xs
xsm
sm
md
lg

ดวงเมืองปี 65 ระส่ำ หวั่นซ้ำรอยพฤษภาทมิฬ มีเกณฑ์สูญเสียบุคคลสำคัญ-ประชาชนร่ำไห้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“3 โหร” ชี้ดวงเมืองปี 65 วิกฤต อาจสูญเสียบุคคลสำคัญ หวั่นการเมืองแรง ซ้ำรอย “พฤษภาทมิฬ” แนะแก้เคล็ด รัฐบาลยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ด้านเศรษฐกิจยังไม่กระเตื้อง โรคระบาดยังทรงตัว เตือนภัยพิบัติน้ำท่วม ดินถล่ม ปี 66 จึงจะดี ขณะที่ ดวง “บิ๊กตู่” มีเกณฑ์ถูกขับไล่พ้นตำแหน่ง ถูกเพื่อนแทงข้างหลัง ด้าน “บิ๊กป้อม” อาจโดนขุดเรื่องทรัพย์สิน ระวังบริวารสร้างความแตกแยก ส่วน “บิ๊กป๊อก” จะกลายเป็นดาวเด่นทางการเมือง แต่ถูกเพื่อนเก่าเล่นงาน

หลังจากผ่านพ้นปี 2564 ซึ่งคนไทยต้องเผชิญปัญหาอย่างหนักทั้งเรื่องโควิด-19 ซึ่งระบาดรุนแรงและปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ดังนั้น เมื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่ในปี 2565 หลายคนจึงอยากรู้ว่าดวงบ้านดวงเมืองในปีเสือนี้จะเป็นอย่างไร รัฐบาลภายใต้การนำของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะมีบารมีมากพอที่จะนำพาคนไทยฝ่าวิกฤตไปได้หรือไม่?

อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ
ในส่วนของดวงเมืองในปี 2565 นั้นบรรดาหมอดูชื่อดังต่างทำนายทายทักไว้ดังนี้

รัฐบาลดวงตก-ประชาชนชุมนุมประท้วง

อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ระบุว่า จากการคำนวณดวงเมืองปี 2565 ดาวมฤตยูจะโคจรอยู่ตรงราศีเมษซึ่งเป็นดวงเมือง ตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงวันที่ 7 ก.ค.2565 และจะยกเข้าสู่ราศีพฤษภและโคจรอยู่ในราศีพฤษภ มีการโคจรเดินหน้าไปจนถึงระยะ 1 องศา 14 ลิปดา ในวันที่ 15 ก.ย.2565 และจะโคจรถอยหลังข้ามราศีเข้ามาสู่ราศีเมษอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2565 โดยจะโคจรถอยหลัง-เดินหน้าตรงราศีเมษถึงวันที่ 8 มี.ค.2566 เนื่องจากดาวมฤตยูเป็นดาวบาปเคราะห์ จะให้โทษมากกว่าให้คุณ จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ ดาวมฤตยูจะทำลายสิ่งเก่าและนำไปสู่สิ่งใหม่ มฤตยูเป็นดาวเจ้าเรือนภพลาภะ ซึ่งหมายถึงรายได้ ผลประโยชน์ จะสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติ และอำนาจฝ่ายปกครองของประเทศ

มฤตยูมาอยู่ราศีนี้ตั้งแต่ปี 2557 คือเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว ทำให้ประเทศเกิดความเปลี่ยนแปลง คสช.เข้ามายึดอำนาจ นำมาสู่การปฏิรูปประเทศ แต่ในปี 2565 ดาวมฤตยูจะสัมพันธ์ร้ายกับดาวบาปพระเคราะห์หลายๆ ดวง ดังนั้น ตั้งแต่ต้นปีไปจนถึง 7 ก.ค.2565 รัฐบาลจะได้รับเสียหาย เกิดความอับโชคแก่สุขภาพอนามัยของประชาชน จะเกิดความไม่พอใจ กรรมกร ชาวไร่ชาวนาจะลุกขึ้นชุมนุมประท้วง มีการนัดหยุดงาน คนไม่พอใจกฎหมาย มีการปฏิบัตินอกฎหมาย เกิดความแตกแยก เกิดกบฏ เกิดรัฐประหาร เกิดความเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ โชคร้ายจะมีต่อรัฐบาล รัฐสภาไม่ราบรื่น อาจเกิดอาชญากรรมร้ายแรง

พฤษภาทมิฬ ปี 2535
ดาวเสาร์โคจรครบรอบ 30 ปี จะมีเรื่องร้าย

ราหูเป็นบาปพระเคราะห์ จึงนำภัยพิบัติ ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สูญเสียบุคคลสำคัญหรือบุคคลระดับสูง ทำให้ประเทศเกิดอุบัติภัย ภัยธรรมชาติ ทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ ประเทศจะเกิดปัญหาหลายอย่างก่อให้เกิดความวุ่นวาย โดยราหูโคจร 1 ราศี ใช้เวลา 1 ปีครึ่ง ฉะนั้น 12 ราศี หรือ 1 วัฏฏะใช้เวลา 18 ปี ซึ่งหากย้อนดูเมื่อ 18 ปีที่แล้ว คือปี 2547 จะพบว่าเกิดสึนามิครั้งใหญ่ คนไทยตายไปถึง 7,000 คน สูญเสียคุณพุ่ม เจนเซ่น พระโอรสของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ดังนั้นจึงต้องระวัง

ดาวอีกดวงคือดาวเสาร์ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายบาปพระเคราะห์ โดยในปี 2565 ดาวเสาร์จะโคจรอยู่ในราศีมังกร อยู่ไปตลอด 6 ปี ซึ่งราศีมังกรเป็นดวงชะตาที่ 10 ที่จริงพระเสาร์ได้มาตรฐานที่ดี เป็นเกษตรหมายถึงความมั่นคง เป็นปึกแผ่น ปกติจะอำนวยผลดีให้ผู้ปกครอง ผู้ปกครองมีความเข้มแข็ง แต่ในปี 2565 ดาวเสาร์ในราศีมังกรจะเล็งดาวจันทร์ในราศีกรกฎ พระจันทร์หมายถึงประชาชน ทำให้ประชาชนมีความเห็นขัดแย้งกับรัฐบาล อีกทั้งพระเสาร์บางช่วงจะเป็นกาลกิณีจึงยังความอับโชคให้รัฐบาล ทำให้รัฐบาลไม่ได้รับความนิยม ขาดการสนับสนุน รัฐบาลอาจจะแพ้คะแนนหรือประสบความล้มเหลวในการเลือกตั้ง ที่สำคัญจะสูญเสียชนชั้นสูง และเกิดความยุ่งยากทางการเมือง

วงรอบของดาวเสาร์อยู่ที่ 30 ปี คือ 30 ปีจะโคจรมาอยู่ตรงนี้ครั้งหนึ่ง หากย้อนไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว คือปี 2535 จะพบว่าเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ สูญเสียชีวิตประชาชน และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง มีการเปลี่ยนนายกฯ จาก พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีที่มาจากผลพวงของการรัฐประหารของ รสช. มาเป็นนายอานันท์ ปันยารชุน

ย้อนไปอีก 30 ปี คือ 2005 สมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งเป็นรัฐบาลเผด็จการ ทำให้นักศึกษาประชาชนไม่พอใจและหนีเข้าป่า จัดตั้งกองทัพปลดแอกเพื่อชิงอำนาจรัฐ นำไปสู่การปราบปรามที่รุนแรง บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก และหลังเกิดวาตภัยที่แหลมตะลุมพุก จอมพลสฤษดิ์ เสียชีวิต อำนาจถึงถ่ายเทมายังจอมพลถนอม กิตติขจร

ย้อนไปอีก 30 ปี เป็นปี 2475 เกิดปฏิวัติสยาม เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย จากนั้นก็เกิดกบฏบวรเดช พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสละราชสมบัติ

“ซึ่งพบว่าทุก 30 ปีขอวงรอบดาวเสาร์จะเกิดปัญหาใหญ่และนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง ดังนั้น รอบนี้ก็ต้องระวังว่าจะเกิดปัญหาและความรุนแรง โดยเฉพาะช่วงที่ดาวอังคารโคจรเข้ามาสัมพันธ์ ซึ่งมี 3 ช่วงที่ต้องระวังว่าจะเกิดความรุนแรงทั้งอุบัติเหตุทางการเมืองและภัยธรรมชาติ ดังนั้น รัฐบาลต้องหาวิธีผ่อนคลายเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง เช่น ปรับ ครม. หรือยุบสภา เลือกตั้งใหม่ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” อาจารย์ภิญโญ กล่าว


3 ช่วงที่ต้องระวัง

หากตรวจสอบวิถีของดาวอังคารจะพบว่ามี 3 ช่วง ที่ต้องระวังว่าจะเกิดความรุนแรงทั้งอุบัติเหตุทางการเมืองและภัยธรรมชาติ ช่วงแรก ได้แก่ ระหว่าง 26 ก.พ-ถึง 7 เม.ย.2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ดาวอังคารโคจรอยู่ตรงราศีมังกรได้มาตรฐานเป็นมหาอุจ กุมดาวพระเสาร์ซึ่งอยู่ตรงราศีมังกร เป็นเกษตร เล็งดวงจันทร์และดวงเมือง ทำมุมฉากกับมฤตยูและราหูตรงราศีเมษ จึงอาจเกิดความรุนแรงได้ในช่วงนี้

ช่วงที่ 2 คือ ระหว่างวันที่ 26 มิ.ย.-9 ส.ค.2565 เป็นช่วงเวลาที่ดาวอังคารโคจร ตรงราศีเมษ กุมดาว 3 ดวง คือมี ดาวอังคาร ราหู และมฤตยู โคจรตรงราศีเมษ ทำมุมฉากกับดาวเสาร์ที่อยู่ตรงราศีมังกร ปรากฏว่าขณะนั้นดวงอาทิตย์อยู่ตรงราศีกรกฎจะเล็งดาวเสาร์ ทำให้ดาวเสาร์เพ็ญ ซึ่งหมายถึงสว่างมีพลัง และเป็นช่วงที่ดาวเสาร์เป็นกาลกิณีจร ทำให้อิทธิพลของดาวเสาร์แรง

และช่วงที่ 3 คือระหว่าง 8 เม.ย.2565-19 เม.ย.2566 พฤหัสโคจรอยู่ในราศีมีน เป็นเกษตรซึ่งแปลว่าความมั่นคง แต่เกิดอยู่ในภพวินาศ ซึ่งหมายถึงวิบัติเสียหาย ดาวพฤหัสจึงไม่คุ้มชะตาบ้านเมือง ทำให้ดาวบาปพระเคราะห์ร้ายทั้ง 5 คือ พระเสาร์ พระอังคาร พระราหู มฤตยู และดวงอาทิตย์ ดาวมหาชนจึงมีพลัง ทำให้ประชาชาลุกฮือขึ้น ดังนั้นหากจะให้การแสดงพลังของประชาชนเป็นไปตามครรลอง รัฐบาลก็ต้องยุบสภา จัดการเลือกตั้ง เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย ไม่นำไปสู่ความรุนแรง

เทวดาพระคลัง ซึ่งอยู่หน้ากระทรวงการคลังมีสนิมสีเลือดออกมาที่พระเศียร ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นลางร้ายด้านเศรษฐกิจ
เตือน ก.คลัง ระวังการใช้จ่าย

ส่วนเรื่องเศรษฐกิจนั้น เนื่องจากดาวมฤตยูจะเข้าเรือนราศีพฤษภซึ่งเป็นภพที่ 2 ซึ่งเกี่ยวกับการเงินการคลัง ตั้งแต่ 7 ก.ค.-1 ธ.ค.2565 และตั้งแต่ 8 มี.ค.2566 ไปอีก 7 ปี จะมีส่วนดี มีหนทางในการหารายได้ มีการจัดเก็บภาษีอากรเพิ่มขึ้นอย่างผิดความคาดหมาย มีการบัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับการเงินการคลัง การปริวรรตเงินตรา การเงินการคลังจึงเกิดความเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบใหม่ ดังนั้นปี 2565 จึงเป็นปีต้นๆ ของการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วิถีใหม่ เศรษฐกิจมีทั้งดีทั้งร้าย เกิดความขลุกขลักในเรื่องการเงิน เกิดความวุ่นวายเสียหายในตลาดหุ้น สถานการณ์เงินการธนาคาร การลงทุน เกิดความยุ่งยากทางการเงิน ซึ่งส่งผลถึงรัฐบาลด้วย เกิดการแข่งขันทางการเงินและทางการค้าไปทั่วโลก เกิดความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ นำไปสู่สงครามทางเศรษฐกิจและการค้า

นอกจากนั้น ยังมีดาวพระราหูซึ่งขณะนี้โคจรอยู่ในราศีพฤษภซึ่งเป็นเรือนเศรษฐกิจการเงินการคลัง โดยราหูอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ ก.ย.2563 และจะอยู่ไปถึง 30 มี.ค.2565 และยกเข้าราศีเมษ ทับลัคนาเมือง ทับพระอาทิตย์ในดวงเมือง โดยจะโคจรอยู่ในราศีเมษถึง 17 ต.ค.2566 จากนั้นราหูจะยกเข้าราศีมีน คำพยากรณ์จึงแบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงที่อยู่ราศีพฤษภ และช่วงที่อยู่ราศีเมษ ราหูกุมเจ้าเรือนลาภะเหมือนกันซึ่งแปลว่าผลประโยชน์ รายได้ และโคจรอยู่ในเรือนกดุมภะ ตรงราศีพฤษภ ถึงวันที่ 30 มี.ค.2565

ดังนั้น ผลดีที่จะเข้ามาคือเรื่องของโอกาส มีช่องทางในการหาเงิน กู้เงิน แต่ปัญหาคือราหูเป็นบาปพระเคราะห์ เป็นจอมมาร ราหูอยู่ในภพที่ 2 เป็น “ราหูค้นทรัพย์” โดยจะค้นทรัพย์ไปจนถึง 30 มี.ค.2565 จึงเห็นได้ว่ารัฐบาลต้องค้นทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ออกมาใช้จนกระทั่งเงินทองร่อยหรอ เกลี้ยงคลัง จนต้องไปกู้ยืมเงิน ดังนั้น พ.ร.ก.เงินกู้หลายฉบับจึงถูกนำมาใช้ ทำให้เกิดหนี้สาธารณะ อีกทั้งเกิดหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น จึงเป็นหนี้ท่วมประเทศ

“จะเห็นว่าเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา มีข่าวดังไปทั่วประเทศว่าเทวดาพระคลังซึ่งอยู่หน้ากระทรวงการคลังมีสนิมสีเลือดออกมาที่พระเศียรและลงมาที่พระพักตร์ ลงมาที่พระศอ ไปที่พระอุระ ลงไปถึงเท้า ซึ่งถือเป็นอาเพศ เทวดาท่านมาเตือนผู้ที่ดูแลการเงินการคลังให้ระมัดระวังการใช้จ่าย ราหูค้นทรัพย์จะอยู่ถึง 30 มี.ค.2565 จากนั้นไปถึง 11 ต.ค.2566 ราหูจะเข้ามาราศีเมษ ทับลัคนาเมืองในภพตนุ จะเกิดความเปลี่ยนแปลง ที่จริงราหูเป็นเจ้าเรือนลาภะ หมายถึงรายได้ ผลประโยชน์ จึงมีส่วนดีคือนำรายได้และผลประโยชน์เข้าประเทศ หลัง มี.ค.2565 จะมีรายได้เข้าประเทศ จัดเก็บภาษีอากรได้เกินความคาดหมาย” อาจารย์ภิญโญ กล่าว

ดวงเมืองชี้ว่าปี 2565 โรคร้ายยังคงอยู่
รัฐบาลจะมีรายได้จากอบายมุข

อย่างไรก็ดี ปีหน้ายังโชคดีอยู่บ้างตรงดาวพฤหัสคุ้มชะตาเมืองในภพที่ 11 ดาวที่มาเบียนมาจากภพลาภะ ดังนั้น นอกจากจะนำความเลวร้ายเข้ามาแล้วก็ยังนำช่องทางการหารายได้ ความสำเร็จและผลประโยชน์เข้ามาด้วย เป็นผลประโยชน์ที่มาพร้อมความเสียหาย พระราหูซึ่งคือความมัวเมามืดบอด มาจากภพลาภะ จึงหมายถึงนำรายได้หรือผลประโยชน์มาจากสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เช่น ผลประโยชน์ที่มาจากอบายมุข การเสี่ยงโชคซึ่งทำให้คนลุ่มหลงมัวเมา กิจการสีเทา ซึ่งจะดีขึ้นก็ต่อเมื่อดาวเหล่านี้ย้ายออกจากราศีเมษ ซึ่งคือช่วงปี 2566

สำหรับปัญหาเรื่องโรคภัยไข้เจ็บไม่ค่อยดี เพราะดาวมฤตยูถอยหลังกลับ โรคระบาดที่ทำท่าว่าจะไปแล้วก็เลยกลับมาอีก มีสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น นอกจากนั้น ยังมีพระราหูซึ่งจะยกมาทับลัคนาเมือง โรคภัยไข้เจ็บจึงกระหน่ำดวงเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวเสาร์ที่อยู่ภพที่ 10 ก็จะเปลี่ยนเป็นกาลี เพราะฉะนั้นภัยที่เกิดจากอมนุษย์ ซึ่งในที่นี้คือเชื้อโรค จะปรากฏอย่างรุนแรง

“โดยดาวมฤตยูย้ายออกจากราศี 8 มี.ค.2566 ราหูย้ายออกจากราศีเมษ 17 ต.ค.2566 พระเสาร์ย้ายออกจากราศีมังกร 1 มี.ค.2566 ดังนั้น ต้องให้ผ่านช่วงเวลาดังกล่าวไปก่อน และให้ดาวพฤหัสข้ามไปทับดวงเมือง คือตั้งแต่ 19 เม.ย.2566 พฤหัสจะไปคุ้มครองชะตาเมืองได้อย่างมั่นคง ดังนั้นต้องรออีก 1 ปี จึงจะดี” อาจารย์ภิญโญ ระบุ

นายอาณณัฐ สรรคชา หรืออาจารย์โจ้ อาจารย์โหราศาสตร์ไทย
เกิดการทำลายล้าง นำไปสู่สิ่งใหม่

ด้าน นายอาณณัฐ สรรคชา หรืออาจารย์โจ้ อาจารย์โหราศาสตร์ไทย ชี้ว่า เนื่องจากกรุงรัตนโกสินทร์ก่อตั้งเมืองตั้งแต่ 21 เม.ย.2325 ผูกดวงเวลา 6.54 น. ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล ตอนนี้ดวงเมือง 239 ปี ย่าง 240 ปี เข้า 21 เม.ย.2565 ก็ครบ 240 ปี ซึ่งตอนนี้ดวงเมืองอยู่ที่ราศีมังกร ลัคนาดวงเมืองอยู่ที่เมษ มีพระอาทิตย์เป็นลัคน์ ได้ตำแหน่งเป็นมหาอุจ พระอาทิตย์หมายถึงผู้นำ การบริหารจัดการต่างๆ จึงไปสู่ความเจริญก้าวหน้าและมั่นคง แต่ดวงเมืองมีพระอาทิตย์อยู่ที่ราศีเมษ มีพระอังคาร พระเกตุ ร่วมพฤษภ มฤตยูเมถุนในดวงกำเนิด พระจันทร์เป็นเกษตรในกรกฎ พฤหัสเป็นเกษตรธนูร่วมกับเสาร์ มีดาวอยู่ในภพสุดท้ายคือภพวินาศ คือพระพุธ พระศุกร์ และพระราหู

การโคจรทั้งดวงดาวและดวงเมืองมีมฤตยูเข้ามาทับในราศีเมษ 4-5 ปีแล้ว ตอนนั้นจึงเกิดเหตุระเบิดที่พระพรหมเอราวัณ กลางเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งมฤตยูโคจรในแต่ละราศีใช้เวลา 7 ปี ตอนนี้มฤตยูยังกุมราศีเมษซึ่งเป็นลัคนาดวงเมืองอยู่ มฤตยูหมายถึงความเปลี่ยนแปลงและมหันตภัย เกิดการทำลายล้างและเกิดสิ่งใหม่ ลัคนาราศีเมษของดวงเมืองนั้นเจ้าเรือนเป็นอังคาร ซึ่งพระอังคารอยู่ราศีพฤกษกเป็นราชาโชค พอมฤตยูเข้ามาแฝงเงาแสงของพระอังคาร มฤตยูคือเลข 0 พระอังคารคือเลข 3 เป็นคู่อุบัติเหตุ เลือดตกยางออก ภัยพิบัติต่างๆ ดวงกำเนิดของประเทศไทยมีพระอาทิตย์อยู่ พระอาทิตย์คือ 1 เกิด 01 ดังนั้นใครมารับตำแหน่งผู้นำก็สาหัส ต้องสู้กับอาเพศที่มองไม่เห็น เกิดมหันตภัย โรคภัยไข้เจ็บ สงคราม ภัยพิบัติ วาตภัย อุทกภัย อัคคีภัย

“พระราหูเข้าไปในราศีเมษช่วง 30 มี.ค.2565 ราหูหมายถึงนักการเมือง ปัญหาจะเริ่มถูกเปิดเผย เกิดความไม่ไว้วางใจกัน จากมิตรกลายเป็นศัตรูที่จ้องทำลายกัน และมฤตยูเข้าไปเจอดาวอังคารเป็นคู่อุบัติเหตุ เกิดเลือดตกยางออก โรคภัยไข้เจ็บ ไปจนถึง ธ.ค.2565 มฤตยูวิ่งเข้าราศีพฤกษกซึ่งเป็นธาตุดิน จะเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินทรุด ภูขาถล่ม ทำให้เกิดอุบัติเหตุการสูญเสีย ต้องระวัง ตั้งแต่ ก.ค.2565 จากนั้นมฤตยูจะถอยหลัง ตั้งแต่ ธ.ค.2565 จึงต้องระวังเรื่องผู้นำ ผู้นำจะถูกกดดัน จะอยู่ยาก” หมอโจ้ กล่าว

หลัง ก.พ.65 จะสูญเสียบุคคลสำคัญ


สิ่งที่น่ากังวลในปี 2565 คือราหูร่วมกับพระเกตุจะเดินตามเข็มนาฬิกา ขณะที่ดาวอื่นๆเดินทวนเข็มนาฬิกา จึงสวนทางกัน ตอนนี้พระเสาร์โคจรเข้ามาในราศีมังกรซึ่งเป็นภพกัมมะ การงาน ความมั่นคง พระเสาร์เดินวิปริต เดินหน้าถอยหลัง ที่สำคัญดาวเสาร์ไปเล็งพระจันทร์ในดวงกำเนิด ในภพพันธุ ราศีกรกฎ

“ดาวเสาร์กับจันทร์เป็นคู่พลัดพราก หมายถึงการสูญเสีย พระจันทร์เปรียบเสมือนมารดาและประชาชน จึงหมายถึงเกิดการสูญเสียที่นำมาสู่ความทุกข์ระทมของประชาชน ช่วงปลายเดือน ก.พ.2565 องศาการโคจรของพระเสาร์จะไปใกล้เคียงกับองศาของพระจันทร์ในดวงกำเนิด ตั้งแต่ 27 ก.พ.2565 จะเริ่มแรง จะเกิดความสูญเสีย” อาจารย์โจ้ ระบุ

นายบุศรินทร์ ปัทมาคม อาจารย์ด้านโหราศาสตร์ไทย
เศรษฐกิจถึงขั้นแจกดอกไม้จันทน์

สำหรับด้านเศรษฐกิจนั้น ดวงเมืองในปี 2565 จะเกิดปัญหาทั้งเศรษฐกิจ การเงินการคลัง มีดาวพระราหูย้ายเข้ามาอยู่ที่ราศีพฤษภทับอังคาร ทับพระเกตุในดวงกำเนิด ปีกว่าแล้ว ซึ่งราศีพฤษภของดวงเมืองหมายถึงการหารายได้ การเงินการคลัง การทำมาหากิน ราหูมาอยู่ตรงนี้จึงเป็นพินทุบาทว์ เป็น “ราหูค้นทรัพย์” ทำให้การหารายได้มีปัญหา ซึ่งพระเกตุในดวงกำเนิดเป็นตัวขยายทำให้ปัญหายิ่งลุกลาม

“เศรษฐกิจปีหน้าน่าจะแจกดอกไม้จันทน์ แม้จะมีช่วงที่ราหูพ้นจากการค้นทรัพย์ แต่ราหูไปทับอาทิตย์ ย้ายเข้าสู่เรือนผู้นำ ราหูเป็นธาตุลม พระอาทิตย์เป็นธาตุไฟ ลมเข้าไปอยู่ในไฟก็กลายเป็นลมกระโชก พระเสาร์เปลี่ยนเป็นดาวกาลกิณี ดาวพฤหัสย้ายเข้าราศีมีนเป็นภพวินาศ มฤตยูจะย้ายเข้าไปที่ราศีพฤษภวนกับราหู จะเกิดการสะบัดเรื่องการเงิน จึงเกิดการขุดคุ้ยตรวจสอบเรื่องทรัพย์สิน มีผู้มีอิทธิพล นักลงทุนเข้ามาทวงถามสัญญาจากฝ่ายการเมือง” อ.โจ้ กล่าว

จะเกิดน้ำท่วมหนัก


ขณะที่ นายบุศรินทร์ ปัทมาคม อาจารย์ด้านโหราศาสตร์ไทย ทำนายดวงเมืองปี 2565 ว่า ไม่ค่อยดีนัก ดวงเมืองตกพฤหัส ดาวเสาร์ไปอยู่ในเรือนกัมมะเป็นกาลกิณีจร จะมีปัญหาเศรษฐกิจอย่างต่อเรื่องตั้งแต่ 1 ม.ค.-30 มี.ค.2565 สินค้าที่ผลิตจะขายไม่ออก คนจะตกงานจำนวนมาก รายได้ของประเทศน่าเป็นห่วง รัฐบาลกระเป๋าแห้ง จะขอกู้เงินจากต่างประเทศก็ลำบาก ช่วงปลายปีจะมีปัญหาน้ำท่วมซึ่งจะหนักกว่าปีนี้ ส่วนโรคระบาดจะซาลง

ดวง 3 ป.
ส่วนดวงของบรรดาผู้นำประเทศซึ่งหลายฝ่ายจับจ้องอยู่นั้น คงหนีไม่พ้น “3 ป.” พี่น้องบูรพาพยัคฆ์ อันได้แก่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ซึ่งเหล่าหมอดูแถวหน้าของเมืองไทยได้ดูดวงทั้ง 3 ท่านไว้ดังนี้

“พล.อ.ประยุทธ์” ดวงถูกประชาชนขับไล่

อาจารย์ภิญโญ ได้คำนวณดวงของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า พล.อ.ประยุทธ์เกิดวันที่ 21 มี.ค.2497 ลัคนาอยู่ราศีมังกร ดาวเสาร์คือดาวประจำตัว ดาวเสาร์ในดวงกำเนิดได้มาตรฐานเป็นมหาอุจ แปลว่ามีอำนาจวาสนาสูงส่ง แต่ปี 2565 ดาวเสาร์เป็นเกษตร แสดงถึงความมั่นคง เป็นตัวของตัวเอง ที่ผ่านมาทำให้ท่านรักษาอำนาจและตำแหน่งเอาไว้ได้ แต่พอพระเสาร์เป็นกาลีก็จะเกิดปัญหา ตามตำราบอกว่า

“เสาร์จรประทับลัค คนนั้นจะหม่นหมอง เสียทรัพย์และสิ่งของ ครุเหตุจะพึงมี
ดังโปริสาทราษ ฎรนั้นก็ขับหนี จากขัตติยาศรี ศิริราชนคร ”

หมายถึงประชาชนจะออกมาชุมนุประท้วงขับไล่ จนกระทั่งเกิดความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นท่านควรชิงแก้ไขปัญหาด้วยการยุบสภา เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย ดวงท่านมีเกณฑ์พ้นจากตำแหน่ง เมื่อเทียบกับดวงเมืองทุกทุก 30 ปีขอวงรอบดาวเสาร์จะเกิดปัญหาและความเปลี่ยนแปลง อย่างปี 2535 ก็เกิดพฤษภาทมิฬ จึงต้องระวังอย่าให้เกิดความรุนแรง ซึ่งเกณฑ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงก็คือช่วงกลางปี 2565 ถ้าดูจากดวงเมืองคือช่วงพระเสาร์เพ็ญ คือช่วง ก.ค.-ส.ค.2565

ส่วนดวงสุขภาพก็มีปัญหาเพราะเสาร์ทับลัคน์ พระเสาร์เป็นดาวโทษทุกข์ ท่านจึงต้องหมั่นสร้างบุญบารมีด้วยการดูแลประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุข

“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
“บิ๊กป้อม” บริวารจะสร้างความแตกแยก

ส่วน พล.อ.ประวิตร นั้น เกิด 11 ส.ค.2488 เป็นชาวราศีกรกฎ มีพระอาทิตย์กุมพระพุธ ในปี 2565 ดาวเสาร์จะมาเล็งราศีเกิด เป็นพินทุบาทว์ คือเป็นจุดแตก รั่ว ช้ำ เสาร์เล็งในภพที่ 7 ซึ่งหมายถึงหุ้นส่วน คู่ครอง เพศตรงข้ามจะนำปัญหามาให้ ต้องระวังเรื่องความแตกแยก ระวังหุ้นส่วนทางการเมือง ซึ่งหุ้นส่วนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ มีลัคนาอยู่ตรงราศีมังกรซึ่งราศีมังกรก็ถูกเสาร์มาทับ ส่วน พล.อ.ประวิตร เป็นชาวราศีกรกฎ ซึ่งเสาร์เล็งพระอาทิตย์ทำให้รุ่มร้อน ดังนั้นปี 2565 จึงเป็นปีแห่งความรุ่มร้อน

ช่วงต้นปีไม่ค่อยดี คือตั้งแต่ 8 พ.ย.2564-8 เม.ย.2565 ดาวพฤหัสอยู่ในภพที่ 8 ซึ่งเป็นภพมรณะ จึงต้องดูแลสุขภาพ และระวังอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม แต่จะดีขึ้นหลังวันที่ 8 เม.ย.2565 ซึ่งช่วงนั้นพฤหัสจะอยู่ตรงราศีมีน ในภพที่ 9 ดาวพฤหัสจะส่งกระแสไปถึงพระอาทิตย์ซึ่งเป็นคู่มิตร ทำให้มีมิตรและผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน อะไรต่างๆ จะดีขึ้น

ส่วนดวงบริวารนั้นเนื่องจาก พล.อ.ประวิตรเกิดวันเสาร์ ดาวบริวารเป็นดาวอังคาร พระอังคารไปสัมพันธ์กับดาวเสาร์ ท่านจึงมีบริวารลักษณะแรงๆ จึงต้องระวังเพราะบริวารอาจเป็นสาเหตุที่นำมาสู่ความแตกแยก

“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
“บิ๊กป๊อก” เป็นดาวเด่นทางการเมือง

ส่วนดวงของ พล.อ.อนุพงษ์ เกิดวันที่ 10 ต.ค.2492 ซึ่งปี 2565 มีบางช่วงเวลาที่ต้องต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรค ต้องใช้ความรู้ความสามารถในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะช่วงต้นปีซึ่งดาวพฤหัสโคจรอยู่ตรงราศีกุมซึ่งเป็นภพอริของดวงท่าน จากนั้นเมื่อดาวพฤหัสโคจรเข้าราศีมีนไปทับพระราหู พฤหัสเข้าเรือนหุ้นส่วน พฤหัสไปเล็งพระอาทิตย์ซึ่งอยู่ในราศีกันย์ ซึ่งพฤหัสเป็นคู่มิตรกับพระอาทิตย์จึงให้คุณ ในช่วงวันที่ 8 เม.ย.2565 จนถึง 19 เม.ย.2566 จึงมีผู้คนมากมายเข้ามาหา และมีหุ้นส่วนเกิดขึ้นจำนวนมาก ดังนั้นบุคลิกของ พล.อ.อนุพงษ์จะเปลี่ยน ไม่เงียบขรึมอีกต่อไป จะมีบทบาทมากขึ้น และเป็นดาวเด่นขึ้นมา บริวารที่เข้ามาจะให้คุณแต่ก็สร้างความวุ่นวายให้บ้าง

ด้านสุขภาพจะต้องระวัง โดยเฉพาะช่วงต้นปี โดยตั้งแต่ 8 พ.ย.2564 ถึง เม.ย.2565 ซึ่งดาวพฤหัสจรอยู่ในราศีกุมซึ่งเป็นภพอริ จึงจะมีปัญหาด้านสุขภาพ

“บิ๊กตู่” ระวังถูกแทงข้างหลัง

ด้าน อาจารย์โจ้ ได้วิเคราะห์ดวงของ 3 ป. ว่า สำหรับดวงของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น พื้นดวงชะตามีคนมีเสน่ห์ ขี้เกรงใจ ปฏิเสธไม่เป็น แต่พูดจาโผงผาง สภาวะอารมณ์มีมฤตยูอยู่ด้วยจึงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ปี 2565 ต้องระวังคนใกล้ชิดจะนำปัญหามาให้ อายุ 67 ย่าง 68 ปี พระอังคารเป็นกาลกิณี ระวังจะเกิดอุบัติเหตุและเจ็บป่วย ประกอบกับ 30 มี.ค.2565 ราหูย้ายเข้าราศีเมษ ต้องระวังเรื่องอุบัติเหตุ ด้านหน้าที่การงานจะเกิดปัญหา จะเสียเพราะเพื่อนพาจน พระเสาร์มาเล็งมฤตยู ดวงจึงถือว่าหนักหนา กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะทิ้งก็สงสาร จะเลิกก็เสียดาย วันเกิดคือดาวพุธ ยิ่งพูดยิ่งเสีย ไปสัญญากับนายทุนไว้ก็จะเกิดปัญหา จะถูกบีบจากทั้งภายนอกภายใน อย่างไรก็ดี ช่วง ก.พ.จะมีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ

“ช่วง ก.ค.2565 ดาวมฤตยูวิ่งไปทับดาวพฤหัส เล็งพระอังคาร เล็งพระเกตุ มีเกณฑ์หวาดเสียว พล.อ.ประยุทธ์ จะเจอเล่นใต้ดิน แม้แต่คนที่ร่วมงานกันก็จะแทงข้างหลัง” อ.โจ้ กล่าว

“บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
“พล.อ.ประวิตร” อาจโดนขุดเรื่อทรัพย์สิน

สำหรับดวงของ พล.อ.ประวิตร นั้นดวงเกิดวันเสาร์เป็นคนแข็ง แต่จะเสียเรื่องบารมี ในปี 2565 พระเสาร์ทำมุมกับราศีเกิด เล็งไปที่ดาวอาทิตย์และดาวพุธ จึงมีคนจ้องหมั่นไส้ อะไรที่เป็นความลับ โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์สินจะมีปัญหา เพราะราหูทับอาทิตย์จะเกิดการจับผิดผู้นำ แรงกระเพื่อมใต้ดินจะเริ่มแรงขึ้น

อีกทั้ง ช่วง ก.ค.2565 มฤตยูเข้าไปทับมฤตยูเดิม ทับพระอังคาร ต้องระวังเรื่องสุขภาพ เข้าโรงพยาบาล และหลัง 11 ส.ค. ดาววันเกิด ดาวเสาร์เป็นดาวบาปเคราะห์ จะเป็นกาลกิณี จะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะกระดูก

“พล.อ.อนุพงษ์” เพื่อนเก่าจะกลับมาเล่นงาน


ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ นั้นพื้นดวงมีเสน่ห์กับผู้หลักผู้ใหญ่ คอยคิดคอยแก้ปัญหา แต่ไปร่วมงานกับใครไม่ได้ เพราะมีราหูและอาทิตย์เล็งกันอยู่ ในทางการเมืองท่านจะอยู่ได้อีกปีกว่า เพราะเมื่อราหูไปทับราหู เล็งอาทิตย์ จะเกิดพินทุบาทว์ของราศีเกิดท่าน ราหูจะย้ายเข้าไปทับพระจันทร์และพระเกตุ ช่วง 30 มี.ค.2565 เป็นคู่หนี้กรรม กรรมที่เกี่ยวกับองค์กรและครอบครัวจะเข้ามา ดวงของท่านถ้าเป็นข้าราชการ ข้าแผ่นดินจะอยู่ยาว แต่อย่าไปยุ่งกับอะไรที่เทาๆเด็ดขาด เพราะรอดยาก จากนั้นหลัง ต.ค.2565 ดาววันเกิดจะเข้ากาลกิณีจร พระจันทร์อยู่ในตำแหน่งภพลาภะ อะไรที่เคยได้อาจจะกลายเป็นทุกขลาภ บริวารมีปัญหา เพื่อนเก่าอาจกลับมาเล่นงาน

ด้าน โหรบุศรินทร์ ได้คำนวณดวงของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า มีดวงเจ็บป่วยช่วง มี.ค.-เม.ย.2565 โดยรวมถือว่าดวงตก ผู้คนไม่นับถือ ราหูทับลัคน์ในดวงเมือง ราหูไม่ถูกกับดวงเมือง ราหูเดิมอยู่ในเรือนวินาศ ราหูจรเข้ามาเรือนการเงินตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ อีกทั้งทำให้รัฐบาลอยู่ลำบาก มีผลให้รัฐบาลเกิดการปฏิวัติซ้อนถึง 80% ในช่วงระหว่าง 30 มี.ค.2565-17 ต.ค.2566 โดยเฉพาะ 2 ช่วงนี้ คือระหว่าง 16 ก.ย.-16 ต.ค.2565 และ 17 พ.ย.-16 ธ.ค.2565 ต้องระวังอย่างมาก




กำลังโหลดความคิดเห็น