คอลัมน์ “ผจญภัยแดนมังกร” โดย “ภู่ หว่า เฮง”
แม้มีการแข่งขันฟุตบอลหญิง-ชายในนัดแรกของรอบแรกกันไปแล้ว แต่สัญญาณมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ครั้งที่29 จะดังขึ้นอย่างเป็นทางการในเวลา 20.08 น.ของคืนวันศุกร์ที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 ณ สนามกีฬาแห่งชาติกรุงปักกิ่ง หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อของ “สนามรังนก” หรือ Bird’s Nest
นอกจากเหตุผลสภาพอากาศในเดือนสิงหาคมที่เหมาะสมกับการจัดแข่งขันกีฬา อีกทั้งยังเป็นช่วงปิดภาคเรียนของบรรดานักเรียน-นักศึกษาพอดี แต่ชาวจีนค่อนข้างถือเคล็ดไม่แพ้บ้านเราหรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะหากลงรายละเอียดกันสักหน่อย “8” ถือเป็นเลขนำโชค เลขอันเป็นสิริมงคล ในภาษาจีนกลางอ่านว่า “ปา” ซึ่งออกเสียงคล้ายๆ “ฟา” ดังนั้น “ฟาฟาฟา” คือความหมายที่ประชาชนชาวจีนทุกคนปรารถนา “รวยรวยรวย” นั่นเอง
ย้อนความกลับไปเมื่อวันก่อน อันที่จริงแล้วตามแผนการเดิม “ภู่ หว่า เฮง” กับ “เฮียยุทธ” มีคิวเดินทางต่อจากเซียงไฮ้ ไปที่เมืองเสิ่นหยาง เพื่อเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลชายรอบแรก นัดแรกของกลุ่มซี แต่เมื่อไปเช็คเวลาการนั่งรถไฟที่สถานีรถไฟเซียงไฮ้ ความคิดดังกล่าวถูกพับเก็บไปโดยปริยาย เนื่องจากเราต้องเสียเวลาเดินทางนานถึง 30 ชั่วโมง แม้ไปดูเกมทั้งสองนัดทัน เนื่องจากออกจากเซียงไฮ้ในเช้าวันพุธ ทว่าปัญหาใหญ่คือ เราทั้งสองคนจะพลาดไปจัตุรัส “เทียนอันเหมิน” เพื่อเก็บบรรยากาศพิธีเปิดการแข่งขัน “ปักกิ่งเกมส์” ไปโดยปริยาย
เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้ว เจ๊โอ๋, น้องตุ้ม รวมถึงเราจึงลงความเห็นว่าต้องให้น้ำหนักไปกับพิธีเปิดการแข่งขันซึ่งทุกคนรอคอยก่อนเป็นหลัก ซึ่งวานก่อนผมประจำการอยู่ที่ออฟฟิสเพื่อทยอยยิงกระแสพิธีเปิดขึ้นเว็บ MGR Sport เป็นหลัก นอกจากเช็คข่าวผ่านหนังสือพิมพ์ China Daily ก็กดรีโมตเปิดโทรทัศน์ช่อง CCTV 9 ซึ่งเป็นช่องเดียวจาก 100 กว่าช่องในจีนที่เป็นภาษาอังกฤษ
กดกันจนเมื่อยนิ้วไปถึงช่อง 62 ซึ่งเป็นช่อง CCTV ห้าห่วง (5) ซึ่งรับหน้าเสื่อถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆ ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ก็ได้ชมฟุตบอลชายคู่ระหว่าง บราซิล กับ เบลเยียม กว่าที่ ราฟินญา, ดีเอโก และ โรนัลดินโญ สามสตาร์อายุเกิน 23 ปีจะนำพลพรรค “แซมบ้าน้อย” เบียดเอาชนะไปได้ 1-0 จากประตูชัยของ เฮอร์นาเนส ต้องรอให้คู่แข่งเหลือสิบและเก้าคนก่อน
จากนั้นไม่นานาขุนพลนักเตะ “มังกร” ก็เดินลงสู่สนามเสิ่นหยาง โอลิมปิก สเตเดี้ยม ท่ามกลางเสียงเชียร์จากแฟนๆ ร่วม 6 หมื่นคน จีน ไล่ขย่ม นิวซีแลนด์ เป็นชุดๆ แต่กลับโดน “กีวี” ที่เหลือ 10 คนพลิก แต่ก่อนหมดเวลาแค่สองนาที จีน ก็ตามเจ๊า 1-1 ได้สำเร็จจากการขวิดของ ตง ฟาง โจว กองหน้าในทีมสำรอง “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่ ผมกับเฮียยุทธ ไม่มีโอกาสเข้าไปสัมผัสอรรถรสลูกหนังอันบ้าคลั่งของชาวจีน นี่ถ้าประเดิมสนามด้วยความพ่ายแพ้ ผมหวั่นใจในความปลอดภัยของบรรดาสตาฟฟ์โค้ชและนักเตะจีนจริงๆ กลัวพวกเขาจะเดินออกจากสเตเดี้ยมไม่ได้ การเก็บได้แค่หนึ่งแต้มทำให้เส้นทางการผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไม่ถูกตัดขาดไปเสียทีเดียว และคงต้องไปวัดกับ เบลเยียม ในนัดหน้า เพื่อดูว่ายังพอมีลุ้นในแมตช์สุดท้ายกับ บราซิล หรือไม่
กลับมาเข้าสู่โหมดพิธีเปิดการแข่งขัน คงทราบกันแล้วว่า เหยา หมิง ซูเปอร์สตาร์ที่ไปยัดห่วงใน NBA ได้รับเกียรติเป็นครั้งที่สองติดต่อกันให้ถือธงแดงห้าดาว นำทัพนักกีฬาจีนลงสู่สนามเป็นชาติสุดท้ายจากทั้งหมด 205 ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขัน ส่วน ไทย หรือ “ไท้กั๋ว” จะพาเหรดลงสู่สนามรังนกเป็นลำดับที่ 146 ต่อจาก ตูนิเซีย ขณะที่คณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ กรีซ เจ้าภาพกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติครั้งแรก (ปี 1896) ได้รับเกียรติให้ปรากฏกายต่อหน้าแฟนๆ ในสนามร่วม 80,000 คน รวมถึงผู้ชมจากทั่วโลกที่คาดว่าจะสูงถึง 4 พันล้านคน
ส่วนการแสดงในพิธีเปิดที่มีอยู่ถึง 29 ชุด ใช้นักแสดงกว่า 15,000 ชีวิต เวลาแสดงประมาณ 1 ชั่วโมง จะแสดงวัฒนธรรมและบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของจีนได้มากน้อยแค่ไหน เราคงต้องติดตามชมไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจากการพูดคุยกับกลุ่มนักแสดงสมัครเล่นในชุดกล้องไท้ผิง พวกเขาแย้มกับเราว่าอย่ากระพริบตาในการแสดงเชิด “มังกรทอง” ขณะที่เพลงแห่งโอลิมปิก เป็นหน้าที่ของ ซาราห์ ไบรท์แมน “โซพราโน” สาวใหญ่ชาวอังกฤษ และ หลิว ฮวน พี่พลพล ขวัญใจชาวจีน ซึ่งจะออกมาเปล่งตัวโน้ตให้ชาวโลกรับทราบว่า “เป่ยจิง ฮวนอิ๋ง หนี่” ปักกิ่งยินดีต้อนรับคุณ!!
แม้มีการแข่งขันฟุตบอลหญิง-ชายในนัดแรกของรอบแรกกันไปแล้ว แต่สัญญาณมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ครั้งที่29 จะดังขึ้นอย่างเป็นทางการในเวลา 20.08 น.ของคืนวันศุกร์ที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 ณ สนามกีฬาแห่งชาติกรุงปักกิ่ง หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อของ “สนามรังนก” หรือ Bird’s Nest
นอกจากเหตุผลสภาพอากาศในเดือนสิงหาคมที่เหมาะสมกับการจัดแข่งขันกีฬา อีกทั้งยังเป็นช่วงปิดภาคเรียนของบรรดานักเรียน-นักศึกษาพอดี แต่ชาวจีนค่อนข้างถือเคล็ดไม่แพ้บ้านเราหรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะหากลงรายละเอียดกันสักหน่อย “8” ถือเป็นเลขนำโชค เลขอันเป็นสิริมงคล ในภาษาจีนกลางอ่านว่า “ปา” ซึ่งออกเสียงคล้ายๆ “ฟา” ดังนั้น “ฟาฟาฟา” คือความหมายที่ประชาชนชาวจีนทุกคนปรารถนา “รวยรวยรวย” นั่นเอง
ย้อนความกลับไปเมื่อวันก่อน อันที่จริงแล้วตามแผนการเดิม “ภู่ หว่า เฮง” กับ “เฮียยุทธ” มีคิวเดินทางต่อจากเซียงไฮ้ ไปที่เมืองเสิ่นหยาง เพื่อเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลชายรอบแรก นัดแรกของกลุ่มซี แต่เมื่อไปเช็คเวลาการนั่งรถไฟที่สถานีรถไฟเซียงไฮ้ ความคิดดังกล่าวถูกพับเก็บไปโดยปริยาย เนื่องจากเราต้องเสียเวลาเดินทางนานถึง 30 ชั่วโมง แม้ไปดูเกมทั้งสองนัดทัน เนื่องจากออกจากเซียงไฮ้ในเช้าวันพุธ ทว่าปัญหาใหญ่คือ เราทั้งสองคนจะพลาดไปจัตุรัส “เทียนอันเหมิน” เพื่อเก็บบรรยากาศพิธีเปิดการแข่งขัน “ปักกิ่งเกมส์” ไปโดยปริยาย
เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้ว เจ๊โอ๋, น้องตุ้ม รวมถึงเราจึงลงความเห็นว่าต้องให้น้ำหนักไปกับพิธีเปิดการแข่งขันซึ่งทุกคนรอคอยก่อนเป็นหลัก ซึ่งวานก่อนผมประจำการอยู่ที่ออฟฟิสเพื่อทยอยยิงกระแสพิธีเปิดขึ้นเว็บ MGR Sport เป็นหลัก นอกจากเช็คข่าวผ่านหนังสือพิมพ์ China Daily ก็กดรีโมตเปิดโทรทัศน์ช่อง CCTV 9 ซึ่งเป็นช่องเดียวจาก 100 กว่าช่องในจีนที่เป็นภาษาอังกฤษ
กดกันจนเมื่อยนิ้วไปถึงช่อง 62 ซึ่งเป็นช่อง CCTV ห้าห่วง (5) ซึ่งรับหน้าเสื่อถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆ ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ก็ได้ชมฟุตบอลชายคู่ระหว่าง บราซิล กับ เบลเยียม กว่าที่ ราฟินญา, ดีเอโก และ โรนัลดินโญ สามสตาร์อายุเกิน 23 ปีจะนำพลพรรค “แซมบ้าน้อย” เบียดเอาชนะไปได้ 1-0 จากประตูชัยของ เฮอร์นาเนส ต้องรอให้คู่แข่งเหลือสิบและเก้าคนก่อน
จากนั้นไม่นานาขุนพลนักเตะ “มังกร” ก็เดินลงสู่สนามเสิ่นหยาง โอลิมปิก สเตเดี้ยม ท่ามกลางเสียงเชียร์จากแฟนๆ ร่วม 6 หมื่นคน จีน ไล่ขย่ม นิวซีแลนด์ เป็นชุดๆ แต่กลับโดน “กีวี” ที่เหลือ 10 คนพลิก แต่ก่อนหมดเวลาแค่สองนาที จีน ก็ตามเจ๊า 1-1 ได้สำเร็จจากการขวิดของ ตง ฟาง โจว กองหน้าในทีมสำรอง “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่ ผมกับเฮียยุทธ ไม่มีโอกาสเข้าไปสัมผัสอรรถรสลูกหนังอันบ้าคลั่งของชาวจีน นี่ถ้าประเดิมสนามด้วยความพ่ายแพ้ ผมหวั่นใจในความปลอดภัยของบรรดาสตาฟฟ์โค้ชและนักเตะจีนจริงๆ กลัวพวกเขาจะเดินออกจากสเตเดี้ยมไม่ได้ การเก็บได้แค่หนึ่งแต้มทำให้เส้นทางการผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไม่ถูกตัดขาดไปเสียทีเดียว และคงต้องไปวัดกับ เบลเยียม ในนัดหน้า เพื่อดูว่ายังพอมีลุ้นในแมตช์สุดท้ายกับ บราซิล หรือไม่
กลับมาเข้าสู่โหมดพิธีเปิดการแข่งขัน คงทราบกันแล้วว่า เหยา หมิง ซูเปอร์สตาร์ที่ไปยัดห่วงใน NBA ได้รับเกียรติเป็นครั้งที่สองติดต่อกันให้ถือธงแดงห้าดาว นำทัพนักกีฬาจีนลงสู่สนามเป็นชาติสุดท้ายจากทั้งหมด 205 ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขัน ส่วน ไทย หรือ “ไท้กั๋ว” จะพาเหรดลงสู่สนามรังนกเป็นลำดับที่ 146 ต่อจาก ตูนิเซีย ขณะที่คณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ กรีซ เจ้าภาพกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติครั้งแรก (ปี 1896) ได้รับเกียรติให้ปรากฏกายต่อหน้าแฟนๆ ในสนามร่วม 80,000 คน รวมถึงผู้ชมจากทั่วโลกที่คาดว่าจะสูงถึง 4 พันล้านคน
ส่วนการแสดงในพิธีเปิดที่มีอยู่ถึง 29 ชุด ใช้นักแสดงกว่า 15,000 ชีวิต เวลาแสดงประมาณ 1 ชั่วโมง จะแสดงวัฒนธรรมและบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของจีนได้มากน้อยแค่ไหน เราคงต้องติดตามชมไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจากการพูดคุยกับกลุ่มนักแสดงสมัครเล่นในชุดกล้องไท้ผิง พวกเขาแย้มกับเราว่าอย่ากระพริบตาในการแสดงเชิด “มังกรทอง” ขณะที่เพลงแห่งโอลิมปิก เป็นหน้าที่ของ ซาราห์ ไบรท์แมน “โซพราโน” สาวใหญ่ชาวอังกฤษ และ หลิว ฮวน พี่พลพล ขวัญใจชาวจีน ซึ่งจะออกมาเปล่งตัวโน้ตให้ชาวโลกรับทราบว่า “เป่ยจิง ฮวนอิ๋ง หนี่” ปักกิ่งยินดีต้อนรับคุณ!!