ดูเหมือนว่าชัยชนะของ ไทเกอร์ วู้ดส์ ที่คว้าโทรฟรี่ “ดับเบิลยูจีซี เวิลด์ แมทช์เพลย์ แชมเปี้ยนชิป” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วยสกอร์ที่เหนือกว่าเพื่อนร่วมวงการอย่าง “สจ๊วร์ต ซิงค์” จะไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับเกจิในวงการหรือ ผู้ชมในสนาม แกลลอรี่ คลับ อริโซน่า เท่าใดนักเมื่อ และดูเหมือนว่าการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ถือเป็นการส่งข้อความอย่างชัดเจน จากวู้ดส์ ไปยังโปรทุกรายในพีจีเอทัวร์ ว่า "พญาเสือ” ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อชัยชนะในรายการนี้ยังหมายถึงสถิติคว้าแชมป์ในพีจีเอทัวร์สูงสุดเป็นลำดับที่สี่ อันหมายถึงตัวเลขที่มากกว่า อาร์โนลต์ พาลเมอร์ ตำนานนักกอล์ฟอีกรายของวงการ
ก่อนหน้าที่ฤดูกาล 2008 ของพีจีเอทัวร์จะเริ่มต้นขึ้นไทเกอร์ วู้ดส์ ซึ่งอยู่ในฐานะนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลก ได้ออกมากล่าวถึงความตั้งใจของตนเองในปีนี้ว่าจะขอทำ “เพอร์เฟค ซีซั่น” อันหมายถึงการคว้าแชมป์รายการเมเจอร์ ให้ครบ 4 รายการ แน่นอนว่าเป็นความตั้งใจอันสุดอหังการและทำให้ผู้คนต่างสงสัยกันว่า วู้ดส์ จะทำได้สำเร็จจริงอย่างที่พูดหรือไม่ และถ้าจะมีใครสักคนที่จะหยุดความร้อนแรงของโปรหมายเลขหนึ่งโลกรายนี้ เขาผู้นั้นจะเป็นใคร
ถึงเวลานี้ชัยชนะเหนือ สจ๊วต ซิงค์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานับเป็นเป็นแชมป์พีจีเอทัวร์ครั้งที่ 63 ของเจ้าตัวและเป็นผลให้สถิติดังกล่าวนั้น แซงหน้า อาร์โนลด์ พาล์เมอร์ ขึ้นไปอยู่ในลำดับที่ 4 ของนักกอล์ฟที่คว้าแชมป์ได้มากที่สุด แต่ก็ยังเป็นรอง เบน โฮแกน ซึ่งมีสถิติอยู่ที่ 64 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้ วู้ดส์ เพิ่งจะคว้าแชมป์รายการ บูอิค อินวิเทชั่น ประเดิมเส้นทางเพอร์เฟคซีซั่นของตนเอง ซึ่งผลงานดังกล่าวน่าจะพอทำให้เห็นภาพได้ว่าทำไม วู้ดส์ จึงกล้าที่จะพูดถึงการคว้าแชมป์เมเจอร์ 4 รายการในฤดูกาลเดียว
ภายหลังรับถ้วยแชมป์ วู้ดส์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "สำหรับผมแล้วการทำผลงานได้ใกล้เคียงกับ อาร์โนลด์ พาลเมอร์ นั้นมันเป็นสิ่งที่ดีเสมอแต่ในครั้งนี้สามารถทำลายสถิติได้นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะนี่คือการสร้างผลงานที่ดีกว่าสถิติเดิมซึ่งมีอายุยืนยาวกว่า 50 ปีและชื่อของ พาลเมอร์ นั้นไม่ได้เป็นที่ยอมรับแต่เพียงในสหรัฐอเมริกาหากแต่เขาคือนักกอล์ฟที่คนทั่วโลกรู้จัก สำหรับผมนี่คือชัยชนะอันยิ่งใหญ่อีกหนึ่งรายการ"
ขณะที่ “สจ๊วร์ต ซิงค์” ผู้เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งของ วู้ดส์ ในการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กล่าวถึงฟอร์ม ของโปรหมายเลขหนึ่งในเวลานี้ว่า "เท่าที่ได้ดวลวงสวิงกันในสนาม ผมรู้สึกได้ว่า วู้ดส์ อยู่ในจุดที่หาคนทาบได้ยากแล้วเขาเรียนรู้ที่จะแก้ไขและสร้างสรรค์เกมด้วยตนเอง และนั่นทำให้ โปรหมายเลขหนึ่งของโลกผู้นี้ยากที่สร้างความผิดพลาดอันใดได้อีก ที่สำคัญที่สุดเห็นจะเป็นความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งของนักกอล์ฟอาชีพ"
ทางด้าน วู้ดส์ นั้น กล่าวถึงผลงานของตนเองในเกม แมทช์เพลย์ ที่ครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยออกปากว่าไม่ค่อยชอบการเล่นแบบนี้สักเท่าไรนักแต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป และ วู้ดส์ กำลังอยู่บนเส้นทาง "เพอร์เฟคซีซั่น" ว่า"สำหรับผมแล้วชัยชนะคือสิ่งที่ต้องการมากกว่าความพ่ายแพ้ มันเป็นสิ่งที่พ่อของผมคอยพร่ำสอนอยู่เสมอ และถ้าใครรู้จักแม่ของผมจะรู้ว่าเธอ ชื่นชอบในชัยชนะมากกว่าพ่อของผมเสียอีก และผมก็เติบโตมาในสิ่งแวดล้อมดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ผมจะกระหายในชัยชนะทุกครั้งที่ลงทำการแข่งขัน"
วงสวิงของ “พญาเสือ” ในเวลานี้ต้องยอมรับว่ายากจะหาคนเทียบได้ และทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตุว่าฝีมือของ วู้ดส์ นั้นล้ำหน้าโปรในพีจีเอทัวร์ทุกรายไปเป็นที่เรียบร้อย และกำลังจะกลายเป็นการแข่งขันระหว่าง 1 ต่อ 100 อันหมายถึง วู้ดส์ และ โปรรายอื่นในพีจีเอทัวร์ ซึ่งดูเหมือนทุกคนจะยอมรับ เพราะหากคุณโค่น วู้ดส์ ได้ก็เท่ากับว่าได้ยืนอยู่บนความสำเร็จอันแท้จริง เช่นเดียวกันถ้าวู้ดส์ เหนือกว่าโปรทั้ง 100 รายในพีจีเอ ก็หมายความว่า การคว้าแชมป์เมเจอร์ทั้งสี่รายการมีความเป็นไปได้สูงยิ่ง
สำหรับแชมป์บนสนาม แกลลอรี่ย์ กอล์ฟ คลับ ที่ โดฟ เมาน์เท่น นับเป็นการเก็บเกี่ยวในรายการแมทช์เพลย์ครั้งที่ 15 จาก 26 ครั้งนับตั้งแต่ วู้ดส์ ได้เข้าร่วมในเวิลด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิป ถึงเวลานี้มีเพียงสถิติของ ดาร์เรน คลาร์ก เท่านั้นใน WGC ที่วู้ดส์ ยังเป็นรองอยู่หนึ่งสมัย ซึ่ง ดาร์เรน ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงคู่ต่อสู้คนสำคัญของโปรทุกรายในวงการกอล์ฟว่า
"ทุกคนที่ต้องลงสนามในทัวร์นาเม้นท์ที่มีชื่อ ไทเกอร์ วู้ดส์ เข้าร่วมต่างรู้สึกเป็นอย่างดีว่าเมื่อลงสนามแข่งคุณต้องทำเกมให้ดีกว่ามาตรฐานปกติ เพราะชื่อของโปรหมายเลขหนึ่งรายนี้การันตีความสามารถที่เหนือกว่าบุคคลธรรมดาและเขาก็ทำได้จริง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนไม่เพียงแต่ในพีจีเอทัวร์ แต่เป็นโปรกอล์ฟทั่วโลก ต่างกระหายที่จะได้ลงสนามเดียวกับ นักกอล์ฟที่มีชื่อว่า ไทเกอร์ วู้ดส์"
