xs
xsm
sm
md
lg

กลเม็ด ‘สีกากอล์ฟ’ ล่าพระผู้ใหญ่ง่ายนิดเดียว ‘มหาหมี’ ชี้ 6 พระวัดดังโดนคดีหนัก ‘กอล์ฟ’ คุก 50 ปี!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เรื่องของสีกากอล์ฟทำให้สังคมตั้งคำถามและสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นขบวนการหรือไม่? ‘มหาหมี’มั่นใจเธอทำคนเดียว เพราะการเชื่อมต่อพระผู้ใหญ่ ‘เสพกาม-โอนเงิน’มหาศาลไม่ใช่เรื่องยาก แค่ยึดเจ้าคุณ ก.รูปแรกได้ ข, ค , ง หรือจะไปถึง 100  วัดก็ทำได้ ยันคดีนี้ถ้าดูจากเส้นเงินมีอดีตพระผู้ใหญ่ 5-6 วัดน่าจะโดนคดีหนัก เช่นเดียวกับเงินวัดที่ให้ 3.8 แสนบาท ส่วนสีกากอล์ฟก็จะรับโทษหนักขั้นต่ำคุก 50 ปี แจงวิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสให้มีการสังคายนาวงการสงฆ์ อีกทั้งจะออกกฎหมายควบคุม‘เงิน-เอาผิดพระ-ญาติโยม’ จะทำได้ก็ยุคนี้ เพราะในอดีตใครคิดเข้าไปยุ่งในกิจของสงฆ์ทำได้ยากจะถูกต่อต้านจากมหาเถรสมาคมและลูกศิษย์ทันที!

กรณี น.ส.วิลาวัลย์ หรือสีกากอล์ฟ ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนวงการสงฆ์ครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่ประเด็นพระที่ตกเป็นเหยื่อล้วนแต่เป็นพระผู้ใหญ่ ที่มีสมณศักดิ์สูง แต่เธอยังได้เก็บภาพและคลิปวิดีโอที่เคยถ่ายเก็บไว้รวมกันกว่า 80,000 ภาพ ซึ่งภาพดังกล่าวสามารถบ่งบอกและเชื่อมโยงความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างสีกากอล์ฟ กับ พระผู้ใหญ่จากวัดดัง ๆ และเป็นที่มาให้พระผู้ใหญ่เหล่านี้จำนนด้วยหลักฐานและต่างทยอยลาสิกขาในที่สุด

ในการลาสิกขานั้นหากอดีตพระรูปใดมีเพียงประเด็นการเสพเมถุนจะมีโทษชัดในพระธรรมวินัยไม่สามารถกลับมาบวชได้เท่านั้น ขณะที่อดีตพระรูปใดหากตรวจสอบเรื่องของเส้นเงินที่โอนไปให้สีกากอล์ฟพบว่าเป็นการยักยอกเงินวัดก็จะถูกดำเนินคดีอาญาเช่นกัน ทั้งนี้จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ในรอบ 3 ปี แต่ได้มีการถอนออกไปจากบัญชีเกือบทั้งหมด คงเหลืออยู่ประมาณ 8,000 บาท และยังพบว่าเธอมีการนำเงินบางส่วนไปเล่นพนัน

ดังนั้นเมื่อ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าจับกุมสีกากอล์ฟ ใน 3 ข้อหาหลังพบเส้นทางการเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา โอนเงินจากบัญชีของวัดให้ 3.8 แสนบาท จึงเป็นเรื่องที่สังคมรู้สึกยินดี เพราะรู้สึกว่าเธอคือมารร้ายทำลายศาสนา เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในวงการสงฆ์ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่สังคมจะต้องร่วมมือกันกอบกู้วิกฤตศรัทธาครั้งนี้




ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิกองทัพธรรม หรือที่รู้จักกันในนาม ‘มหาหมี’ ทนายกองทัพธรรม เปรียญธรรม 7 ประโยค ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในทางพระปริยัติธรรม และด้านกฎหมายเป็นอย่างดี บอกว่า เรื่องของสีกากอล์ฟ ที่หลายคนตั้งคำถามว่ามีการทำเป็นขบวนการหรือไม่ ในความเห็นส่วนตัว ซึ่งมีประสบการณ์ที่เคยบวชเรียนและอยู่วัดมานาน มั่นใจว่าเธอทำคนเดียว และไม่ใช่เรื่องว่าเธอเก่งกาจอะไรสามารถกวาดพระผู้ใหญ่ได้

“ถ้าเราตามข่าวผู้ก่อการร้ายภาคใต้ เขาจะเลือกเป้าหมายอ่อนไหว คือโรงเรียน เด็ก และคนชรา สีกากอล์ฟก็เหมือนกัน มองเห็นพระคือเป้าหมายอ่อนแอ เป็นผู้บริสุทธิ์ ที่เกิดปัญหาเพราะพ่ายแพ้ตัวเอง มาเสียคนตอนแก่ ทั้งที่มีความรู้แต่มาพลาด จิตใจก็เหมือนคนทั่วไป ใครรักก็รักตอบ สีกากอล์ฟก็มาอ้อน มาทำแบบหึงหวงเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ จึงไปหลงรักและก็คิดว่าเธอรักตอบ ผมจึงไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นขบวนการ”

ส่วนการที่สีกากอล์ฟเลือกกลุ่มเป้าหมายแต่พระผู้ใหญ่ มีอำนาจ บารมี ก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว เมื่อรู้จักเจ้าคุณ ก.ที่มีสมณศักดิ์นี้แล้ว ก็จะเชื่อมต่อไปที่เจ้าคุณ ข.ที่เชียงใหม่ และเจ้าคุณ ข.รู้จักเจ้าคุณ ค.ที่จังหวัดนราธิวาส ต่อไปได้ง่าย สิ่งที่ต้องสังเกตการเชื่อมโยงของสีกากอล์ฟ และพระผู้ใหญ่เหล่านี้ เราจะพบว่า ทั้งหมดเป็นพระระดับเดียวกัน มีการศึกษา เป็นพระราชาคณะ มีความรู้สูง หรือเป็นเจ้าคุณระดับเดียวกัน อยู่กลุ่มเดียวกัน

“เมื่อเจ้าคุณ ก. พาสีกาไปออกโรงทาน ที่โน่น ที่นี่ แล้วไปรู้จัก เจ้าคุณ ข. ลับหลังเจ้าคุณ ก. เธอก็ไปหาเจ้าคุณ ข. แล้ว ไปเจอเจ้าคุณ ค. ในกลุ่มเดียวกันอีก ก็แอบไปหา เจ้าคุณ ค อีก ถามว่า ขอให้มีเวลานานกว่านี้ สามารถเข้าถึงได้ 100 วัด ก็ทำได้ ไม่ใช่เรื่องยาก”

มหาหมี บอกว่า เพียงแค่สีกามีเวลา มีเป้าหมายก็จะไปถึงได้ ถามว่าอาชีพของเธอเล่นพนันออนไลน์อย่างเดียวใช่หรือไม่? ก็อาจจะมีใจรักพระผู้ใหญ่บางรูป นอกนั้นต้องถือว่า  นี่คืองานของเธอ


“ยกตัวอย่างพวกทำอสังหาริมทรัพย์ หาซื้อที่ดิน วันหนึ่ง เค้าต้องหาได้ 6-7 แปลง และซื้อเพียง 1 แปลง เดือนหนึ่งต้องหา 50-100 แปลง ถามว่าถ้าเธอจะหาสัก 100 วัด มันแตกต่างอะไร กับการหาซื้อที่ 1 แปลง”

ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาข้อมูลว่าพระวัดไหน รูปไหน มีทรัพย์สินอะไร ใช้รถอะไร หรือฐานะการเงินส่วนตัวและเงินของวัดเป็นอย่างไร ก็เพียงเข้าไปตีสนิท พอได้เงินส่วนตัวไปแล้วอยากจะได้เพิ่มหากเป็นเงินวัด พระผู้ใหญ่บางรูปก็ไม่กล้าเพราะรู้ว่าตัวเองมีสถานะเป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 147 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ หากไปยุ่งมีหวังโดนดำเนินคดีแน่ ก็พยายามตีตัวออกห่าง ก็จะถูกแบล็กเมล์ได้

สำหรับประเด็นที่ต้องคิดต่อมาก็คือ คนปกติมักจะไม่ค่อยเข้าหาพระผู้ใหญ่ มีความกลัว หรือเกรงนิด ๆ อีกทั้งพระสงฆ์ถูกมองว่ามีศักดิ์สูงกว่าคนทั่วไป จึงให้ความเคารพ และนี่เป็นพระผู้ใหญ่ทั้งนั้น แต่เธอไม่กลัวหรือไม่ยำเกรงพระ และยังเลือกสรร ล้วนเป็นพระที่มีเงิน, ที่มีอายุ, มีสมณศักดิ์ เธออาจจะมองว่าพระเหล่านี้เป็นที่ปลอดภัยสำหรับเธอ ก็เปรียบเสมือนเด็กสาว ๆ ที่ชอบอยู่กับมาเฟีย เพราะคิดว่านี่คือที่ที่ปลอดภัยก็ได้

ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิกองทัพธรรม
ถึงวันนี้จะเห็นได้ว่าพระผู้ใหญ่ที่เข้าไปอยู่ในวงเวียนชีวิตของสีกากอล์ฟ ก็ต้องลาสิกขาไปแล้วถึง 11 รูป และทิดเหล่านี้ก็ต่างทยอยให้ข้อมูลกับตำรวจสอบสวนกลาง ขณะที่สีกากอล์ฟก็ถูกตั้ง 3 ข้อหาหนัก หลังพบเส้นเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา โอนเงินจากบัญชีของวัดให้ 3.8 แสนบาท ประกอบด้วย

1.สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.147 เจ้าอาวาสถือเป็นเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 โดยมาตรา 147 บัญญัติว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุก 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 1-400,000 บาท ส่วนผู้สนับสนุนต้องระวางโทษ 2 ใน 3

2.ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 60 กล่าวถึงโทษของการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน โดยระบุว่า ผู้ใดกระทำการฟอกเงินต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นการสมคบกันเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน โทษจะลดลงเหลือเพียงกึ่งหนึ่งของโทษตามมาตรา 60

3.รับของโจร มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท แต่หากเป็นกรณีร้ายแรง รับของโจรเพื่อนำไปค้ากำไร มีโทษจำคุก 5-15 ปี ปรับ 100,000-300,000 บาท

มหาหมี ระบุว่า แม้ไม่มีกฎหมายเอาผิดพระกับสีกาเสพกามโดยตรง แต่ท้ายที่สุด เมื่อเข้ามาและมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องก็ต้องโดนโทษหนัก พ.ร.บ.คณะสงฆ์ หรือ กฎหมายอาญาบ้านเมือง มันลึกและซับซ้อน กว่าที่สีกากอล์ฟคาดคิด

“ผมในฐานะนักกฎหมายและเปรียญ 7 ประโยค บอกได้เลยสีกากอล์ฟโทษอย่างน้อย 50 ปี ติดจริง 20 ปี ซึ่งมีที่มาจากการตั้งข้อกล่าวหา เพราะสนับสนุนเจ้าพนักงาน คือ พ.ร.บ. เจ้าคณะสงฆ์ ให้วัดเป็นนิติบุคล ให้เจ้าอาวาสเป็นผู้แทนของนิติบุคคล ในการทำพิธีการทั่วไป มาตรา 45 พ.ร.บ. สงฆ์ ระบุชัดว่า เจ้าอาวาส หรือพระผู้มีตำแหน่งการปกครอง และไวยาวัจกร เป็นเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญาในส่วนความผิดพนักงาน ยืนพื้นบทครอบจักรวาลคือ มาตรา 157 เจ้าพนักงาน ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ หรือ เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีการกลั่นแกล้งบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยมิชอบ ตรงนี้ เป็นความผิดเจ้าพนักงาน จำคุกต่ำสุด 7-10 ปี

เมื่อพระเป็นเจ้าพนักงาน พระไม่มีความรู้ ว่า เป็นเจ้าพนักงาน ผิดตรงไหน กรณีถ้าใช้เงินท่าน เป็นพันล้าน ก็ไม่ผิด กฎหมายไทย เปิดช่องให้ท่านมีบัญชีส่วนตัว แต่ถ้าท่าน ในฐานะเป็นเจ้าอาวาส ไปใช้เงินวัดเพียงบาทเดียว สลึงเดียว ท่านก็มีความผิด ฐานเจ้าพนักงาน เบียดบังทรัพย์ ตามมาตรา 147 มีบทลงโทษชัดเจน”

โดยบทลงโทษตามมาตรา 147 จำคุกตั้งแต่ 5 ปี – ตลอดชีวิต , 2. มีโทษตาม ม. 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติ, 3. มีโทษ 151 -152 ฐานเจ้าพนักงาน ที่มีหน้าที่ดูแลรักษาทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ไป และมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร หนักๆ ทั้งนั้น ที่พูดมา ติด 40-50 ปีทั้งนั้น”


มหาหมี ย้ำด้วยว่า ในส่วนสีกากอล์ฟ ถ้าสืบไม่ได้ ว่าเป็นตัวการร่วม ก็จะโดนข้อหาเป็นผู้สนับสนุน ถ้าพระติด 10 ปี สีกากอล์ฟ ก็ติด 2 ใน 3 ก็หนักพอควร คือ 2 ใน 3 หรือ 1 ใน 4 แล้วแต่พฤติการณ์ พอโดนความผิด ฐานพนักงาน ไม่ใช่เป็นคนธรรมดา ยักยอก โทษมันเบา แต่เป็นเจ้าพนักงาน เบียดบังทรัพย์ โทษถึงจำคุกตลอดชีวิต สีกากอล์ฟ เป็นผู้สนับสนุน ก็โดนหนักไปด้วย และการนับจะนับเป็นกรรม เบิกกี่ครั้ง คูณกี่ครั้ง นับเป็นกรรม กรรมละ 6 เดือน กรรมละ 3 เดือน กรรมละเดือนครึ่ง กรรมละปี

ที่สำคัญพระที่สึกไปแล้ว เค้าเป็นผู้เสียหาย กล่าวโทษ ร้องโทษ พาไปรีดทรัพย์ หลอกลวง ต่างๆ สีกากอล์ฟ ก็จะโดนหนัก
เหมือนกัน ตรงนี้เป็นกฎหมายอาญา

“การกระทำแบบนี้ จะเป็นบทเรียนให้ประชาชนรู้ว่า มันมีบทลงโทษหนัก ไม่ใช่จะลอยนวลได้ แม้กฎหมายยังไม่ครอบคลุม ที่คุณทำอยู่ อย่างไร คุณก็ผิด นี่เป็นบทเรียนของชาวบ้านเหมือนกัน ชาวบ้านส่วนหนึ่ง ไปหากินกับพระ ชาวบ้านส่วนหนึ่งพยายามไปมีเพศสัมพันธ์กับพระ ก็จะต้องระวัง”


มหาหมี บอกต่อว่า เงินส่วนตัวของพระจะให้ 12 ล้านบาทก็เป็นเรื่องของท่าน แต่เงินของวัดแม้เพียงบาทเดียว ก็ผิดเพราะเป็นเงินหลวง ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ จะโดนลากเข้ามาที่ 157 ทันทีไม่ใช่แค่วัดชูจิต วัดที่สมุทรสาคร ก็เหมือนกัน”

ประเด็นสำคัญที่สังคมต้องติดตาม มหาหมี บอกว่า วันนี้ความผิดสำเร็จแล้วเป็นกฎหมายอาญาแผ่นดินไปแล้ว ถ้ารูปใดสึกแล้วจบก็สึกไปเถอะ แต่ที่น่ากลัวคือสึกไปแล้วแต่คดีความตามมา เพราะหลายท่านต่างเป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 147

“ผมดูเส้นเงินตามบัญชีรายชื่อที่ตำรวจบอก 5-6 รูปโดนหนักแน่นอน และสีกากอล์ฟ ก็จะโดนผู้สนับสนุน ไปทุกรายการ ยกเว้น มีการอัปเกรดเป็นตัวการร่วม ก็จะได้รับโทษหนักกว่า”



อย่างไรก็ดี มหาหมี ให้ข้อคิดว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดในวงการสงฆ์ จึงอยากให้ทุกคนมองว่าวิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสให้มีการสังคายนาวงการสงฆ์ และทำให้มหาเถรสมาคม ได้ตระหนักรู้ถึงพระวินัยของสงฆ์ หย่อนยาน พระสงฆ์ไม่ปฏิบัติตามธรรมวินัย สังฆาธิการไม่กวดขันพระในปกครอง จนภัยมาถึงและบ่อนทำลายศาสนาพุทธ เกิดเหตุพระผู้ใหญ่เสพเมถุน -ยักยอกเงินวัด ประชาชนก็เสื่อมศรัทธา เคยมองพระคือชนชั้นสูง ยกมือไหว้สนิทใจ แต่วันนี้ไม่ใช่อีกต่อไป

“เชื่อว่าเรื่องนี้มหาเถรสมาคมให้ความใส่ใจและต้องเร่งกวดขันดูแลให้คณะสงฆ์ ดูแลพระลูกวัดอย่างใกล้ชิด ยิ่งเมื่อรัฐบาล สส. สว.แก้กฎหมายเพิ่มโทษเอาผิดพระ ควบคุมเงินวัดและเงินส่วนตัว รวมทั้งผู้เข้ามาหาประโยชน์ในวัด ครั้งนี้น่าจะสำเร็จ ถ้าไม่เกิดเหตุพระผู้ใหญ่ โอกาสจะแก้แบบนี้ทำได้ยาก มหาเถรสมาคมไม่มีทางยอมให้ฝ่ายบ้านเมืองเข้ามายุ่ง แต่จะจัดการปัญหากันเอง เหมือนที่ผ่านมา นี่แหละโอกาสที่เราจะสังคายนาสงฆ์และแก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์ ได้ด้วย”

นอกจากนี้แม้เรื่องนี้จะสร้างบาดแผลในใจให้พุทธศาสนิกชน จนยากจะลืมเลือน รวมไปถึงคลิปและภาพต่าง ๆ ที่ปรากฏตามสื่อโซเซียล จะทำให้คนรุ่นใหม่ ยิ่งรู้สึกสิ้นศรัทธาในพระพุทธศาสนา หรือพระสงฆ์ รวมไปถึงพุทธศาสนิกชน เริ่มจะปฏิเสธวัดและพระ เพราะได้นำเงินที่พวกเขาหามาด้วยความยากลำบากแต่ได้ถวายวัดและพระ ไปปรนเปรอสีกา หรือเล่นการพนัน หากทุกฝ่ายร่วมมือกันปฏิรูปวงการสงฆ์ ก็เชื่อว่าการกอบกู้วิกฤตครั้งนี้จะกลับคืนมาได้ เพื่อจะได้ไม่ให้วิกฤตศรัทธาครั้งนี้ลุกลามไปสู่การปฏิเสธพุทธศาสนาในอนาคต

“การถือศีล 227 ข้อ แล้วย่อหย่อน มารก็จะเข้ามาในรูปแบบบุคคลภายนอก รูปแบบศาสนิกชนเอง รูปแบบผู้หญิง ทำให้ใจตัวเอง ใฝ่หาโลกธรรม ทั้ง 8 อยากได้ยศ อยากได้ศักดิ์ อยากได้เงินทอง อยากได้บ้าน รถ เหมือนชาวบ้าน หนักเข้าอยากมีลูกมีเมีย เราเห็นภัยแล้วจะได้เลิกประมาท มหาเถรสมาคมจะได้ฉุกคิด ไม่ใช่แค่ต่อพาสปอร์ตวีซ่าให้พระไปดูงานต่างประเทศ คุยกันแค่การถอดถอนพระสังฆาธิการ องค์นั้น เป็นเจ้าอาวาส คนนี้ เป็นเจ้าคณะจังหวัด อำเภอ ตำบล ต้องมาใส่ใจกำชับพระสังฆาธิการ ให้ตรวจตราเข้มงวดพระในสังกัด ว่าละเมิดพระธรรมวินัยหรือไม่”




มหาหมี ระบุว่า ประเทศไทยเคยมีการสังคายนาพระไตรปิฎก 9 ครั้ง และครั้งนี้ถ้าดำเนินการก็จะเป็นครั้งที่ 10 ซึ่งที่ผ่านมาในการสังคายนาเกิดจากมีวิกฤตเป็นช่วง ๆ อย่างการสังคายนาครั้งที่ 9 ก็จะมีความเหลวแหลกของพุทธบริษัท เหมือนกับสมัยปัจจุบัน พระเสพเมถุน พระเล่นสกา พระไปเล่นว่าวที่สนามหลวง พระขโมยเงิน พระไปแย่งลูกเมียชาวบ้าน ทุกครั้งที่สังคายนาคนโบราณจะไม่ท้อใจ

“คนโบราณจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาส และระดมราชบัณฑิต ระดมเงินทองในการสังคายนาพระไตรปิฎกและออกกฎหมายในการส่งต่อพุทธศาสนาให้กับลูก หลาน และเราก็ต้องส่งต่อให้กับรุ่นต่อไปเหมือนกัน เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ เราก็มีโอกาสที่จะร่างกฎหมาย และจัดการคณะสงฆ์ ให้กระชับอำนาจกวดขันพระให้อยู่ในพระวินัยได้”

มหาหมี ย้ำว่า ในยามปกติ เราไปจัดการไม่ได้ คณะสงฆ์อาจจะมาโจมตี มาด่าคนที่จะแก้กฎหมาย แต่สถานการณ์นี้ มหาเถรสมาคมเงียบ เพราะสังคมกำลังช่วยท่าน ในอดีตการจะออกกฎหมายควบคุมที่เกี่ยวกับคณะสงฆ์ ไม่ใช่จะผ่านออกมาบังคับใช้ง่าย ๆ แค่รับหลักการก็ไม่ผ่าน ขั้นแปรญัตติก็ไม่ผ่าน ทุกขั้นตอนล้วนโดนต่อต้านจากคณะสงฆ์ หรือบรรดาลูกศิษย์ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ในการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคณะสงฆ์ จะต้องทำเพื่อปกป้อง 3 เรื่องประกอบด้วย

1.ปกป้องการบิดเบือนพระธรรมวินัย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก ต้องมีกฎหมายปกป้องคำสอน จะไปสอนซี้ซั้วไม่ได้ ต้องมีการตรวจสอบรัดกุม

2.ต้องมีกฎหมายในการกำราบพระที่นอกรีต พระธรรมวินัย

3.ต้องมีกฎหมายเอาผิดชาวบ้านที่เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์จากวัด

จากนี้ไปสังคมต้องติดตามวิกฤตศรัทธาต่อวงการสงฆ์ในครั้งนี้ ทั้งมหาเถรสมาคมและรัฐบาลจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร ไม่ใช่แก้ไขแบบลูบหน้าปะจมูกเท่านั้น!

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่


Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j


กำลังโหลดความคิดเห็น