมายมั่นปั้นมือกับ “ปักกิ่งเกมส์” ค่อนข้างมาก ถึงขนาดที่ว่าต้องให้ คาร์ลอส ดุงกา กุนซือทีม “แซมบ้า” ชุดใหญ่ลงมาคุมบังเหียนด้วยตนเอง
ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น แค่สำรวจรายชื่อ 18 นักเตะที่เข้าร่วมการแข่งขัน “ภู่ หว่า เฮง” ค่อนข้างเชื่อมั่นว่าลีลาแซมบ้าจะประกาศศักดาในกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 29 เนื่องจากดาวรุ่งหลายคนน่าจับตามองอย่าง เบรโน กองหลังดาวโรจน์ที่เริ่มได้โชว์เพลงแข้งบางแล้วกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค หรือ ลูคัส เลวา กัปตันทีมชุดเล็กของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ขณะที่ โจ กองหน้าที่ย้ายมาค้าแข้งกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี น่าจะมีทีเด็ดมาฝากแฟนๆ
ประกอบกับการที่ บราซิล เรียกเอาแข้งอายุเกิน 23 ปีอย่าง ราฟินญา แบ็กจอมบุก ชาลเก 04, ดีเอโก เพลย์เมคเกอร์ “นกนางนวล” แวร์เดอร์ เบรเมน หรือว่า โรนัลดินโญ แข้งใหม่แกะกล่อง “ปิศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ทำให้การคว้าแชมป์กลุ่มซี มิใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เนื่องจากวงการลูกหนัง จีน กำลังอยู่ในช่วงตกต่ำสุดขีด ส่วน นิวซีแลนด์ อ่อนชั้นเกินไป เบลเยียม แม้สู้เต็มที่แต่การเหลือผู้เล่นน้อยกว่าถึง 2 คน จึงยากทานทน
การออกสตาร์ทด้วยการคว้าชัยทั้งสามนัดในรอบแรก น่าจะเรียกความมั่นใจและคลายความกดดันให้แก่ “ซูเปอร์สตาร์” หลายๆ คน แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ บราซิล ยิ่งดูเหมือนแบกความหวังของคนทั้งชาติไว้บนบ่า เกมรุกไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร เกมรับมีช่องว่างให้เจาะเต็มไปหมดจากการขยันเติมของทั้ง ราฟินญา และ มาร์เซโล ที่สำคัญเกมของ บราซิล มีช่องว่างระหว่างวัยเกิดขึ้นพอสมควร หลายครั้งที่รุ่นน้องต้องเกรงใจรุ่นพี่ หรือไม่ก็ทางบอลไม่ได้กัน
นี่ยังดีที่ “หมอผี” แคเมอรูน เหลือผู้เล่นแค่ 10 บราซิล จึงไล่บดเอาชนะไปได้ 2-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบน็อกเอาต์ แต่การโคจรมาพบกับ “แชมป์เก่า” อาร์เจนตินา ในรอบตัดเชือกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และรูปเกมก็ออกมาเช่นนั้น แผงกลางบราซิเลียนแม้มีทั้ง อันแดร์สัน และ เลวา ที่ค้าแข้งในพรีเมียร์ชิป กลับบดกับ เฟอร์นานโด กาโก และ ฮาเวียร์ มาสเชราโน แล้วดูเป็นรอง โรนัลดินโญ และ ดีเอโก ปั้นเกมรุกให้ ราฟาเอล โซบิส ได้ไม่ดีเท่าที่ ฮวน โรมัน ริเคลเม สอดประสานกับ ลิโอเนล เมสซี และ เซอร์จิโอ อกูเอโร
จากพรสวรรค์การกระชากลากเลื้อยของ เมสซี ทำเอาแผงหลังบราซิล กลับตัวกันแทบไม่ทัน หลายคนออกอาการ “บราซิเลียน เบลอ” ไม่ใช่ฉายาของ เลอันโดร บาร์บอซา การ์ดจอมไวของ ฟีนิกซ์ ซันส์ ในลีกยัดห่วง NBA แต่นี่เป็นอาการเบลอที่เกิดขึ้นกับแนวรับ บราซิล ที่โดนฉีกเป็นวิ่นๆ สุดท้ายลูกทีมของ ดุงกา ก็โดนคู่ปรับตลอดกาลถลุงไปแบบไม่ไว้หน้า 0-3 อกูเอโร ซึ่งประกาศก่อนเกมว่าเกิดมาไม่เคยแพ้แข้งบราซิเลียน จัดการเบิ้ลสกอร์ ส่วน ริเคลเม ส่องโทษปิดท้าย
ความพ่ายแพ้นัดนี้ทำให้ บราซิล ต้องไปรีแมตช์กับ เบลเยียม ในการชิงเหรียญทองแดง วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม ขณะที่ อาร์เจนตินา มีคิวป้องกันแชมป์กับ ไนจีเรีย เสาร์ที่ 23 ส.ค. ซึ่งขุนพล “ฟ้าขาว” ประมาท “อินทรีมรกต” อดีตแชมป์เมื่อปี 1996 มิได้เป็นอันขาด เพราะนอกจาก วิคเตอร์ อนิเชบี กองหน้าดาวรุ่ง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน”เอฟเวอร์ตัน ที่คอลูกหนังไทยคุ้นเคยกันดี
ไนจีเรีย ชุดนี้ยังเต็มไปด้วยผู้เล่นฝีเท้าเยี่ยมเกินวัยทั้ง ไต ตาอิโว แบ็กซ้ายจอมลุย โอลิมปิก มาร์กเซย์, ชิเนดู อ็อกบูเก มิดฟิลด์ โฮฟเฟนไฮม์ น้องใหม่ บนุเดสลีกา หรือว่าแผงหน้าสุดคมที่ประกอบด้วย วิคเตอร์ โอบินนา (คิเอโว), ปีเตอร์ โอเดมวินกี (โลโคโมทีฟ มอสโค) และ อิเคชุควู อูเช (เคตาเฟ) ที่พร้อมทำให้ อาร์เจนตินา น้ำตาตกเช่นกัน
การไม่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติเมื่อสี่ปีก่อนที่เอเธนส์ ประกอบกับที่ผ่านมาไม่เคยขึ้นไปคว้า “เหรียญทอง” มาคล้องคอได้แม้แต่หนเดียว ทำให้ขุนพลแข้งชายบราซิเลียน หมายมั่นปั้นมือกับ “ปักกิ่งเกมส์” ค่อนข้างมาก ถึงขนาดที่ว่าต้องให้ คาร์ลอส ดุงกา กุนซือทีม “แซมบ้า” ชุดใหญ่ลงมาคุมบังเหียนด้วยตนเอง
ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น แค่สำรวจรายชื่อ 18 นักเตะที่เข้าร่วมการแข่งขัน “ภู่ หว่า เฮง” ค่อนข้างเชื่อมั่นว่าลีลาแซมบ้าจะประกาศศักดาในกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 29 เนื่องจากดาวรุ่งหลายคนน่าจับตามองอย่าง เบรโน กองหลังดาวโรจน์ที่เริ่มได้โชว์เพลงแข้งบางแล้วกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค หรือ ลูคัส เลวา กัปตันทีมชุดเล็กของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ขณะที่ โจ กองหน้าที่ย้ายมาค้าแข้งกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี น่าจะมีทีเด็ดมาฝากแฟนๆ
ประกอบกับการที่ บราซิล เรียกเอาแข้งอายุเกิน 23 ปีอย่าง ราฟินญา แบ็กจอมบุก ชาลเก 04, ดีเอโก เพลย์เมคเกอร์ “นกนางนวล” แวร์เดอร์ เบรเมน หรือว่า โรนัลดินโญ แข้งใหม่แกะกล่อง “ปิศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ทำให้การคว้าแชมป์กลุ่มซี มิใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เนื่องจากวงการลูกหนัง จีน กำลังอยู่ในช่วงตกต่ำสุดขีด ส่วน นิวซีแลนด์ อ่อนชั้นเกินไป เบลเยียม แม้สู้เต็มที่แต่การเหลือผู้เล่นน้อยกว่าถึง 2 คน จึงยากทานทน
การออกสตาร์ทด้วยการคว้าชัยทั้งสามนัดในรอบแรก น่าจะเรียกความมั่นใจและคลายความกดดันให้แก่ “ซูเปอร์สตาร์” หลายๆ คน แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ บราซิล ยิ่งดูเหมือนแบกความหวังของคนทั้งชาติไว้บนบ่า เกมรุกไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร เกมรับมีช่องว่างให้เจาะเต็มไปหมดจากการขยันเติมของทั้ง ราฟินญา และ มาร์เซโล ที่สำคัญเกมของ บราซิล มีช่องว่างระหว่างวัยเกิดขึ้นพอสมควร หลายครั้งที่รุ่นน้องต้องเกรงใจรุ่นพี่ หรือไม่ก็ทางบอลไม่ได้กัน
นี่ยังดีที่ “หมอผี” แคเมอรูน เหลือผู้เล่นแค่ 10 บราซิล จึงไล่บดเอาชนะไปได้ 2-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบน็อกเอาต์ แต่การโคจรมาพบกับ “แชมป์เก่า” อาร์เจนตินา ในรอบตัดเชือกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และรูปเกมก็ออกมาเช่นนั้น แผงกลางบราซิเลียนแม้มีทั้ง อันแดร์สัน และ เลวา ที่ค้าแข้งในพรีเมียร์ชิป กลับบดกับ เฟอร์นานโด กาโก และ ฮาเวียร์ มาสเชราโน แล้วดูเป็นรอง โรนัลดินโญ และ ดีเอโก ปั้นเกมรุกให้ ราฟาเอล โซบิส ได้ไม่ดีเท่าที่ ฮวน โรมัน ริเคลเม สอดประสานกับ ลิโอเนล เมสซี และ เซอร์จิโอ อกูเอโร
จากพรสวรรค์การกระชากลากเลื้อยของ เมสซี ทำเอาแผงหลังบราซิล กลับตัวกันแทบไม่ทัน หลายคนออกอาการ “บราซิเลียน เบลอ” ไม่ใช่ฉายาของ เลอันโดร บาร์บอซา การ์ดจอมไวของ ฟีนิกซ์ ซันส์ ในลีกยัดห่วง NBA แต่นี่เป็นอาการเบลอที่เกิดขึ้นกับแนวรับ บราซิล ที่โดนฉีกเป็นวิ่นๆ สุดท้ายลูกทีมของ ดุงกา ก็โดนคู่ปรับตลอดกาลถลุงไปแบบไม่ไว้หน้า 0-3 อกูเอโร ซึ่งประกาศก่อนเกมว่าเกิดมาไม่เคยแพ้แข้งบราซิเลียน จัดการเบิ้ลสกอร์ ส่วน ริเคลเม ส่องโทษปิดท้าย
ความพ่ายแพ้นัดนี้ทำให้ บราซิล ต้องไปรีแมตช์กับ เบลเยียม ในการชิงเหรียญทองแดง วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม ขณะที่ อาร์เจนตินา มีคิวป้องกันแชมป์กับ ไนจีเรีย เสาร์ที่ 23 ส.ค. ซึ่งขุนพล “ฟ้าขาว” ประมาท “อินทรีมรกต” อดีตแชมป์เมื่อปี 1996 มิได้เป็นอันขาด เพราะนอกจาก วิคเตอร์ อนิเชบี กองหน้าดาวรุ่ง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน”เอฟเวอร์ตัน ที่คอลูกหนังไทยคุ้นเคยกันดี
ไนจีเรีย ชุดนี้ยังเต็มไปด้วยผู้เล่นฝีเท้าเยี่ยมเกินวัยทั้ง ไต ตาอิโว แบ็กซ้ายจอมลุย โอลิมปิก มาร์กเซย์, ชิเนดู อ็อกบูเก มิดฟิลด์ โฮฟเฟนไฮม์ น้องใหม่ บนุเดสลีกา หรือว่าแผงหน้าสุดคมที่ประกอบด้วย วิคเตอร์ โอบินนา (คิเอโว), ปีเตอร์ โอเดมวินกี (โลโคโมทีฟ มอสโค) และ อิเคชุควู อูเช (เคตาเฟ) ที่พร้อมทำให้ อาร์เจนตินา น้ำตาตกเช่นกัน