COVID-19 ทำธุรกิจทัวร์พังพาบ รายที่รับนักท่องเที่ยวชาวจีนไปก่อน ไกด์ คนขับรถ ตกงาน ร้านอาหารร้าง ทัวร์ต่างประเทศเจ้าใหญ่โละพนักงาน ส่วนเอเยนต์พลิกสถานการณ์เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ปรับแฟนเพจที่มียอด like หลักแสนขายอุปกรณ์ป้องกัน COVID-19 ผลตอบรับดี-รับฝากร้านสร้างรายได้ เห็นสัญญาณบวก จีนเริ่มฟื้นตัว หวังอีกไม่นานกลับมาเปิดบริการได้
การท่องเที่ยวนับเป็นภาคธุรกิจรายแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤต COVID-19 ผู้ประกอบการด้านนี้ต้องประคับประคองมาไม่น้อยกว่า 3 เดือน รายที่ยื้อต่อไปไม่ไหวก็ต้องปิดกิจการ พนักงานจำนวนไม่น้อยต้องพ้นสภาพ ทั้งไกด์ พนักงานขับรถ พ่อครัวร้านอาหารที่รับนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ รวมถึงพนักงานของบริษัททัวร์ โดยยังไม่มีทีท่าว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะยุติลง
ในประเทศไทยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนช่วงปลายปี 2562 เนื่องจากตลาดหลักของไทยคือนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ค่อยๆ หดหายไปหลังการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่เมืองอู่ฮั่น และรัฐบาลจีนต้องการควบคุมการแพร่ระบาด มีคำสั่งปิดเมืองและแนะนำให้ชาวจีนลดการเดินทางไปต่างประเทศ นักท่องเที่ยวจีนจึงหายไปจากตลาดท่องเที่ยวไทยและทั่วโลก
ทั่วโลกหยุดนิ่ง
เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ครอบคลุมเกือบทุกประเทศในเอเชีย ได้ลามไปสู่พื้นที่ยุโรปและทั่วโลก จนเกือบทุกประเทศใช้มาตรการควบคุมชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศ รวมถึงการปิดพรมแดนต่างๆ เพื่อป้องกันการนำเชื้อดังกล่าวเข้ามา บางประเทศใช้การปิดประเทศ หรือบางประเทศใช้มาตรการที่เข้มงวดซึ่งก็ไม่ต่างไปจากการปิดประเทศ มีการห้ามประชาชนในประเทศของตนออกนอกพื้นที่หรือห้ามออกนอกบ้าน ยิ่งทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทรุดลงอย่างหนัก
ผลกระทบนี้ขยายวงออกไปสู่ธุรกิจโรงแรมที่เปิดบริการรองรับนักท่องเที่ยว บางรายถึงขนาดต้องหยุดกิจการ เมื่อเกือบทุกประเทศคุมเข้มคนที่เดินทางมากจากต่างประเทศทำให้ธุรกิจสายการบินประสบปัญหาตามไปด้วย อย่างในประเทศไทยสายการบินต่างๆ หยุดให้บริการทั้งเส้นทางต่างประเทศและในประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาต
เกือบทุกสายการบินมีการลดเงินเดือนพนักงาน เปิดให้พนักงานลาหยุดได้โดยไม่รับเงินเดือน นับเป็นวิกฤตที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากมาตรการของภาครัฐบาลทุกประเทศที่พยายามหาทางสกัดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
ดังนั้น พนักงานโรงแรม พนักงานสายการบินต้องถูกลดเงินเดือน หรืออนุญาตให้ลางานได้โดยไม่ได้รับเงินเดือน ขึ้นอยู่กับแนวทางของแต่ละองค์กร
รายใหญ่เจ็บหนัก
สำหรับบริษัททัวร์มีทั้งรายใหญ่ที่เป็นผู้ออกโปรแกรมทัวร์ กลุ่มนี้ถือว่าเจ็บหนักมาก กลุ่มที่เน้นตลาดจีนเจ็บตัวก่อนเส้นทางอื่นและบางเจ้าทำแค่ตลาดจีนอย่างเดียว
เท่าที่รู้ตอนนี้บริษัททัวร์เจ้าใหญ่ ต่างลดพนักงานออกไปแล้วไม่น้อย บางเจ้าเหลือเพียงพนักงานบัญชีกับตัวเจ้าของบริษัทเท่านั้น หรืออาจมีพนักงานขายไว้ 1-2 รายเพื่อตามงานที่ตกค้าง นาทีนี้ทุกคนต้องช่วยกันทำงานอย่างการอัปเดตเฟซบุ๊กของบริษัทเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นว่าทางบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่
ที่ผ่านมา บริษัทที่เป็นผู้ออกทัวร์รายใหญ่นั้น มักจะไม่ได้ทำการตลาดในช่วงที่ผ่านมามากนัก ส่วนหนึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องประเทศปลายทางที่ให้บริการเฉพาะเจาะจงตามความสามารถในการประสานงานกับผู้ให้บริการปลายทาง ทำให้การหาทางออกในวิกฤตนี้มีจำกัด
ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งคือเอเยนต์ที่เปิดขายโปรแกรมทัวร์ให้เจ้าใหญ่หลายบริษัทนั้น ต้องทำการตลาดบนสังคมออนไลน์ให้กว้างมากที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสในการเสนอขายทัวร์ให้แก่ลูกค้า กลุ่มนี้ใช้พนักงานน้อยจึงมีต้นทุนไม่มากนัก เอเยนต์บางรายปิดตัวไปบ้างก็มี บางรายยังไม่มีการลดเงินเดือนหรือให้พนักงานออก ทั้งหมดอยู่ที่เจ้าของบริษัทว่าจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร
พลิกสถานการณ์ขายอุปกรณ์กัน COVID
เอเยนต์ที่มีฐานลูกค้ามากด like บนเพจของบริษัท 3-5 แสนราย ได้มีการพลิกโอกาสด้วยช่องทางการตลาดที่มีอยู่ สร้างประโยชน์จากฐานสมาชิกบนแฟนเพจ ด้วยการโพสต์ขายอุปกรณ์ในการป้องกันโรค COVID-19 แทนการเสนอขายโปรแกรมทัวร์เหมือนที่ผ่านมา มีทั้งหน้ากากอนามัยที่ขาดตลาด ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป เมื่อนำมาโพสต์ขายและยังมีอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเจลแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อ อุปกรณ์ในการวัดไข้ รวมไปถึงบริการพ่นฆ่าเชื้อทั้งที่บ้าน สำนักงานและในรถยนต์
“สินค้ากลุ่มป้องกัน COVID-19 ผลตอบรับดี เนื่องจากลูกค้าบางท่านไม่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด เราหาสินค้าเหล่านี้มาจากเพื่อน ๆ หรือญาติที่มีแหล่งผลิตหรือเป็นตัวแทนจำหน่าย นำมาโพสต์ขายบนเฟซบุ๊กแฟนเพจของบริษัท และมีเพื่อนๆ ในวงการทัวร์จะรับไปจำหน่ายต่ออีกเช่นกัน นอกจากนี้ ยังรับเป็นตัวกลางในการจำหน่ายสินค้าให้แก่รายอื่นที่ประสบปัญหาด้วยเช่นกัน”
เพจที่มีคนกด like เป็นจำนวนมากนั้นย่อมได้เปรียบกว่าเอเยนต์ที่มีคนกด like น้อย เพราะโอกาสที่ลูกค้าทัวร์ของเราจะเห็นสินค้าที่เราโพสต์ขายในช่วงนี้จึงมีมากกว่า ซึ่งในบางสินค้านั้นอาจตรงกับความต้องการของคนที่ติดตามโปรแกรมทัวร์ของเรา
นอกจากนี้ เอเยนต์เจ้าใหญ่ที่มียอด like เพจเกือบ 6 แสนรายก็ปรับมาจำหน่ายอุปกรณ์ในการป้องกันโรค COVID-19 ด้วยเช่นกัน และยังใช้เพจดังกล่าวรับฝากร้านค้าต่างๆ อีกด้วย
ตอนนี้ผู้ประกอบการทัวร์จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ อย่างน้อยก็เพื่อให้มีรายได้เข้ามาทดแทนรายได้จากการขายโปรแกรมทัวร์ ด้วยการใช้ช่องทางออนไลน์ที่เคยสร้างมานำมาสร้างประโยชน์ซึ่งไม่ได้มีเพียงเฟซบุ๊กเท่านั้น แต่ช่องทางอื่น เช่น ไลน์ก็มีการประกาศขายสินค้าป้องกัน COVID ด้วยเช่นกัน
ทำข้าวกล่องประคองตัว
ขณะที่เอเยนต์ทัวร์อีกรายที่มียอด like เฟซบุ๊กแฟนเพจกว่า 5 หมื่นราย กล่าวว่า ทางบริษัทยังไม่ได้มีการโพสต์ขายสินค้าใดๆ บนเฟซบุ๊ก ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้มีการลดเงินเดือนหรือเลิกจ้างพนักงานแต่อย่างใด แต่พนักงานก็ต้องช่วยกันสร้างรายได้ หรือเคลียร์งานที่ยังค้างอยู่ให้แก่ลูกค้าที่ไม่ได้เดินทางจากสถานการณ์ COVID-19
“พนักงานบางคนก็ช่วยกันเย็บหน้ากากผ้าออกจำหน่าย หรือเพื่อนบางคนก็ทำข้าวกล่องมาจากพนักงานบริษัทอื่นที่ทำงานในตึกเดียวกัน เพราะร้านอาหารทั่วไปนั้นมีข้อห้ามที่ไม่สามารถทานที่ร้านได้ ต้องซื้อใส่กล่องกลับไปเท่านั้น”
เราเป็นเพียงพนักงานยังตอบไม่ได้ว่าทางบริษัทจะทนในสภาพนี้ได้นานแค่ไหน โอกาสที่จะต้องถูกเลิกจ้างก็มีหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ทางบริษัทประเมินกันว่าหากทุกอย่างจบเร็วกว่าที่คนจะมั่นใจกล้าเดินทางท่องเที่ยวอาจจะเป็นเดือนตุลาคมนี้
จีนฟื้นก่อน
เจ้าของบริษัททัวร์รายหนึ่งประเมินว่า ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวอาจสะดุดเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อสถานการณ์ COVID-19 ยุติลง เรื่องของการท่องเที่ยวก็จะกลับมาอีกครั้ง อย่างที่ประเทศจีนได้เห็นแล้วว่าคนจีนเที่ยวภายในประเทศกันบ้างแล้ว หลายเมืองเริ่มผ่อนคลายมาตรการ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี
ประเทศที่น่าจะปลอดภัยมากพอที่จะเดินทางท่องเที่ยวกันได้อาจเริ่มต้นที่ประเทศจีน เพราะสถานการณ์คลี่คลายมากจนสามารถเปิดเมืองอู่ฮั่นต้นทางของการระบาดได้แล้ว และชาวจีนจำนวนไม่น้อยได้เริ่มเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศกันแล้วในช่วงเทศกาลเช็งเม้งที่ผ่านมา เขาหวงซาน มีชาวจีนจำนวนมากเดินทางไปท่องเที่ยว
ส่วนฝั่งยุโรปต้องมองข้ามไปในปีหน้า เพราะการระบาดรุนแรงมาก มีทั้งผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แซงประเทศจีนที่เป็นต้นทางไปมาก ส่วนที่สหรัฐฯ นั้นแม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก แต่ไม่ใช่ประเทศปลายทางของนักท่องเที่ยวไทยมากนัก
เมืองไทยก็เช่นเดียวกัน จุดเริ่มต้นคงเริ่มที่สถานการณ์ของโรคสงบ ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการคัดกรองของแต่ละจังหวัด สายการบิน รถไฟ และรถโดยสารประจำทางกลับมาเปิดบริการตามปกติ จะทำให้การท่องเที่ยวในประเทศน่าจะเริ่มเกิดขึ้นได้ก่อน
ตรงนี้จะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ไม่ต่างไปจากการบอกกล่าวนักท่องเที่ยวต่างชาติว่า ภายในประเทศไทยมีความปลอดภัย อีกไม่นานการท่องเที่ยวก็จะฟืันกลับมา เช่นเดียวกับการเดินทางไปต่างประเทศหากประเทศใด ที่คนในประเทศนั้นใช้ชีวิตได้ตามปกติ ความเชื่อมั่นก็จะเริ่มมีมากขึ้น
เชื่อว่าเมื่อผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 ไปได้ หลายประเทศคงจะออกโปรโมชันกระตุ้นการท่องเที่ยวกันเกือบทุกประเทศและตลาดการท่องเที่ยวก็จะกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง