xs
xsm
sm
md
lg

"Halftime Shows" ท็อปไฟฟ์แห่งซูเปอร์โบว์ล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นอกจากความมันในการรับชมศึก “ซูเปอร์โบว์ล” แต่ละปี คงปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงพักครึ่งของการแข่งขันแฟนๆ อเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ทั่วโลกต่างจดใจจ่อกับการติดตามชมการแสดงช่วง “Halftime Shows” อันเป็นสีสีนที่สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมในสนาม และโชว์พักครึ่งในซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 42 ณ สนาม เกลนเดล อริโซนา กำหนดการณ์ว่า ทอม เพตตี แอนด์ เดอะ ฮาร์ทเบรคเกอร์ จะมาสร้างความสุขในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ก่อนที่จะได้ชมกันในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นั้นเว็บไซต์ชื่อดัง www.AskMen.com ได้เทียบ 5 โชว์แห่งความประทับใจส่วนจะมีใครติดโผบ้างนั้นติดตามได้ในบรรทัดต่อจากนี้

อันดับ 1 ปรินซ์ (Prince) ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 41 อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ชนะ ชิคาโก แบร์ส 29-17

เมื่อถึงเวลาของ ปรินซ์ โรเจอร์ส นีลสัน หรือที่แฟนเพลงรู้จักกันในนาม “ปรินซ์” บุรุษหน้าสวยก็ออกมาวาดลวดลายต่อเพลงเป็นชุดๆ ด้วยการโซโล่กีตาร์ตัวโปรดเริ่มจาก We Will Rock You, Let’s Go Crazy, 1999, Baby I’m a Star, Proud Mary ลีลาการร้องและโยกย้ายส่ายสะโพกที่เป็นเอกลักษณ์ไปพร้อมๆ กับ 2 สาวแดนเซอร์ ประกอบกับการบรรเลงเพลงร่วมของวงมาร์ชชิง แบนด์ ของมหาวิทยาลัยฟลอริดา เอ แอนด์ เอ็ม ทำให้แฟนๆ ในสนามดอลฟิน สเตเดียม ที่ไมอามี พลิ้วไหวไปตามกัน ยิ่งในเพลง All Along the Watchtower และ Best of You เชื่อว่าหลายๆ ตัวโน๊ตยังวิ่งวนอยู่ในความรู้สึกของหลายคนถึงทุกวันนี้ ก่อนปิดท้ายด้วย Purple Rain แม้ ปรินซ์ ใช้เวลาการแสดงเพียงสั้นๆ แค่ 12 นาที แต่การโชว์ของนักดนตรีดีกรีรางวัล อคาเดมี และแกรมมี อวอร์ด ต่างได้รับการยกย่องว่าเป็น “Halftime Shows” ที่ดีที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ซูเปอร์โบว์ล

อันดับ 2 ยูทู (U2) ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 36 นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ชนะ เซ็นต์หลุยส์ แรมส์ 20-17

การแสดงช่วงพักครึ่งเวลาของศึกซูเปอร์โบว์ลในแต่ละปีล้วนแล้วแต่สร้างความบันเทิงเริงใจให้กับแฟนๆ แต่สี่เดือนหลังโศกนาฏกรรม 9/11 เมื่อปี 2001 คงไม่มีอะไรเหมาะสมเท่ากับการให้เกียรติแก่ผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมที่เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ “โบโน” ร็อคเกอร์หนุ่มใหญ่พร้อม “U2” วงดนตรีชาวไอริช มาขับขานเพลง Beautiful Day, MLK และ Where the Streets Have No Name ท่ามกลางฉากหลังที่ประดับด้วยรายชื่อของผู้เสียชีวิตบนฟากฟ้า และการที่ โบโน ปล่อยอารมณ์ถลกเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเองที่มีลายธงชาติสหรัฐฯ อยู่ด้านใน ทำให้ชาวอเมริกันซึ้งในน้ำใจของเพื่อนร่วมโลกรายนี้เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นอีกสี่ปีให้หลัง “U2” จึงได้รับเกียรติให้มาขับขานเสียงเพลงไว้อาลัยให้แก่ผู้ประสบภัยจากเฮอร์ริเคน “แคทรินา” ในศึกมันเดย์ไนท์ ฟุตบอล

อันดับ 3 ‘เจเนต แจ็คสัน และจัสติน ทิมเบอร์เลค โชว์’ ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 38 นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ชนะ แคโรไลนา แพนเธอร์ส 32-29

แทบไม่มีใครจำได้ว่า เจสซิกา ซิมป์สัน, เนลลี, พี. ดิดดี และคิด ร็อค มีส่วนร่วมกับการแสดงในซูเปอร์โบว์ล เมื่อต้นปี 2004 เพราะทุกคนต่างตกตะลึงไปกับการตัดสินใจ (ร่วมกัน) ของ จัสติน ทิมเบอร์เลค ที่ช็อกโลกทำเอาแฟนๆ ในสนามรีไลอันท์ สเตเดียม ที่ฮุสตัน ตาค้างไปตามๆ กัน หลังกระชากเสื้อหนังสีดำของ เจเนต แจ็คสัน จนหัวนมของนักร้องสาวผิวสีซึ่งถูกบดบังอย่างตั้งใจด้วยโลหะสีเงินถลันออกมาทั้งยวง แม้สถานีโทรทัศน์ซีบีเอส (CBS) แม่ข่ายการถ่ายทอดสดสามารถตัดสัญญาณได้ทันควัน แต่ถ้าถามว่า “Halftime Shows” ครั้งไหนที่คอคนชนคนจำได้มากที่สุด หลายคนคงครางฮือเป็นเสียงเดียวกันว่าครั้งนี้นี่แหละ

อันดับ 4 ไมเคิล แจ็คสัน ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 27 ดัลลัส คาวบอยส์ ชนะ บัฟฟาโล บิลล์ส 52-17

ช่วงต้นทศวรรษที่ 90 คงไม่มีใครปฏิเสธว่าอยากดูโชว์ของ ไมเคิล แจ็คสัน เจ้าของฉายา “King of Pop” กับอัลบั้มชุด “Dangerous” แม้ต้องเผชิญหน้ากับข้อหาทำร้ายร่างกายเด็กในครั้งแรกๆ แต่แฟนๆ เกือบแสนคนในโรส โบว์ล สเตเดียม ในพาสซาเดนา แคลิฟอร์เนีย และผู้ชมหลายพันล้านคนจากทั่วโลกคงเพลินเพลิดไปกับลีลาของ แจ็คสัน ในเพลง Jam, Billie Jean, Black or White แม้ฉากปิดป็อปสตาร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องพิสมัยในเด็กผู้ชายร่ำร้องเพลง Heal The World ท่ามกลางเด็กๆ กว่า 3,500 คนที่ขึ้นมาร่วมแสดงบนเวทีจะดูขัดสายตาของผู้ที่ตั้งแง่กับ แจ็คสัน ไปบ้าง แต่ก็มีอยู่ไม่น้อยที่ชื่นชมในความสามารถของเขา

อันดับ 5 แอโรสมิธ, เอ็นซิงก์, บริทนีย์ สเปียร์ส ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 35 บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ชนะ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส 34-7

นับเป็นการโชว์ที่ค่อนข้างมีสีสันจากการผสมผสานกันอย่างลงตัว สำหรับแฟนๆ ที่ชอบขยับสะโพกโยกเอวคงสนุกสนานไม่น้อยกับการออกมาร้องไปเต้นไปของ เอ็น ซิงก์ (N Sync) และบริสนีย์ส สเปียร์ส ในเพลง Bye Bye Bye จากนั้นมาขั้นรายการกันด้วยการแสดงโชว์ตลกขบขันของบรรดานักแสดงดังจากฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น เบน สติลเลอร์, อดัม แซนด์เลอร์ และคริส ร็อค ก่อนที่วงร็อครุ่นใหญ่อย่าง แอโรสมิธ จะก้าวออกมาขับขาน I Don't Want to Miss a Thing เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง “Armageddon” และก็ปิดท้ายด้วยความประทับใจในเพลง Walk This Way





กำลังโหลดความคิดเห็น