xs
xsm
sm
md
lg

"ปีเตอร์ เคราช์" ถึงเวลาที่ต้องไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ย้อนไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วถือเป็นปีที่ดีที่สุดของ ปีเตอร์ เคราช์ กับ ลิเวอร์พูล ก็ว่าได้ เมื่อซัดไปได้ถึง 18 ประตูจากการลงสนาม 47 นัด ครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุด ทุกสิ่งอย่างดูเหมือนกำลังจะไปได้สวย แต่การมาของ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ทำให้ดาวยิงหุ่นสาวโทรเลขไม่ค่อยได้ลงสนามและอาจตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้

ตอร์เรส ได้รับยกย่องว่าเป็นการซื้อที่คุ้มค่าที่สุดของ ราฟาเอล เบนิเตซ ตลอดระยะเวลาคุมทัพ 4 ปีในถิ่น แอนฟิลด์ ไม่ได้พิสูจน์จากแค่จำนวน 22 ประตูรั้งรองดาวซัลโว พรีเมียร์ชิป แต่รวมถึงลีลาที่น่าตื่นตาตื่นใจในสนามทั้งกระชากลากเลื้อยไปกับลูกบอลชนิดที่เรียกว่าหาตัวจับยาก และการจบสกอร์อันเฉียบคมไว้ใจได้ทั้งในและนอกกรอบเขตโทษ

นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ เคราช์ ต้องครุ่นคิดเกี่ยวกับการย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะได้ออกสตาร์ทแค่ 7 นัดในลีกเท่านั้นเอง อีกทั้ง เบนิเตซ ยังโปรดปรานระบบ 4-2-3-1 โดยมอบบทบาทกองหน้าตัวเป้าให้กับ ตอร์เรส และมี เดิร์ก เคาท์ ลงมาต่ำคอยเก็บบอลอยู่ด้านหลัง หรือฉีกไปอยู่ริมเส้น ซึ่งช่วงที่ ลิเวอร์พูล ผลงานดีในตอนท้ายฤดูกาลก็เพราะเลิกโรเตชั่นและเล่นในระบบนี้ให้ทั้งคู่ลงเล่น 11 ใน 13 นัดหลังสุดเลยทีเดียว

หอกความสูง 6 ฟุต 7 นิ้วเผยว่า "ผมอยากจะอยู่กับ ลิเวอร์พูล ต่อไป เพราะว่านี่คือสโมสรที่มหัศจรรย์มาก ผมรักทุกสิ่งที่เกี่ยวกับทีม แต่ผมก็ต้องยอมรับสภาพความเป็นจริง ผมอยากเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ และต้องการอนาคตในชีวิตค้าแข้ง แต่สิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้น ณ เวลานี้ ผมกำลังมองไปถึงอนาคต แต่ว่าคงไม่ใช่ตอนนี้ ผมจะตัดสินใจในช่วงปิดฤดูกาล"

แน่นอนใจจริงแล้ว เคราช์ ไม่ต้องการย้ายจากทีมระดับท็อปโฟร์ของเมืองผู้ดี ล่าสุดเพิ่งจะได้ลงเล่นในเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่เอาชนะ อาร์เซนอล 4-2 พร้อมกรุยทางเข้าสู่รอบตัดเชือก ทำให้เจ้าตัวค่อนข้างแปลกใจไม่น้อยที่ได้เล่นในเกมสำคัญเช่นนี้ ถึงกับบอกว่าหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็พร้อมจะอยู่ช่วยทีมต่อไป เช่นเดียวกับ เบนิเตซ ที่ไม่อยากเสียอะไหล่ชั้นดีออกไปและพยายามโน้มน้าวให้ต่อสัญญาใหม่

นายใหญ่ชาวสเปนเผยว่า "เคราช์ มีความเป็นมืออาชีพ นั่นคือเหตุผลที่ให้มอบสัญญาใหม่ให้เขา ตอนนี้เราอาจจะใช้กองหน้าเพียงแค่คนเดียว แต่เราก็สามารถจะเล่นโดยใช้กองหน้าสองคนได้เช่นกัน ผมรู้ว่าเขามีความสุขดีที่นี่และต้องการที่จะลงสนาม เราได้เสนอสัญญาไปแล้วถ้าเขาต้องการก็ไม่ใช่ปัญหา แต่จากนี้ไปเราคงต้องรอเขาตัดสินใจ"

เรียกได้ว่า เคราช์ เดินมาสู่ทางแยกครั้งสำคัญของชีวิตที่ต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างว่าจะเซ็นสัญญาแล้วนั่งทนรอโอกาสกับ ลิเวอร์พูล ต่อไปในฤดูกาลหน้า หรือย้ายสู่ทีมขนาดรองลงมาอย่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์, แอสตัน วิลลา, แมนเชสเตอร์ ซิตี และ ปอร์ทสมัธ ที่เป็นพัวพันอยากได้ตัวก่อนหน้านี้ เพื่อจะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง

แต่ปัจจุบันด้วยวัย 27 ปี ถึงจุดที่ว่ากันว่าจะดีที่สุดในชีวิตค้าแข้ง เพราะฉะนั้นการได้ลงสนามคือสิ่งสำคัญที่สุดเหนืออื่นใด เคราช์ จำเป็นต้องคำนึงถึงอนาคต เนื่องจากโอกาสลงสนามเมื่อเทียบจากสองฤดูกาลแรกคือ 49 และ 47 นัด ตามลำดับ ลดลงมาเหลือราวครึ่งหนึ่งคือ 25 นัด (รวมตัวสำรอง) เลยทีเดียว หากปล่อยให้สถานการณ์เรื้อรังเช่นนี้สนิมอาจจะเกาะจนเล่นไม่ออก ดีไม่ดีอาจจะหมดความกระหายและทะเยอทะยานไป

ปัจจุบัน เคราช์ ยกระดับฝีเท้าของตัวเองขึ้นมาจนโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นการเก็บบอลหรือทำทางให้เพื่อนรวมถึงยิงประตูด้วยเท้าได้ดีกว่าหัวเสียอีก จนสามารถที่จะยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมอื่นได้ไม่ยาก แม้ก้าวแรกในถิ่น แอนฟิลด์ เมื่อ 3 ปีก่อนจะไม่เป็นที่โปรดปรานของสาวก "เดอะ ค็อป" ด้วยรูปร่างที่สูงเหนือใครๆ แต่กลับใช้ประโยชน์จากลูกโหม่งไม่ได้มากนักในการจบสกอร์ก็ตาม

นอกจากนี้ เคราช์ จำเป็นต้องนึกถึงตำแหน่งในทีมชาติอังกฤษ ที่สถานการณ์ยังลูกผีลูกคนภายใต้การคุมทัพของกุนซือคนใหม่อย่าง ฟาบิโอ คาเปลโล่ เพราะภาษียังดูเป็นรองเมื่อเทียบกับ เวย์น รูนีย์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ไมเคิล โอเวน ของ นิวคาสเซิล ซึ่งทั้งคู่ได้รับโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องแทบทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะรายหลังที่ฟอร์มเริ่มกลับมาน่ากลัวแล้ว

เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เจอร์เมน เดโฟ หอกร่างจิ๋วก็เพิ่งย้ายจาก ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ หลังปักหลักทนสำรองอยู่ถึง 4 ปีไปอยู่กับทีมที่เล็กกว่าอย่าง ปอร์ทสมัธ ซึ่งก็ระเบิดฟอร์มสุดยอดยิง 8 ประตูจาก 8 นัด เช่นเดียวกับ โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ มิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีม ลิเวอร์พูล ที่ย้ายไปยึดตัวจริงกับ ยูเวนตุส บางทีอาจจะถึงเวลาของ เคราช์ บ้างก็ได้ที่ต้องออกเดินทางเพื่อมองหาอนาคตครั้งใหม่

กำลังโหลดความคิดเห็น