แมเรียน โจนส์ เธอผิดจนเกินอภัย?

ภาพที่แมเรียน โจนส์ เดินออกจากศาลครั้งล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มกราคม 51 ที่ผ่านมาพร้อมกับน้ำตา หลังถูกตัดสินให้ต้องโทษจำคุก 6 เดือนคุมความประพฤติอีก 2 ปีและต้องบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวมอีก 400 ชั่วโมง นับเป็นการปิดฉากอย่างเจ็บปวดมากที่สุดสำหรับนักกีฬาที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้สร้างผลงานประวัติศาสตร์ในฐานะนักกรีฑาหญิงคนแรกที่สามารถครองเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน โอลิมปิกเพียงครั้งเดียวได้ถึง 5 เหรียญอันประกอบไปด้วยเหรียญทองจากวิ่ง 100, 200 และวิ่งผลัด 4x400 เมตร กับอีกสองเหรียญทองแดงจากกระโดดไกลและวิ่งผลัด 4x100 เมตร

เดือนตุลาคม ปี 2007 โจนส์ยอมรับต่อศาลในนครนิวยอร์กว่าใช้สารกระตุ้นประเภท สเตียรอยด์ส ก่อนหน้าการแข่งขันโอลิมปิกที่ซิดนี่ย์ปี 2000 จริงทั้งที่ก่อนหน้านี้ นักกรีฑาสาววัย 32 ปีให้การปฏิเสธมาโดยตลอดและหลังจากนั้นเธอก็ได้ประกาศอำลาวงการแต่เรื่องไม่จบเพียงเท่านั้นเพราะทางคณะกรรมการโอลิมปิกของออสเตรเลีย รวมไปถึงสหพันธ์กรีฑานานาชาติ ได้ริบเหรียญรางวัล ลบสถิติ รวมไปถึงเงินโบนัสที่เธอได้รับจากการแข่งขันคืนทั้งหมด

จากนั้นอีกเพียงสองเดือน โจนส์ ยังถูกศาลแห่งนครนิวยอร์กโดยผู้พิพากษา เคนเนธ คาราส ตัดสินให้มีโทษจำคุก 6 เดือนคุมความประพฤติ 2 ปีและต้องบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวมอีก 400 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากคำให้การที่เธอให้การปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่เคยใช้สารกระตุ้นดังกล่าว

ภายหลังการตัดสิน ทางคณะกรรมการโอลิมปิกสากลแห่งออสเตรเลีย (AOC)ซึ่งเป็นคู่กรณีของโจนส์ ในข้อหาใช้สารกระตุ้นมากว่า 7 ปีได้ออกแถลงการณ์ว่าบทลงโทษที่มีต่อแมเรียน โจนส์ นั้นเปรียบเสมือนข้อความสำคัญที่ส่งไปยังนักกีฬาที่คิดจะสร้างผลงานทางลัดด้วยการใช้สารกระตุ้นในการแข่งขันโอลิมปิก 2008 หรือ ปักกิ่ง เกมส์ที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้

ทั้งนี้โฆษกของ คณะกรรมการโอลิมปิกสากลแห่งออสเตรเลีย ไมค์ แทนเครด กล่าวว่า "โจนส์ นั้นได้ทำลายชื่อเสียงเกียรติยศในวงการกีฬาของตนเองและครอบครัว บทลงโทษนี้นับว่าสมเหตุสมผลมากที่สุดแล้ว และโทษของคนที่โกหกมาโดยตลอดนั้นไม่สมควรที่จะได้รับความปราณี ถึงเวลานี้ ชื่อ แมเรียน โจนส์ จะไม่ได้รับการจดจำในฐานะนักกรีฑาผู้สร้างผลงานอันเกรียงไกรในโอลิมปิกปี 2000 อีกต่อไปหากแต่เธอจะถูกจดจำในฐานะของนักกีฬาที่ขี้โกงผู้อื่นด้วยการใช้สารกระตุ้น สถานภาพของ โจนส์ ไม่ได้ต่างอะไรไปจากสิ่งที่ เบน จอห์นสัน เคยทำไว้ในอดีต"

ทั้งนี้อดีตซูเปอร์สตาร์จากซิดนี่ย์ 2000 จะต้องเดินเข้าสู่ประตูห้องขังในวันที่ 11 มีนาคมนี้ ซึ่งตัวเธอเองก็ยอมรับและกล่าวต่อศาลในวันที่ฟังคำพิพากษาว่า "ฉันเคารพคำตัดสิน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันในวันนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ที่กำลังเดินในทางที่ผิด"

เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดคำถามต่อสังคมและวงการกรีฑาว่ารุนแรงเกินไปหรือไม่ เพราะถึงศาลจะไม่พิพากษาจำคุกแต่ชีวิตและอนาคตของ นักกรีฑาสาววัย 32 ปีก็แทบจะดับวูบอยู่แล้ว โจนส์นั้นสูญสิ้นทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นเหรียญรางวัล หรือ แม้กระทั่งเงินโบนัสที่ได้รับหลังจากการแข่งขันซิดนี่ย์ 2000 ซึ่งเธอต้องส่งคืนให้ทั้งหมด ขณะที่คดีฟ้องร้องในศาลทำให้โจนส์ แทบจะกลายเป็นบุคคลล้มละลายจากที่เธอเคยมีสถานะเป็นนักกรีฑาทำเงินได้ปีหนึ่งหลายล้านเหรียญสหรัฐฯจากการลงแต่ละครั้งซึ่ง โจนส์จะได้รับเงินรางวัลอยู่ระหว่าง 70,000 ถึง 80,000 เหรียญสหรัฐฯ บวกกับโบนัสอย่างน้อยหนึ่งล้านเหรียญฯรวมไปถึงการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์กีฬาอีกหลากหลายยี่ห้อ

ความคิดเห็นของเพื่อนร่วมวงการอย่าง ลอเรน ฮิววิตต์ นักกรีฑาทีมชาติสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ในช่วงเตรียมตัวเพื่อลงแข่งวิ่ง 200 เมตรในปักกิ่งเกมส์ กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "ส่วนตัวแล้วฉันไม่รู้สึกสงสารหรือเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับโจนส์เลย นี่คือบทเรียนที่เธอควรได้รับหลังจากทำในสิ่งที่ผิด เราต้องไม่ลืมว่าที่ผ่านมา โจนส์ ไม่เคยยอมรับว่าใช้สารกระตุ้นจนกระทั่งเธอคิดว่าการอำลาวงการจะช่วยยุติปัญหาต่างๆได้ แต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้น ถึงเวลานี้ฉันได้แต่หวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ โจนส์ จะเป็นบทเรียนสำคัญให้กับนักกีฬาที่กำลังคิดจะใช้สารกระตุ้น"

ขณะเดียวกัน อดีตเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกสามสมัยอย่าง เรลีน บอยล์ กล่าวถึงบทลงโทษที่เกิดขึ้นกับโจนส์ "นับว่าเป็นโชคแล้วที่ถูกจำคุกเพียงแค่ 6 เดือน อย่าไปมองว่านี่คือคำตัดสินที่โหดร้ายเกิดไป เพราะคุณต้องหันกลับไปมองนักกีฬาคนอื่นซึ่งต้องพ่ายแพ้ต่อโจนส์ซึ่งเล่นไม่ซื่อในการแข่งขัน"

แมเรียน โจนส์ นั้นใช้สารกระตุ้นที่เรียกกันว่า "The Clear" หรือ THG อันเป็นสารที่มีส่วนผสมของสารกระตุ้นประเภท สเตียรอย ซึ่งโจนส์ กล่าวว่าเธอได้รับสารดังกล่าวจาก อดีตโค้ช เทรเวอร์ เกรแฮม ในช่วงต้นปี 1999ซึ่งเขาบอกเธอว่ามันเป็นเพียงยาคลายกล้ามเนื้อ แต่คำกล่าวอ้างของโจนส์ ดูไร้น้ำหนักไปเพราะสาร THG นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาโดยบริษัทยา "บัลโค" ในอิลลินอยด์ ดำเนินการโดย วิคเตอร์ คอนเต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานของโจนส์ที่ไปโอลิมปิกซิดนี่ย์ในฐานะ "นักโภชนาการ" หลังจากนั้นในปี 2004 คอนเต้ ถูกจับกุมในฐานะผู้ผลิตสารกระตุ้นแน่นอนว่าคดีความดังกล่าวถูกเชื่อมโยงไปยัง แมเรียน โจนส์ แทบจะในทันที