xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อไทย” จะสู้ “ก้าวไกล” ต้องใช้ระบบอุปถัมภ์ จับตา “พรรคทางเลือกที่ 3” ตัดคะแนนก้าวไกล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ผอ.นิด้าโพล” เผยปัจจัยที่ทำให้ความนิยมของ “ก้าวไกล” ยังพุ่ง ชี้มีคนอีก 20% ที่ยังไม่เทคะแนนให้พรรคไหน จึงเป็นจุดที่ “พท.-กก.” ต้องเร่งสร้างผลงานเพื่อเรียกเรตติ้ง ฟันธงต่อให้แลนด์สไสด์ “ก้าวไกล” ก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล อีกทั้งจะมีคนรุ่นใหม่ตั้ง “พรรคทางเลือกที่ 3” แนวทางเดียวกับก้าวไกล ขึ้นมาช่วงชิงคะแนน โดยชูประเด็นไม่แตะ ม.112 เพื่อครองใจกลุ่มคอนเซอเวทีฟ ด้าน “นิพิฏฐ์” เชื่อหากจะสู้กับก้าวไกล “เพื่อไทย” ต้องใช้ระบบอุปถัมภ์

พรรคก้าวไกล และ “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งหลังจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่านายพิธา ไม่มีความผิดกรณีถือหุ้นไอทีวี แต่ทั้งนี้เอฟซีด้อมส้มยังไม่อาจวางใจเพราะพรรคก้าวไกลยังมีอีกคดีรออยู่ นั่นคือคดีเสนอแก้มาตรา 112 ที่ใช้เป็นนโยบายหาเสียงของพรรคก้าวไกล ซึ่งถูกร้องว่าอาจเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง โดยศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาตัดสินในวันที่ 31 ม.ค.2567 นี้

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะมีปัญหาอะไร หรือนายพิธา จะเจอมรสุมหนักขนาดไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ คะแนนนิยมของพรรคก้าวไกล และนายพิธายังคงมาเป็นอับดับหนึ่ง ทำให้หลายฝ่ายอยากรู้ว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้ก้าวไกลยังคงมีคะแนนนิยมสูงลิ่ว

ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์  ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล (NIDA Poll)
ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" (NIDA Poll) วิเคราะห์ว่า หากพิจารณาจากผลโพลของนิด้าโพลเมื่อเดือน ธ.ค.2566 จะเห็นว่านายพิธา และพรรคก้าวไกลยังมีคะแนนนำในฐานะคนที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคที่ประชาชนอยากให้เป็นแกนนำรัฐบาล ซึ่งในส่วนของนายพิธานั้นคะแนนนิยมลดลงจากช่วง 3 วันก่อนการเลือกตั้ง โดยผลสำรวจความคิดเห็นของนิดาโพล ช่วง 3 วันก่อนการเลือกตั้ง (เป็นผลโพลที่นิด้าไม่เคยเปิดเผยเนื่องจากเป็นการทำโพลเพื่อเก็บไว้ศึกษาและเป็นฐานข้อมูล) พบว่าคะแนนนิยมของนายพิธา ก่อนการเลือกตั้งอยู่ที่ 46% เนื่องจากวาทกรรม “มีเราไม่มีลุง” ที่นายพิธากล่าวในช่วงท้ายๆ ของการหาเสียง เป็นวลีที่โดนใจมวลชน แต่ในเดือน ธ.ค.2566 คะแนนนิยมของนายพิธาลดงลงมา 7-8% ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเนื่องมาจากคดีหุ้นไอทีวี เพราะประชาชนบางส่วนคิดว่านายพิธา อาจมีความผิด และอีกส่วนเป็นเพราะประชาชนที่เลือกนายพิธายังรอดูผลงานหลังการเลือกตั้ง

ขณะที่คะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลนั้นยังคงดีอย่างต่อเนื่อง คะแนนคงที่ คืออยู่ที่ 45-46% โดยยังเป็นพรรคที่ครองใจประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งนี้ เนื่องจากก้าวไกลยังสามารถรักษาฐานเสียงของคนรุ่นใหม่ วัยรุ่นวัยทำงาน ช่วงอายุ 18-35 ปี ไว้ได้ โดย 70% ของคนกลุ่มนี้ยังคงเลือกพรรคก้าวไกล ขณะที่กลุ่มคนที่อายุมากกว่านี้เปอร์เซ็นต์ที่เลือกก้าวไกลจะลดลง อย่างไรก็ดี ช่วงก่อนการเลือกตั้งพบว่าพรรคก้าวไกลสามารถเก็บคะแนนจากคนที่อายุมากขึ้นได้เพิ่มขึ้นจากในอดีต

“หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าคุณพิธาไม่มีความผิดในคดีถือหุ้นไอทีวี ก็เชื่อว่าคะแนนนิยมของคุณพิธา จะไม่ขยับลงมากกว่านี้ น่าจะยังคงที่อยู่ คิดว่าเขาน่าจะดันเรตติ้งตัวเองกลับคืนมาได้เพราะคุณพิธา จะมีบทบาทมากขึ้น แต่จะดันคะแนนนิยมกลับไปอยู่จุดเดิมที่ 46% ได้หรือไม่ก็ต้องรอดู โดยนิด้าโพลจะทำการสำรวจความคิดเห็นเรื่องคะแนนนิยมต่อพรรคการเมืองและนักการเมืองอีกครั้งในเดือน มี.ค.2567 ที่น่าสนใจคือการกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลของคุณพิธานั้น คนที่เครียดคือคุณธนาธร ซึ่งจะพ้นจากการถูกตัดสิทธิทางการเมืองในปี 2572 เพราะถ้ากระแสคุณพิธายังดีต่อเนื่อง คุณธนาธรจะอยู่ตรงไหนของก้าวไกล คะแนนนิยมสูงสุดของคุณธนาธรอยู่ที่ 36% แต่คะแนนนิยมสูงสุดของคุณพิธาอยู่ที่ 46% ห่างกันถึง 10% เลยทีเดียว” ผศ.ดร.สุวิชา ระบุ

นายนิพิฏฐ์  อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ด้าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองว่า ปัจจัยที่ทำให้พรรคก้าวไกลยังได้รับความนิยมคือนโยบายที่พรรคได้หาเสียงไว้ในการเลือกตั้ง โดยคนที่เลือกก้าวไกลมองว่านโยบายที่พรรคประกาศยังไม่ได้รับการปฏิบัติ หรือพิสูจน์ว่าสามารถจะทำได้จริงหรือไม่ เพราะก้าวไกลยังไม่มีโอกาสได้บริหารประเทศในฐานะรัฐบาล อีกทั้งตอนนี้มีหลายนโยบายที่รัฐบาลเพื่อไทยยังทำไม่ได้ เช่น นโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ซึ่งคนส่วนหนึ่งเลือกเพื่อไทยเพราะนโยบายนี้ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มั่นใจว่าจะได้เงินจริงหรือเปล่า ดังนั้น คนที่เคยสนับสนุนเพื่อไทยแต่เปลี่ยนใจมาเลือกก้าวไกลจึงยังเทคะแนนให้พรรคก้าวไกลอยู่

ส่วนกรณีที่ ส.ส.ก้าวไกลหลายคนมีปัญหา โดยเฉพาะพฤติกรรมในเชิงชู้สาวนั้น ทางพรรคมีมาตรการจัดการอย่างชัดเจน เช่น ขับออกจากพรรค ขณะที่ฐานเสียงส่วนใหญ่มองว่าปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับการบริหารบ้านเมือง หรือกรณีที่มี ส.ส. หลายคนของพรรคก้าวไกลถูกตัดสินจำคุกไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของพรรค เนื่องจากคนที่เลือกก้าวไกลนั้นเลือกเพราะตัวผู้นำพรรค และตัวองค์กร ไม่ได้เลือกเพราะ ส.ส.

“คนที่เลือกก้าวไกลก็ยังติดตาม และชื่นขอบ เพราะถ้าจะบอกว่าก้าวไกลไม่สามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ก็ไม่ได้ เพราะเขายังไม่ได้ทำ ขณะที่นโยบายเรือธงของเพื่อไทย มันไม่ฉิวละ มันมีปัญหา คะแนนนิยมที่ยังทับซ้อนกันอยู่ระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกลอาจตีกลับมาที่ก้าวไกลได้” นายนิพิฏฐ์ กล่าว


ทั้งนี้ สิ่งที่หลายฝ่ายต่างจับตาคือการหวนคือสู่ตำแหน่ง ส.ส. ซึ่งน่าจะรวมถึงเก้าอี้หัวหน้าพรรคก้าวไกลของนายพิธาครั้งนี้จะส่งผลต่อคะแนนนิยมของนายพิธา และพรรคก้าวไกลหรือไม่ อย่างไร “ผศ.ดร.สุวิชา” ชี้ว่า ประเด็นที่น่าสนใจในขณะนี้คือ จากการสำรวจความคิดเห็นหลังการเลือกตั้งพบว่าตอนนี้มีคนที่ยังไม่ตัดสินใจให้คะแนนกับพรรคการเมืองใดอยู่ประมาณ 20% โดยกลุ่มนี้อาจจะรอดูว่าพรรคที่เลือกไปผลงานน่าพอใจไหม หรือผิดหวังกับพรรคที่เลือกแต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนไปให้คะแนนพรรคไหน คือต้องเข้าใจว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์สำคัญอะไรคะแนนนิยมทางการเมืองของแต่ละพรรคจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ถ้ามีเหตุการณ์สำคัญบางอย่างคะแนนถึงจะพลิก เช่น กรณีที่ก้าวไกลพลิกชนะการเลือกตั้งได้นั้นเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน เม.ย.2566 ก่อนการเลือกตั้งไม่กี่วัน เนื่องจากคำพูดเดียวของพิธาที่บอกว่า..มีเราไม่มีลุง ทำให้คะแนนที่กำลังเทไปให้เพื่อไทยเปลี่ยนมาให้ก้าวไกลทันที เพราะคนไม่มั่นใจว่าเพื่อไทยจะมีลุงหรือเปล่า หรือกรณีของพรรครวมไทยสร้างชาติซึ่งตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังสังกัดพรรค คะแนนนิยมของรวมไทยสร้างชาติอยู่ที่ 13% แต่หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากพรรคเพื่อขึ้นเป็นองคมนตรี คะแนนนิยมของรวมไทยสร้างชาติหล่นลงมาเหลือแค่ 3% เท่านั้น

ดังนั้น นับจากนี้คะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลจะเป็นอย่างไรต้องรอดูว่ารัฐบาลเพื่อไทยจะสามารถขยับคะแนนของตัวเองได้ไหม ต้องดูระยะยาวว่าก้าวไกลจะพลาดอะไรบ้าง คือตอนนี้คะแนนนิยมของก้าวไกลน่าจะพีกสุดแล้ว ส่วนว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้หรือไม่ก็อยู่ที่ก้าวไกลจะทำผลงานในฐานะฝ่ายค้านได้ดีแค่ไหน หรือรัฐบาลเพื่อไทยจะพลาดพลั้งมากน้อยเพียงใด ถ้าก้าวไกลยังแสดงบทบาทฝ่ายค้านได้ไม่ดี รัฐบาลไม่เพลี่ยงพล้ำ คะแนนนิยมของก้าวไกลน่าจะพีกสุดแค่ 45-46% เท่าเดิม

“ถ้าพรรคเพื่อไทยสามารถผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้ให้บรรลุผล ไม่ว่าจะเป็นแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ค่าแรงวันละ 400 คะแนนของคนกลุ่มนี้จะเทไปพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าทำไม่ได้มีโอกาสที่คะแนนจะเทไปก้าวไกล ขณะเดียวกัน ถ้าก้าวไกลสามารถทำผลงานในฐานะฝ่ายค้านคือสามารถขุดคุ้ยตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้ดีจะได้คะแนนจากคนที่ยังไม่ตัดสินใจ แต่อย่าลืมว่าก้าวไกลยังมีคดีแก้ ม.112 ซึ่งถูกร้องว่าอาจเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ถ้าผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่ามีความผิดแล้วสั่งให้พรรคยุติการดำเนินการ พรรคก้าวไกลอาจเสียฐานคะแนนในส่วนของผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มอนุรักษ์บ้างเล็กน้อย” ผศ.ดร.สุวิชา กล่าว


ผศ.ดร.สุวิชา ยังได้ประเมินทิศทางการเมืองนับจากนี้ ว่า หากมีการเลือกตั้งวันนี้เลย ก้าวไกลชนะแน่แต่ไม่แลนด์สไลด์ เนื่องจากการเลือกตั้งในระบบเขตยังมีกระสุนเยอะ อีกทั้งต่อให้ก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง และมีการแก้กฎหมายไม่ให้อำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ ก้าวไกลก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล เพราะระบบรัฐสภาของไทยกำหนดว่าใครรวมเสียงได้มากกว่าจะได้เป็นรัฐบาล แต่นโยบายแก้ ม.112 ทำให้ไม่มีพรรคการเมืองไหนอยากจับมือกับก้าวไกล จะมีก็แค่พรรคเล็กๆ ที่มีไม่กี่เสียง ดังนั้นถ้าก้าวไกลอยากเป็นรัฐบาลต้องแลนด์สไลด์แบบมโหฬารเท่านั้น จะต้องได้ ส.ส. 280 ที่นั่งขึ้นไป (จากทั้งหมด 500 ที่นั่ง)

แต่การจะไปถึงจุดนั้นเป็นเรื่องยาก และพรรคการเมืองแต่ละพรรคต่างมีวิวัฒนาการเพื่อช่วงชิงคะแนนเสียง ก้าวไกลเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และมีจุดแข็งเรื่องโซเชียลมาร์เกตติ้ง ตอนนี้เพื่อไทยก็เริ่มเอาคนรุ่นใหม่เข้ามา เริ่มเอาโซเชียลมาร์เกตติ้งมาสู้ ที่สำคัญเพื่อไทยไม่มีวันจับมือกับก้าวไกล ซึ่งที่ผ่านมาทั้งพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลต่างรู้จุดนี้ดี แต่ต่างคนต่างเล่นละครเพื่อเรียกคะแนนนิยม เพราะนโยบายของทั้งสองพรรคนั้นมีหลายนโนยายที่แตกต่างกันมาก แล้วทั้งสองพรรคไม่มีใครยอมเดินตามใคร ดังนั้นไม่ว่าเพื่อไทยหรือก้าวไกลจะมีคะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง สองพรรคนี้ไม่มีทางจับมือกันตั้งรัฐบาล

“ปัจจุบันความหวังที่ก้าวไกลจะแลนสไลด์ได้ถึง 280 ที่นั่งนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เลือกก้าวไกลเพราะนโยบายแก้ ม.112 เท่าที่รู้กลุ่มอนุรักษ์จำนวนมากนะที่พอใจหลายนโยบายของก้าวไกล แต่พอมีประเด็น ม.112 เขาถอยเลย ตราบใดที่ก้าวไกลไม่หยุดก่อกวนเรื่องนี้เขาก็ไม่เลือก แล้วอย่าลืมว่าไม่ใช่เด็กรุ่นใหม่ทุกคนจะเลือกก้าวไกลนะ มีเด็กรุ่นใหม่อย่างน้อย 30% ที่ไม่เอาก้าวไกล ทั้งจากประเด็น ม.112 และประเด็นอื่นๆ ที่เขาไม่ชอบ และโดยธรรมชาติพอคนเราอายุมากขึ้นความคอนเซอเวทีฟ (conservative) มันจะมากขึ้น มุมมองการเมืองจะไม่เหมือนเดิม แล้วให้จับตาดูว่าการเลือกตั้งสมัยหน้าจะมีคนรุ่นใหม่ อาจจะเป็นเซเลบ นักธุรกิจรุ่นใหม่ ซึ่งมีลักษณะเดียวกับพรรคก้าวไกลลุกขึ้นมาตั้งพรรคการเมืองแบบเดียวกับก้าวไกลเป๊ะ แต่ไม่แตะ ม.112 เพราะหวังคะแนนจากกลุ่มคอนเซอเวทีฟด้วย ซึ่งจะสามารถแย่งคะแนนจากก้าวไกลได้พอสมควร แล้วอาจมี ส.ส.บางคนของก้าวไกลย้ายไปสังกัด เพราะว่ากันว่าพรรคก้าวไกลก็มีเจ้าของ” ผศ.ดร.สุวิชา ระบุ

ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ มองว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการต่อสู้ระหว่างสองขั้ว คือระหว่างพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล ส่วนการขยับของพรรคการเมืองนั้นไม่มีนัยสำคัญ โดยก้าวไกลมีจุดแข็งที่จะใช้ต่อสู้คือนโยบายและกระแสที่เกิดจากโซเชียลมาร์เกตติ้ง จะเห็นได้ว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา ผู้ชายที่อายุ 20 หรือ 21 เลือกก้าวไกลเพราะนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร คือเขาไม่อยากเกณฑ์ทหารก็เลยเลือกก้าวไกล หรือช่วงหาเสียงเลือกตั้งหากมีการโหวตให้คะแนนในการดีเบตระหว่างพรรคต่างๆ ยังไม่ทันที่จะเริ่มดีเบตกันเลย เปิดให้โหวตปุ๊บ คะแนนของพรรคก้าวไกลนำลิ่วแล้ว เพราะเขามีการจัดตั้งโหวตเตอร์เข้าไปโหวตตามเวทีต่างๆ เพื่อสร้างกระแส ขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ รวมถึงเพื่อไทยในเมื่อไม่สามารถสู้ด้วยกระแสได้ต้องหันไปสู้ด้วยระบบอุปถัมภ์เพื่อดึงคะแนนกลับมา

อย่างไรก็ดี พรรคก้าวไกลจำเป็นต้องปรับตัว เช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องการคัดเลือกบุคลากร การคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ต้องพิถีพิถันมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาผู้สมัคร ส.ส.ของก้าวไกลค่อนข้างมีปัญหาเรื่องคุณภาพ บางคนไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ และไม่เป็นที่รู้จัก ที่สำคัญบางคนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรค ส่วนประเด็นเรื่อง ม.112 ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นจุดอ่อนนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นจุดแข็งและจุดขายที่พรรคก้าวไกลใช้เรียกคะแนนจากคนรุ่นใหม่

“ผมคิดว่าที่เขาชนะถล่มทลายเพราะ ม.112 นี่แหละ ผมว่ามันเป็นจุดแข็งของเขานะ คือถ้าพรรคก้าวไกลเลิกขับเคลื่อนเรื่อง 112 เมื่อไหร่ คะแนนอาจจะหายวับเลย เพราะที่ผ่านมา ม.112 เป็นเรือธงของเขา การเคลื่อนไหวเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกลก็รวมถึงนิรโทษกรรมคดี 112 ด้วย ขณะที่พรรคอื่นไม่ยุ่งเรื่องนี้ คือคนไม่เลือกก้าวไกล เพราะ ม. 112 ก็มี แต่คนที่เลือกก้าวไกลเพราะ ม.112 ก็เยอะ” นายนิพิฏฐ์ กล่าว

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่


Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j




กำลังโหลดความคิดเห็น