xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ยุบ "ก้าวไกล" เรียกคะแนนสงสาร ส่งให้กระแสนิยม “พรรคใหม่” พุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กูรูการเมืองฟันธงการยุบ “พรรคก้าวไกล” ไม่ได้ทำให้แนวคิดแบบก้าวไกลหายไป แต่กลับจะทำให้พรรคที่ตั้งขึ้นใหม่มีคะแนนนิยมเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับครั้งที่ยุบ “พรรคอนาคตใหม่” ด้วยมองว่าพรรคถูกกลั่นแกล้ง หวั่นม็อบฮือต้าน-ขยายวงกว้าง “รศ.ดร.ปณิธาน” แนะต้องแยกเรื่องความรู้สึกของมวลชน กับการทำหน้าที่ตามกฎหมายของศาลรัฐธรรมนูญ ด้าน “รศ.ดร.พิชาย” ชี้ก้าวไกลวางแผนรับมือล่วงหน้า แกนนำส่วนใหญ่ยังรอด เหตุไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค คาดหัวหน้าพรรครุ่น 3 ยังเป็นคนหนุ่มสาว วัย 40 ต้นๆ

นาทีนี้นอกจาก “พรรคก้าวไกล” จะชวดเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่ถือเป็นวิบากกรรมของก้าวไกลคือความสุ่มเสี่ยงที่จะถูก “ยุบพรรค”!

โดยจากกรณีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และการกระทำของพรรคก้าวไกลที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ ซึ่งหากศาลวินิจฉัยว่ามีความผิดอาจส่งผลให้คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) มีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลก็เป็นได้

หลายฝ่ายจึงต่างจับตาว่าจะเกิดอะไรหากพรรคก้าวไกลถูกยุบ? ถ้า ส.ส.และสมาชิกพรรคย้ายไปสังกัดพรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ ใครจะเป็นแกนนำพรรครุ่นต่อไป? และจะส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของพรรคมากน้อยเพียงใด

รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ระบุว่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมามีพรรคการเมืองและผู้บริหารพรรคที่ทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง และถูกตัดสินยุบพรรคอยู่เป็นระยะ โดยพรรคที่ถูกยุบส่วนใหญ่จะเป็นพรรคเล็ก ส่วนกรณีของพรรคก้าวไกลซึ่งถูกร้องว่านโยบายแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะนำไปสู่การยุบพรรคหรือไม่ เนื่องจากยังไม่ทราบว่าคำฟ้องของผู้ร้องมีรายละเอียดอย่างไร ไม่ทราบว่าพรรคก้าวไกลจะมีข้อสู้แบบไหน จะชี้แจงอย่างไร ซึ่งกว่าจะไต่สวน กว่าจะตัดสิน ต้องใช้เวลาพอสมควร อย่างไรก็ดี เชื่อว่าคำตัดสินของศาลจะทำให้ประชาชนเข้าใจเหตุผลต่างๆ ได้อย่างชัดเจน

“เมื่อศาลรับพิจารณาคดี เรื่องเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญและมีผลกระทบทางการเมืองสูง อีกทั้งถือว่าเป็นคดีที่ละเอียดอ่อนเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบัน แต่ทั้งนี้เราต้องแยกเรื่องการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ กับเรื่องการเมืองออกจากกัน เพราะศาลพิจารณาจากหลักฐานและตัวบทกฎหมาย ขณะที่การเมืองเป็นเรื่องที่กระทบต่อพรรคต่างๆ และความรู้สึกของประชาชน อาจจะมีความนิยมชมชอบ หรือไม่ปลื้ม ไม่ถูกใจ ซึ่งสองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกัน” รศ.ดร.ปณิธาน กล่าว

ด้าน รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) วิเคราะห์ว่า หากดูจากโครงสร้างของพรรคก้าวไกลแล้ว แม้ว่าพรรคก้าวไกลจะถูกยุบและมีผลให้กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี แต่ดูเหมือนจะไม่กระทบต่อศักยภาพของพรรคใหม่ที่ถูกตั้งขึ้นมาแทนก้าวไกลมากนัก เนื่องจากประสบการณ์เมื่อครั้งที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบทำให้ฝ่ายกลยุทธ์ของพรรคก้าวไกลวางแผนเพื่อรับมือกรณีที่อาจถูกยุบพรรคไว้แล้ว โดยนอกจาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล เหรัญญิก ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคโดยตำแหน่ง และ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ นายทะเบียนพรรค ซึ่งปัจจุบันลาออกจาก ส.ส. เนื่องจากมีคดีขับรถชนคนตายแล้ว

พรรคก้าวไกลมีกรรมการบริหารอีกเพียง 5 คนเท่านั้น อันได้แก่ สมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคใต้ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคกลาง เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคตะวันออก อภิชาติ ศิริสุนทร กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ สุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหาร สัดส่วนปีกแรงงาน ที่สำคัญทั้ง 5 คนไม่ได้มีฐานะเป็นแกนนำพรรคแต่อย่างใด นอกจากนั้น พรรคก้าวไกลยังแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น คือข้อบังคับพรรคก้าวไกลไม่ได้กำหนดให้รองหัวหน้าพรรค (ปัจจุบันมี 4 คน) และรองเลขาธิการพรรค (ปัจจุบันมี 4 คน) ต้องเป็นกรรมการบริหารพรรค ดังนั้น แม้ว่ากรรมการบริหารพรรคจะหลุดจากเส้นทางการเมืองเพราะพรรคถูกยุบไม่ได้ทำให้พรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ขาดบุคลากรที่จะสานต่องานต่างๆ อย่างแน่นอน เพราะยังมีรุ่นใหม่ไฟแรงที่พร้อมจะขึ้นมารับไม้ต่อในฐานะแกนนำรุ่น 3 ซึ่งจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนพรรคให้เดินหน้าต่อไปได้

รศ.ดร.พิชาย  รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
ส่วนกระแสนิยมที่มีต่อพรรคที่จะจัดตั้งขึ้นหลังจากที่ก้าวไกลถูกยุบจะเป็นไปในทางบวกหรือลบนั้น “รศ.ดร.ปณิธาน” มองว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ การยุบพรรคอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความนิยมที่มีต่อตัวบุคคลหรือนโยบายของพรรค พรรคใหม่ที่ตั้งขึ้นมาอาจจะได้รับคะแนนนิยมเท่าเดิม หรือเพิ่มมากขึ้น หรือไม่สามารถกลับมาได้รับความนิยมเหมือนเดิมก็เป็นไปได้หมด

“หลายฝ่ายมองว่าพลวัตของพรรคก้าวไกลมีความเข้มข้นมาก แต่ตอบไม่ได้ว่าหลังจากถูกยุบแล้วพลวัตโดยรวมจะได้รับผลกระทบหรือไม่ ดูยาก เพราะว่าหัวหน้าพรรคมีคดีด้วย แต่ในต่างประเทศ เช่น โดนัลด์ ทรัทป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนคดีหลายคดี โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคง แต่คะแนนนิยมยังสูงอยู่ จึงได้รับเลือกจากพรรคริพับลิกันให้ลงชิงตำแหน่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า” รศ.ดร.ปณิธาน กล่าว

ขณะที่ รศ.ดร.พิชาย มองว่า แม้จะยุบพรรคก้าวไกลก็ไม่สามารถทำให้แนวคิดทางการเมืองแบบก้าวไกลหายไป เพราะกลุ่มคนหนุ่มสาวจะรวมตัวกันตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ ซึ่งพรรคก้าวไกลเตรียมการในเรื่องนี้ไว้แล้ว แต่ในทางกลับกันการยุบพรรคก้าวไกลอาจทำให้กระแสนิยมที่มีต่อพรรคที่ตั้งขึ้นใหม่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคนมองว่าพรรคถูกกลั่นแกล้ง เช่นเดียวกับกรณีที่เกิดขึ้นกับพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งหลังถูกยุบพรรคเกิดการชุมนุมประท้วงเป็นเวลานาน แต่มีสถานการณ์โควิดเกิดขึ้นก่อนไม่เช่นนั้นสถานการณ์อาจลุกลามบานปลาย

“หากยุบพรรคก้าวไกลอาจเกิดสถานการณ์ที่คล้ายคลึงเมื่อครั้งอนาคตใหม่ แต่คาดว่าการชุมนุมประท้วงจะขยายวงกว้างมากขึ้นเพราะมวลชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลมีมากกว่าตอนที่เป็นพรรคอนาคตใหม่” รศ.ดร.พิชาย ระบุ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
ทั้งนี้ สิ่งที่หลายฝ่ายต่างจับตาคือ หากพรรคก้าวไกลถูกยุบและมีการจัดตั้งพรรคใหม่ขึ้นมารองรับ ใครจะเป็นหัวหน้าพรรครุ่นที่ 3 ต่อจากนายพิธา ซึ่งเรื่องนี้ "รศ.ดร.พิชาย" มองว่า หลังพรรคก้าวไกลถูกยุบ แกนนำพรรคที่เหลือ เช่น น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายรังสิมันต์ โรม นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ สามารถไปรวมตัวกันจัดตั้งพรรคใหม่ และดึงคนอื่นๆขึ้นมาร่วมเป็นกรรมการบริหารพรรค ส่วนจะชูใครเป็นหัวหน้าพรรคนั้นยังประเมินยาก เนื่องจากก้าวไกลมีตัวเล่นเยอะ มีคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพหลากหลาย

"คนที่เราคาดอาจจะไม่ใช่ก็ได้ คนที่ถูกวางตัวไว้ให้เป็นหัวหน้าพรรค อย่างคุณศิริกัญญา หรือคุณพิจารณ์ ถึงเวลาจะได้เป็นหรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ มีหลายคนที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคได้ สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ก็มีอาวุโส ส่วนคุณพริษฐ์ (ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ) กับคุณโรม (นายรังสิมันต์ โรม) ยังเด็กเกินไป อายุ 30 กว่าๆ พริษฐ์น่าจะอีกสัก 4 ปีถึงขึ้นมาได้ เมื่อถึงตอนนั้นทางพรรคคงต้องหารือกันอีกทีเพื่อพิจารณาว่าใครจะเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้น พรรคก้าวไกลมีบุคลากรอีกหลายคนที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำทางความคิด โดยส่วนตัวคิดว่าคุณสมบัติของคนที่จะเป็นหัวหน้าพรรครุ่นที่ 3 นั้นน่าจะไม่ต่างจากคุณพิธา คงเป็นคนหนุ่มสาว แต่ไม่เด็กเกินไป คืออายุช่วง 40 ต้นๆ ทำงานการเมืองมาระยะหนึ่ง มีวุฒิภาวะ และยังไฟแรงอยู่ สามารถสร้างบุคลิกที่โดดเด่นได้" รศ.ดร.พิชาย ระบุ




กำลังโหลดความคิดเห็น