ตาม "เด็กปั๊ม" ไปยูโร / ดูฟอร์มกระทิงที่ซัลบวร์ก

หลังจากต้องใช้บริการทั้งแฟนโซน, ร้านอาหารจีน และ อิตาลี ในการชมเกม ยูโร 2008 บนดินแดนสวิตเซอร์แลนด์ มาหลายวัน ในที่สุดผมและเซียนไก๋ ก็ได้โอกาสเหมาะเข้าไปชมเกมสดๆ ในสนามเสียที

เช้าตรู่ของวันพุธที่ 18 มิถุนายน ผมและเซียนไก๋ ออกเดินทางตั้งแต่ 8 โมงเช้าไปยังสถานีรถไฟซูริค เพื่อจะต่อรถไปยังเมืองซัลบวร์ก ประเทศออสเตรีย อีกหนึ่งเจ้าภาพร่วมในศึก ยูโร ครั้งนี้ ตามจริงแล้วกำหนดการของรถไฟจาก ซูริค ไป ซัลบวร์ก บอกว่าใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง แต่เอาเข้าจริงรถไฟบ้านเขาก็มีดีเลย์เหมือนกัน ทำให้เรามาถึงเมืองเกิดของโมสาร์ท เวลาเกือบ 4 โมงเย็น หลังออกตัวจาก ซูริค ตั้งแต่ 9.40 น.

ก่อนขึ้นรถไฟเจอกับ "ลิตเติลโจ" แห่งค่ายสยามสปอร์ต ที่ยกพลย้ายจาก ซูริค ไปยัง เวียนนา เพื่ออยู่ทำข่าวไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศช่วงปลายเดือนนี้ ส่วนพวกเราระหว่างอยู่บนรถไฟนับไม่ถ้วนจริงๆ ว่าหลับแล้วหลับอีกไปกี่รอบ

แม้ว่าผมและเซียนไก๋ จะไม่ได้บัตรนักข่าวที่ลงทะเบียนโดยตรงกับ ยูฟา แต่การมีตั๋วชมเกมคู่ สเปน - กรีซ ในฐานะแฟนบอล ก็สร้างความสะดวกสบายให้เราพอสมควร เพราะหากใครถือตั๋วฟุตบอลคู่ไหนอยู่ในมือล่ะก็จะกลายเป็นชนชั้นพิเศษขึ้นมาในทันที เพราะเราสามารถใช้บริการระบบขนส่งมวลชนทั้งใน สวิตเซอร์แลนด์ และ ออสเตรีย ได้แบบไม่ต้องควักเงินสักแดง เรียกว่าประหยัดค่ารถไฟจาก ซูริค ไป ซัลบวร์ก ที่มีราคาถึง 243 ฟรังสวิส (เกือบ 7 พันบาท) ไปเต็มๆ

เวลา 6 โมงเย็นสองคู่ดูโอจาก MGR Sport ก็ยืนอยู่หน้า ซัลบวร์ก วอร์ซีเซนไฮม์ สตาดิโอน ท่ามกลางแสงแดดที่เจิดจ้ามากเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เรามาถึงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และแม้ว่าบรรยากาศโดยรอบจะไม่คึกคักจากเหตุที่เกมคู่นี้เป็นเกมไร้ความหมายของกลุ่ม ดี แต่เมื่อถึงเวลาเขี่ยลูกเริ่มเตะผู้ชมในสนาม 3 หมื่นที่นั่งก็เต็มแน่นในทันที

เกมนี้ที่นั่งของเราอยู่หลังม้านั่งสำรองของเกมกระทิงดุ ชนิดที่เอามือเคาะหลังคาม้านั่งได้แบบสบายประกอบกับสนามแห่งนี้เป็นสังเวียนที่ไม่มีลู่วิ่งให้รำคาญใจ ทำให้ผมได้มีโอกาสใกล้ชิดนักเตะดาวดังที่วันนี้ถูกดร็อปไว้ข้างสนามเกือบทั้งทีมแบบเต็มตาทั้ง เฟอร์นานโด ตอร์เรส, ดาวิด บีญา, เซอร์คิโอ รามอส รวมถึง คาร์เลส ปูโยล

แม้เกมนี้จะเป็นเกมไร้ความหมายแต่ทั้งสองทีมก็ใส่เต็มสูบจนจบลงที่ชัยชนะในช่วงท้ายเกมของทีมกระทิงดุ แต่สิ่งที่น่าประทับใจในวันนี้คือสปิริตของแฟนบอล กรีซ ที่ประมาณด้วยสายตาน่าจะน้อยกว่ากองเชียร์ สเปน แต่ตลอด 90 นาที กองเชียร์ของทีมแชมป์เก่ากลับร้องเพลงให้กำลังใจทีมชาติของตนอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อยและเผลอๆ จะดังกว่าพลพรรคเอสปันญาด้วยซ้ำไป

รอบแรกของ 16 ทีมในยูโร 2008 ผ่านพ้นไปแล้วน่าสนใจว่าทีมฟอร์มหรูอย่าง สเปน โปรตุเกส และ ฮอลแลนด์ เมื่อถึงรอบน็อกเอาท์จะรักษาความต่อเนื่องได้แค่ไหนหรือจะถูกทีมประเภทตายยากอย่าง เยอรมัน และ อิตาลี ขโมยคว้าแชมป์ไปครอง แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เที่ยงคืนที่ ออสเตรีย (หนังตาของเด็กปั๊มใกล้จะปิดเต็มที) ไว้งวดหน้าเซียนไก๋ น่าจะมีอะไรมันๆ มาร่ายให้คุณๆ ได้อ่านกันต่อแน่นอน