ช่วงเวลาที่วงการบาสเกตบอลอาชีพอเมริกัน หรือ เอ็นบีเอ ใกล้ที่จะเข้าสู่ช่วงเพลย์ออฟ แน่นอนว่าเกมการเล่นแต่ละนัดย่อมถึงพริกถึงขิงมากขึ้น และดูเหมือนว่าสื่อเมืองลุงแซมกลัวว่าแฟนบาสฯจะลุ้นกับการทำผลงานของทีมรักมากเกินไป จึงขอสลับตัดฉากความเครียดด้วยการเปิดกรุผู้เล่นใหญ่ยักษ์ และ เล็กจิ๋วของวงการว่าใครบ้างที่มีรายชื่อทำผลงานได้แจ่มถูกใจ
คอยัดห่วงที่คิดว่า เหยา หมิง เซ็นเตอร์ชาวจีนของ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ คือผู้เล่นซึ่งสูงที่สุดแล้วในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เท่าที่เคยมีมา เอิร์ล บอยกินส์ การ์ดจ่าย ชาร์ล็อตต์ บ็อบแคทส์ จิ๋วสุดนับตั้งแต่ลีกก่อตั้ง ต้องคิดกันเสียใหม่เพราะเมื่อพลิกหน้าประวัติศาสตร์ก็ได้พบเรื่องจริงที่ว่า...
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1993 สื่อมะกันได้ตื่นตาตื่นใจกันถึงสองเด้ง เมื่อ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส ตัดสินใจเลือก ชอน แบรดลีย์ ร่าง 7 ฟุต 6 นิ้ว (2.29 เมตร) เข้าสู่ลีกในอันดับ 2 ของรอบแรก แต่เซ็นเตอร์ชาวอเมริกันผู้ไปเกิดบนดินแดนนาซี เยอรมนี หาใช่เป็นผู้เล่นสูงที่สุดของปีนั้น เพราะไม่กี่อึดใจ วอชิงตัน บูลเล็ตส์ ก็เลือกเอา จอร์จ ดูมิตรู มูเรซาน เข้าสู่ทีมในอันดับ 30 (รอบสอง) ด้วยความสูงดั่งยักษ์ปักหลั่น 7 ฟุต 7 นิ้ว (2.31 เมตร) ทำให้นักกีฬาจากโรมาเนียรายนี้กลายเป็นผู้เล่นสูงที่สุดไปโดยปริยาย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ วอชิงตัน บูลเล็ตส์ เลือกเอาผู้เล่นที่มีส่วนสูงถึง 7 ฟุต 7 นิ้วเข้าสู่ทีม เพราะเมื่อปี 1985 พวกเขาก็ดราฟท์เอา มานูเต โบล เซ็นเตอร์ชาวซูดานเข้าทีมในรอบที่สองเช่นกัน แต่คำถามเกิดขึ้นว่าระหว่างเซ็นเตอร์ทั้งสองคนนี้ใครสูงกว่ากัน ???
ซึ่งหลายฝ่ายจนปัญญาที่จะมองออกว่าใครสูงกว่ากัน แต่ก็มีบางแหล่งข่าวอ้างว่าเมื่อมีการจับเอา โบล มายืนเทียบเคียงกับ มูเรซาน วัดส่วนสูงกันแบบเซนติเมตรต่อเซนติเมตร พบว่าฝ่ายหลังเบียดชนะไปแค่ไม่กี่มิลลิเมตร อีกทั้ง “Guinness World Records” ยังบันทึกไว้ว่า “จอร์จ มูเรซาน” เป็นผู้เล่นซึ่งสูงที่สุดของเอ็นบีเอแต่เพียงรายเดียวเท่านั้น
ทว่ารูปร่างที่สูงตระหง่านประกอบกับการที่หนักถึง 300 ปอนด์ (136 กิโลกรัม) กลับทำให้ มูเรซาน ดูเกๆ กังๆ เชื่องช้าไปเสียหมดจนกลายเป็นตัวตลกสำหรับขวบปีแรก ในยุคที่เรียกว่า “ซูเปอร์สตาร์ ครองเมือง” หลายครั้งที่ส่วนสูงไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์โดน เดวิด โรบินสัน หรือ ฮาคีม โอลาจูวอน ใช้ความเก๋า ไมเคิล (แอร์) จอร์แดน ใช้ความไวเหินเข้าถึงห่วง และที่น่าผิดหวัง มูเรซาน ลงสนาม 54 เกมแต่กลับบล็อกคู่ต่อสู้ได้แค่ 48 ครั้ง เฉลี่ยเกมๆ หนึ่งไม่ถึง 1 บล็อกด้วยซ้ำ ยิ่งไปเปรียบเทียบกับปีรุคกี้ของ โบล ซึ่งบล็อกเฉลี่ย 5 ครั้งต่อเกม จึงค่อนข้างเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม อีกสองปีให้หลัง มูเรซาน กลับมาทำเฉลี่ย 14.5 แต้ม 9.6 รีบาวด์ 2.26 บล็อกต่อเกม ยิงฟิลด์โกลลงคิดเป็น 58.4 เปอร์เซ็นต์ดีที่สุดในลีก ได้รับเลือกเป็นผู้เล่นปรับปรุงฟอร์มการเล่นได้ดีที่สุดประจำฤดูกาล 1995/96 อยู่กับ บูลเล็ตส์ ได้สี่ปี มูเรซาน ชีพจรลงเท้าไปเล่นให้ นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ ในปี 1998 ก่อนกลับไปเล่นให้ Pau-Orthez ต้นสังกัดเก่าในลีกฝรั่งเศสอีกครั้ง และรีไทร์อย่างเป็นทางการในปี 2001
ในเอ็นบีเอผู้เล่นทั้ง 30 ทีมเฉลี่ยสูงกันอยู่ที่ 6 ฟุต 7 นิ้ว (2.01 เมตร) ตำแหน่งที่ส่วนสูงน้อยกว่าค่าเฉลี่ยเห็นจะหนีไม่พ้น “การ์ดจ่าย” ปัจจุบัน เอิร์ล บอยกินส์ เตี้ยที่สุดในลีกอยู่ที่ 5 ฟุต 5 นิ้ว (165 เซนติเมตร) แต่ถ้าในประวัติศาสตร์ยัดห่วงแห่งสหรัฐฯ ไม่มีใครเตี้ยได้เท่า ไทโรน “มักก์ซีย์” โบกส์ อดีตดาวเด่น ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ อีกแล้ว
แม้พกพาความสูงมาเพียง 5 ฟุต 3 นิ้ว (160 เซนติเมตร) แต่ มักก์ซีย์ โบกส์ ถูกดราฟท์สูงถึงอันดับที่ 12 ของปี 1987 โดย บูลเล็ตส์ ก่อนมาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ ฮอร์เน็ตส์ เป็นตำนานอีกคนหนึ่งของเฟรนไชส์ด้วยการลงสนามนำทีมลงเล่นมากที่สุดคิดเป็น 19,678 นาที ทำไปคนเดียว แอสซิสต์ 5,557 ครั้ง ขโมยบอล 1,067 ครั้ง และก็เคยทำเกมเดียว 19 แอสซิสต์ ก่อนมาโดน คริส พอล ดาวรุ่ง (นิวออร์ลีนส์) ฮอร์เน็ตส์ ทำลายลงได้ในที่สุด
ด้วยรูปร่างที่เล็กกว่ามาตรฐานแต่การเผชิญหน้ากับสุดยอดผู้เล่นของเอ็นบีเอหลายครั้ง โบกส์ สามารถเอาตัวรอดได้ถึง 14 ฤดูกาลเต็ม ด้วยทักษะความสามารถการในถือบอลที่โฉบเฉี่ยวประกอบกับการจ่ายบอลที่เฉียบคาด “มักก์ซีย์” จึงถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติสหรัฐฯ ชุดชิงแชมป์โลกปี 1986 ที่สเปน มีส่วนช่วยชาติผงาดคว้าเหรียญทองมาครองในที่สุด และนั่นก็เป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ก่อนอำลาลีกไปในปี 2001 กับ โตรอนโต แร็พเตอร์ส
สำหรับวงการกีฬาผู้เล่นแต่ละควรล้วนมีจุดเด่น-จุดด้อยของตัวเองที่แตกต่างกันไปอยู่ที่ใครจะผลักดันนำเอาความสามารถที่ตัวเองมีอยู่มาใช้ในทางที่เป็นประโยชน์กว่ากัน ดั่งเช่น มูราซาน และโบกส์ แม้ทั้งคู่มีรูปร่างที่ผิดแผกจากเพื่อนๆ ร่วมอาชีพ ทว่า “ยักษ์ใหญ่-เล็กพริกขี้หนู” คู่นี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในอาชีพระดับหนึ่งอย่างน้อยๆ ก็ในแง่ที่มีแฟนยัดห่วงจดจำได้มากที่สุดไม่แพ้บรรดาซูเปอร์สตาร์ ๆ