สหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (ฟีน่า) เตรียมถกปัญหาชุดว่ายน้ำรุ่นใหม่ หลังมีการทุบสถิติโลกถึง 13 ครั้งภายในปีนี้ โดยเฉพาะแค่ในการแข่งขันว่ายน้ำชิงแชมป์ยุโรป ที่เนเธอร์แลนด์ ก็มีการสร้างสถิติโลกใหม่ถึง 5 รายการ
สำนักข่าวเอพี รายงานว่า คอร์เนล มาร์คูลเซคู ประธานบริหารสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (ฟีน่า) เตรียมถกปัญหาชุดว่ายน้ำรุ่นใหม่ หลังก่อให้เกิดการทำลายสถิติโลกถึง 13 ครั้งในปีนี้ โดย 12 ครั้ง ตกเป็นของนักกีฬาที่สวมชุดว่ายน้ำรุ่น แอลซีอาร์ เรเซอร์ ของ สปีโด ส่วนอีก 1 ครั้งเป็นของนักกีฬาที่สวมชุดว่ายน้ำรุ่นใหม่ของ อารีน่า
ทั้งนี้ มาร์คูลเซคู ซึ่งเตรียมนำเรื่องนี้ไปพิจารณาในการแข่งขันว่ายน้ำชิงแชมป์โลกที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ในเดือนหน้า เผยว่า “มีความกังวลว่า ชุดว่ายน้ำเหล่านี้จะมีส่วนคล้ายชุดแข่งขันของนักกีฬาไตรกีฬาที่หนากว่า ซึ่งเราคงต้องพิจารณาเรื่องนี้กันอีกครั้ง”
โดยในการแข่งขันว่ายน้ำชิงแชมป์ยุโรป ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อแล็ง แบร์นาร์ ฉลามหนุ่มชาวฝรั่งเศส สวมชุดว่ายน้ำรุ่นใหม่ของสปีโด แตะขอบสระทำลายสถิติโลกถึง 3 ครั้งในรอบ 3 วัน ซึ่งเป็นการแข่งขันว่ายน้ำฟรีสไตล์ 100 เมตร 2 ครั้ง และฟรีสไตล์ 50 เมตร 1 ครั้ง
ขณะที่ เคล้าด์ ฟัวเกต์ ผู้อำนวยการเทคนิค สมาคมว่ายน้ำฝรั่งเศส ออกมาแสดงความเห็นว่า ควรมีการพูดคุยเกี่ยวกับชุดว่ายน้ำจอมทำลาย (สถิติโลก) กันอย่างจริงจังเสียที “ผมคิดว่า ควรมีการถกเรื่องนี้กันจริงๆ ซะที และควรให้คณะกรรมการด้านศีลธรรมและจริยธรรมเข้าร่วมพูดคุยในครั้งนี้ด้วย”
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วงการเจ้าสระสั่นสะเทือน ด้วยวิวัฒนาการของชุดว่ายน้ำรุ่นใหม่ เพราะหลังจากที่สปีโด เปิดตัวชุดว่ายน้ำรุ่นใหม่ เมื่อปีที่แล้ว ก็มีการทุบสถิติโลกถึง 11 ครั้งในการแข่งขันว่ายน้ำชิงแชมป์โลกที่เมลเบิร์น