จอฟฟ์ โอกิลวี่ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟออสซี่คนที่ 2 ที่สามารถชนะเลิศกอล์ฟเมเจอร์ รายการยูเอส โอเพ่น ที่สหรัฐฯ หลังประคองตัวหวดเกินในวันสุดท้ายแค่ 1 โอเวอร์พาร์ 71 รวมสกอร์เกิน 5 โอเวอร์ เฉือนชนะอันดับ 2 ร่วม ไปเพียงสโตรกเดียว โดยเฉพาะรายของ ฟิล มิคเคลสัน โปรขวัญใจเจ้าถิ่น ต้องพลาดโอกาสทองคว้าแชมป์อย่างเหลือเชื่อ หลังออกดับเบิ้ลโบกี้ในหลุมสุดท้าย
การแข่งขันกอล์ฟ ยูเอส โอเพ่น ครั้งที่ 106 เมเจอร์ที่สองของปี ที่สนามวิงเก็ด ฟุต กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,264 หลา พาร์ 70 ในมามาโรเนค รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ชิงเงินรางวัลรวม 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 320 ล้านบาท) ได้เสร็จสิ้นลงเเล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2549 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า จอฟฟ์ โอกิลวี่ โปรชาวออสซี่ ได้ส้มหล่นคว้าแชมป์ไปครองอย่างเหลือเชื่อ หลังผู้นำ ฟิล มิคเคลสัน โปรขวัญใจเจ้าถิ่น พลาดท่าเสียดับเบิ้ลโบกี้ในหลุมสุดท้าย ชวดตำแหน่งแชมป์ไปแค่สโตรกเดียว
โอกิลวี่ มีผลงานวันสุดท้าย ตีเกินเพียง 1 โอเวอร์พาร์ 71 รวมสกอร์ 4 วัน เกิน 5 โอเวอร์พาร์ 285 เฉือนชนะอันดับ 2 ร่วม มิคเคลสัน, โคลิน มอนต์โกเมอรี่ จากสกอตแลนด์ และ จิม ฟิวริค ชาวอเมริกัน ไป 1 สโตรก ขณะที่ เปแดร็ก แฮร์ริงตัน โปรไอริช ได้อันดับ 5 เดี่ยว แพ้แชมป์ 2 สโตรก
ผลงานชนะเลิศของ โอกิลวี่ ในรายการนี้ ทำให้เขาเป็นนักกอล์ฟแดนจิงโจ้เพียงคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ที่ได้แชมป์ยูเอส โอเพ่น ต่อจาก เดวิด เกรแฮม ที่เคยทำสำเร็จเป็นคนแรก เมื่อปี 1981 ส่วน มิคเคลสัน ที่ฟอร์มแผ่วปลาย เสีย 3 สโตรก ใน 3 หลุมสุดท้าย ต้องพลาดโอกาสมีชื่อคว้าแชมป์เมเจอร์ 3 รายการติด หลังคว้าแชมป์พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ที่บัลตุสโรล เมื่อปีที่แล้ว ต่อด้วยแชมป์เดอะ มาสเตอร์ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา