“ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาศัยประตูของ คริสเตียโน โรนัลโด และ เวย์น รูนีย์ ช่วยบุกเล่นงาน “หมาป่าเหลืองแดง” โรมา ถึงรัง 2-0 ด้าน บาร์เซโลนา ก็บุกเฉือน ชาลเก 1-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
โรมา (อิตาลี) 0-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำพลพรรค “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกกรุงโรมทำศึกฟุตบอลยุโรปถ้วยใบใหญ่กับ “หมาป่าเหลืองแดง” โรมา ในรอบก่อนรองชนะเลิศ โดยเกมนี้ทีมเยือนจากอังกฤษมากันแบบฟูลทีมแถมยังได้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ หายเจ็บกลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง ด้านของ ลูชาโน สปัลเลตติ มีปัญหาในการจัดทีมให้เจ้าถิ่นเมื่อ ฟรานเชสโก ต็อตติ เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้ายลงสนามไม่ได้ต้องให้ เมียร์โก วูซินิช ยืนเป็นหน้าตัวเป้า ขณะที่แดนกลางยังขาดห้องเครื่องอย่าง ซิโมเน แปร์รอตตา ที่ติดโทษแบนไปอีก
เริ่มเกมการแข่งขัน โรมา ที่หวังเลือนฝันร้ายจากการตกรอบเดียวกันด้วยน้ำมือของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปีก่อน ลงมาเปิดฉากบุกเข้าใส่และก็ได้ลุ้นก่อนจากลูกเตะมุม คริสเตียน ปานุชชี เติมขึ้นมาโหม่งเฉียดคาน เจ้าถิ่นเดินหน้าบุกต่อไปและแฟนๆ พยายามร้องหาจุดโทษเมื่อเห็น เมียร์โก วูซินิช โดน ริโอ เฟอร์ดินานด์ เบียดล้มบริเวณสุดเส้นหลังแต่ ฟรองค์ เดอ บลีคเกอร์ ผู้ตัดสินจากเบลเยียมเมินเป่าให้ ทีมเยือนมีโอกาสบ้างจากลูกฟรีคิกระยะไกลแต่ คริสเตียโน โรนัลโด ซัดด้วยขวาเรียดหลุดกรอบไป
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเล่นกันด้วยความรัดกุมตั้งรับรอจังหวะสวนกลับเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ โรมา พยายามดันเกมบุกขึ้นมาแต่การเจาะเข้าทำยังไม่ผ่านแผงรับทีมเยือน นาทีที่ 28 วูซินิช ต้องลงมาต่ำเพื่อหาโอกาสและก็ได้ตวัดยิงจากนอกกรอบแต่บอลเหินข้ามคานออกไป อีกห้านาทีถัดมา “ผีแดง” ต้องเสีย เนมันยา วิดิช ให้กับอาการบาดเจ็บหลังกระโดดแย่งบอลกับ วูซินิช ก่อนลงผิดจังหวะทำให้ เฟอร์กี้ ต้องส่งเอา จอห์น โอเชีย ลงมาช่วยเกมรับ
ซึ่ง “หมาป่าเหลืองแดง” ก็เร่งเกมรุกเป็นการใหญ่เพื่อทดสอบการปรับแนวรับของผู้มาเยือน อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 39 กลายเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่พลิกขึ้นนำ 1-0 เมื่อ เวย์น รูนีย์ จ่ายบอลออกข้าง พอล สโคลส์ หยอดเข้ากลางให้ โรนัลโด โหนเข้ามาโหม่งบอลผ่านมือ อเล็กซานเดอร์ โดนี เข้าไปตุงตาข่าย และนี่ก็เป็นประตูที่ 7 ในแชมเปียนส์ ลีก สำหรับ “หนูโด้” ก่อนหมดครึ่งแรก โรมา ได้ลุ้นตีเสมอเช่นกันแต่ลูกหลุดเข้าไปป้ายบอลของ วูซินิช ผ่านเสาไกลออกไปทำให้จบ 45 นาทีแรก “ผีแดง” ถือความได้เปรียบเอาไว้ได้
ลงมาลุยกันต่อในครึ่งหลัง โรมา ไม่พูดพร่ำทำเพลงเปิดฉากบู๊ใส่ทันทีเพื่อทวงประตูคืน มักซ์ โตเนตโต เติมเกมบุกขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนรับบอลจากเพื่อนและยิงทันทีแต่ลูกหนังพุ่งหลุดเสาออกไป การเติมเกมของ โตเนตโต ขึ้นมาอีกครั้งและแบ็กซ้าย “หมาป่าเหลืองแดง” กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาร้อนถึง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องลอยตัวปัดบอลพ้นคานออกไป เจ้าถิ่นโหมกระหน่ำ นาทีที่ 52 แฟนๆ เสียดายไปตามๆ กันเมื่อ ปานุชชี ได้โอกาสยิงเหน่งในกรอบ 6 หลาแต่ดันกดบอลไม่ลงพลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย
เมื่อโดนโถมใส่อย่างหนัก เฟอร์กูสัน ต้องแก้เกมให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการถอด อันแดร์สัน ซึ่งถนัดในเกมรุกออกมาเพื่อเปิดทางให้ โอเวน ฮาร์กรีฟส์ ลงไปช่วยตัดเกมแดนกลาง หนึ่งชั่วโมงผ่านไป สปัลเลตติ ปรับเกมรุกให้เจ้าบ้านบ้างส่ง ลูโดวิช ชูลี มาเติมสีสันเกมรุกแทน โรดริโก ตัดเด ที่วันนี้ค่อนข้างเงียบ นาทีที่ 62 ฟาน เดอร์ ซาร์ โชว์ซูเปอร์เซฟครั้งสำคัญจากการขวิดลูกเตะมุมที่เสาแรกของ วูซินิช
เมื่อบุกเท่าไหร่ก็ทำไม่สำเร็จ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ลงโทษเจ้าถิ่นด้วยการทิ้งห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 66 เมื่อ สโคลส์ เปิดบอลเลยไปเสาสองให้ ปาร์ค จี ซอง โขกตั้งเข้ากลาง โดนี บินไปรับบอลหลุดมือทำให้ รูนีย์ ได้ซ้ำจ่อๆ เข้าไป สองนาทีถัดมาทีมเยือนเล่นกันอย่างมั่นใจ โรนัลโด ลากตัดเข้ามายิงบอลไปติดเซฟของนายทวารทีมชาติบราซิลก่อนแฉลบเสาออกหลังไป ท้ายเกม โรมา ดูแผ่วไปขณะที่ทีมเยือนลงไปตั้งรับรอสวนกลับ ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บผลที่ยอดเยี่ยมกลับไปรอเปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้ “หมาป่าเหลืองแดง” แก้มือต่อไปในนัดที่สอง สัปดาห์หน้า
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
โรมา : อเล็กซานเดอร์ โดนี , มาร์โก คาสเซตติ , คริสเตียน ปานุชชี , ฟิลิปป์ เม็กแซส , มักซ์ โตเนตโต , ดานิเอเล เด รอสซี , ดาวิด ปิซาร์โร , โรดริโก ตัดเด , อัลแบร์โต อควิลานี , อเลสซานโดร มันชินี , เมียร์โก วูซินิช
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , เวส บราวน์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , ปาทริซ เอวรา , ไมเคิล คาร์ริค , พอล สโคลส์ , อันแดร์สัน , ปาร์ค จี ซอง , คริสเตียโน โรนัลโด , เวย์น รูนีย์
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ประจำคืนวันอังคาร ปรากฏว่า “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา จากสเปน บุกมาเฉือน “ราชันสีน้ำเงิน” ชาลเก 04 ถึงเยอรมนี 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก โบยาน เกอร์กิซ กองหน้าดาวรุ่งฟอร์มฮอตตั้งแต่นาทีที่ 12
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
โรมา (อิตาลี) 0-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำพลพรรค “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกกรุงโรมทำศึกฟุตบอลยุโรปถ้วยใบใหญ่กับ “หมาป่าเหลืองแดง” โรมา ในรอบก่อนรองชนะเลิศ โดยเกมนี้ทีมเยือนจากอังกฤษมากันแบบฟูลทีมแถมยังได้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ หายเจ็บกลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง ด้านของ ลูชาโน สปัลเลตติ มีปัญหาในการจัดทีมให้เจ้าถิ่นเมื่อ ฟรานเชสโก ต็อตติ เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้ายลงสนามไม่ได้ต้องให้ เมียร์โก วูซินิช ยืนเป็นหน้าตัวเป้า ขณะที่แดนกลางยังขาดห้องเครื่องอย่าง ซิโมเน แปร์รอตตา ที่ติดโทษแบนไปอีก
เริ่มเกมการแข่งขัน โรมา ที่หวังเลือนฝันร้ายจากการตกรอบเดียวกันด้วยน้ำมือของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปีก่อน ลงมาเปิดฉากบุกเข้าใส่และก็ได้ลุ้นก่อนจากลูกเตะมุม คริสเตียน ปานุชชี เติมขึ้นมาโหม่งเฉียดคาน เจ้าถิ่นเดินหน้าบุกต่อไปและแฟนๆ พยายามร้องหาจุดโทษเมื่อเห็น เมียร์โก วูซินิช โดน ริโอ เฟอร์ดินานด์ เบียดล้มบริเวณสุดเส้นหลังแต่ ฟรองค์ เดอ บลีคเกอร์ ผู้ตัดสินจากเบลเยียมเมินเป่าให้ ทีมเยือนมีโอกาสบ้างจากลูกฟรีคิกระยะไกลแต่ คริสเตียโน โรนัลโด ซัดด้วยขวาเรียดหลุดกรอบไป
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเล่นกันด้วยความรัดกุมตั้งรับรอจังหวะสวนกลับเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ โรมา พยายามดันเกมบุกขึ้นมาแต่การเจาะเข้าทำยังไม่ผ่านแผงรับทีมเยือน นาทีที่ 28 วูซินิช ต้องลงมาต่ำเพื่อหาโอกาสและก็ได้ตวัดยิงจากนอกกรอบแต่บอลเหินข้ามคานออกไป อีกห้านาทีถัดมา “ผีแดง” ต้องเสีย เนมันยา วิดิช ให้กับอาการบาดเจ็บหลังกระโดดแย่งบอลกับ วูซินิช ก่อนลงผิดจังหวะทำให้ เฟอร์กี้ ต้องส่งเอา จอห์น โอเชีย ลงมาช่วยเกมรับ
ซึ่ง “หมาป่าเหลืองแดง” ก็เร่งเกมรุกเป็นการใหญ่เพื่อทดสอบการปรับแนวรับของผู้มาเยือน อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 39 กลายเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่พลิกขึ้นนำ 1-0 เมื่อ เวย์น รูนีย์ จ่ายบอลออกข้าง พอล สโคลส์ หยอดเข้ากลางให้ โรนัลโด โหนเข้ามาโหม่งบอลผ่านมือ อเล็กซานเดอร์ โดนี เข้าไปตุงตาข่าย และนี่ก็เป็นประตูที่ 7 ในแชมเปียนส์ ลีก สำหรับ “หนูโด้” ก่อนหมดครึ่งแรก โรมา ได้ลุ้นตีเสมอเช่นกันแต่ลูกหลุดเข้าไปป้ายบอลของ วูซินิช ผ่านเสาไกลออกไปทำให้จบ 45 นาทีแรก “ผีแดง” ถือความได้เปรียบเอาไว้ได้
ลงมาลุยกันต่อในครึ่งหลัง โรมา ไม่พูดพร่ำทำเพลงเปิดฉากบู๊ใส่ทันทีเพื่อทวงประตูคืน มักซ์ โตเนตโต เติมเกมบุกขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนรับบอลจากเพื่อนและยิงทันทีแต่ลูกหนังพุ่งหลุดเสาออกไป การเติมเกมของ โตเนตโต ขึ้นมาอีกครั้งและแบ็กซ้าย “หมาป่าเหลืองแดง” กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาร้อนถึง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องลอยตัวปัดบอลพ้นคานออกไป เจ้าถิ่นโหมกระหน่ำ นาทีที่ 52 แฟนๆ เสียดายไปตามๆ กันเมื่อ ปานุชชี ได้โอกาสยิงเหน่งในกรอบ 6 หลาแต่ดันกดบอลไม่ลงพลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย
เมื่อโดนโถมใส่อย่างหนัก เฟอร์กูสัน ต้องแก้เกมให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการถอด อันแดร์สัน ซึ่งถนัดในเกมรุกออกมาเพื่อเปิดทางให้ โอเวน ฮาร์กรีฟส์ ลงไปช่วยตัดเกมแดนกลาง หนึ่งชั่วโมงผ่านไป สปัลเลตติ ปรับเกมรุกให้เจ้าบ้านบ้างส่ง ลูโดวิช ชูลี มาเติมสีสันเกมรุกแทน โรดริโก ตัดเด ที่วันนี้ค่อนข้างเงียบ นาทีที่ 62 ฟาน เดอร์ ซาร์ โชว์ซูเปอร์เซฟครั้งสำคัญจากการขวิดลูกเตะมุมที่เสาแรกของ วูซินิช
เมื่อบุกเท่าไหร่ก็ทำไม่สำเร็จ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ลงโทษเจ้าถิ่นด้วยการทิ้งห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 66 เมื่อ สโคลส์ เปิดบอลเลยไปเสาสองให้ ปาร์ค จี ซอง โขกตั้งเข้ากลาง โดนี บินไปรับบอลหลุดมือทำให้ รูนีย์ ได้ซ้ำจ่อๆ เข้าไป สองนาทีถัดมาทีมเยือนเล่นกันอย่างมั่นใจ โรนัลโด ลากตัดเข้ามายิงบอลไปติดเซฟของนายทวารทีมชาติบราซิลก่อนแฉลบเสาออกหลังไป ท้ายเกม โรมา ดูแผ่วไปขณะที่ทีมเยือนลงไปตั้งรับรอสวนกลับ ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บผลที่ยอดเยี่ยมกลับไปรอเปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้ “หมาป่าเหลืองแดง” แก้มือต่อไปในนัดที่สอง สัปดาห์หน้า
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
โรมา : อเล็กซานเดอร์ โดนี , มาร์โก คาสเซตติ , คริสเตียน ปานุชชี , ฟิลิปป์ เม็กแซส , มักซ์ โตเนตโต , ดานิเอเล เด รอสซี , ดาวิด ปิซาร์โร , โรดริโก ตัดเด , อัลแบร์โต อควิลานี , อเลสซานโดร มันชินี , เมียร์โก วูซินิช
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , เวส บราวน์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , ปาทริซ เอวรา , ไมเคิล คาร์ริค , พอล สโคลส์ , อันแดร์สัน , ปาร์ค จี ซอง , คริสเตียโน โรนัลโด , เวย์น รูนีย์
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ประจำคืนวันอังคาร ปรากฏว่า “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา จากสเปน บุกมาเฉือน “ราชันสีน้ำเงิน” ชาลเก 04 ถึงเยอรมนี 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก โบยาน เกอร์กิซ กองหน้าดาวรุ่งฟอร์มฮอตตั้งแต่นาทีที่ 12