xs
xsm
sm
md
lg

ช่อง 3 ขี่คอ กสทช. สร้างอำนาจเหนือผู้คุมกฎ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงาน

กสท.ยอมช่อง 3 ลดค่าธรรมเนียม 4% ให้ 5 ปี แลกออกอากาศคู่ขนาน หลังช่อง 3 ท้าชนทุกแนวรบ งัดกฎหมายสู้ ฟ้อง 3 กสท. แต่เปิดทางต่อรองหากต้อง “จอดำ” แถมได้เคเบิลฟ้องศาลปกครองขอระงับคำสั่งเหมือนทนายช่อง 3 นักวิชาการเตือนหาก กสท.ยอมลดค่าธรรมเนียมให้เท่ากับปล่อยช่อง 3 ขี่คอ ขณะที่ช่อง 3 เร่งเสริมแนวรบ ใช้ทั้งสื่อทีวีและวิทยุสะท้อนไม่เห็นด้วย แถมออกตัวอย่างละครชุดใหญ่ตรึงผู้ชม ตามด้วยถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกคู่ใหญ่ สร้างฐานผู้ชมให้มากขึ้น หากจอดำจริงเสียงโวยเยอะ ตบท้ายด้วย “ประวิทย์ มาลีนนท์” นายใหญ่ลุ้นตำแหน่งสมาชิกสภาปฏิรูป

ข้อขัดแย้งระหว่างคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กับบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 3 ที่คุกรุ่นในเวลานี้กำลังกลายเป็นเงื่อนปมใหญ่ของการเปลี่ยนผ่านระบบการออกอากาศของรายการทีวีในประเทศไทยจากระบบอนาล็อกมาเป็นระบบดิจิตอล

กสท.ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ต้องการขับเคลื่อนให้ระบบการออกอากาศของผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการสถานีโทรทัศน์ทั้งรายเดิมและรายใหม่ไปออกอากาศด้วยระบบดิจิตอล เพื่อทำให้ตลาดดิจิตอลเติบโตขึ้นมาทดแทนระบบเดิม(อนาล็อก)

เหลือเพียงสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เท่านั้นที่ยังไม่นำเอารายการบนระบบอนาล็อกออกอากาศในระบบดิจิตอล แม้ช่อง 3 จะประมูลใบอนุญาตในระบบดิจิตอลได้ถึง 3 ช่อง แต่ช่องที่ออกอากาศบนระบบดิจิตอลก็ยังเป็นรายการทั่วไป มีทั้งรายการที่ผลิตขึ้นใหม่ หรือนำเอาภาพยนตร์มาฉายคั่นเวลา

ขณะที่ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9, NBT และ TPBS ทุกรายออกอากาศคู่ขนานกันทั้งระบบอนาล็อกและดิจิตอลไปพร้อมกัน อีกทั้งผู้ประกอบการรายใหม่ก็ล้วนออกอากาศในระบบดิจิตอลทั้งสิ้น

ดังนั้นจึงเกิดปัญหาในการรับชมขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่รับชมผ่านเสาอากาศแบบก้างปลา ที่ได้ซื้อกล่อง Set Top Box มาก่อนที่จะมีการแจกคูปอง ผู้ชมที่ต้องการดูช่องอื่นๆ บนทีวีดิจิตอล ก็ไม่สามารถรับชมช่อง 3 ที่เป็นอนาล็อกได้ในเวลาเดียวกัน ต้องสลับสายอากาศหรือต้องใช้อุปกรณ์สลับสัญญาณมาช่วยถึงจะสามารถรับชมได้ ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการรับชม

คนที่เป็นคอละครของช่อง 3 ก็ไม่คิดที่จะเข้าไปชมรายการในทีวีระบบดิจิตอล ที่ขณะนี้มีผู้ให้บริการอีก 24 รายออกอากาศบนทีวีดิจิตอล

ทำให้เป้าหมายที่ กสท.ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิตอล จึงต้องสะดุดลง

นาทีนี้จึงได้เห็นบทบาทที่เข้มขึ้นของ กสท.ที่มีคำสั่งทางปกครองออกมาแล้ว หากช่อง 3 ไม่นำเอารายการในระบบอนาล็อกมาออกอากาศคู่ขนานบนทีวีดิจิตอล ภายในระยะเวลาที่กำหนด รายการของช่อง 3 อนาล็อกที่เคยออกอากาศผ่านจานรับดาวเทียมหรือเคเบิลทีวีก็จะไม่สามารถรับชมได้ หมายถึงบ้านใครที่ชมทีวีผ่านจานดาวเทียมหรือเคเบิลทีวีจะต้องพบกับสภาพจอดำ หากผู้ประกอบการจานดาวเทียมหรือเคเบิลทีวีรายใดฝ่าฝืนมีสิทธิ์ถึงขั้นถูกถอนใบอนุญาต

ถือว่าเป็นไม้แข็งที่ กสท.มีคำสั่งดังกล่าวออกมา หลังจากที่ให้เวลากับทางช่อง 3 มาแล้วไม่น้อยกว่า 100 วัน นับตั้งแต่ที่ทีวีดิจิตอลออกอากาศและขยายเพิ่มให้อีกไม่น้อยกว่า 15 วัน

ทั้งนี้สำหรับผู้ที่รับชมทีวีผ่านระบบเสาอากาศแบบก้างปลาก็ยังสามารถรับชมช่อง 3 ได้ตามปกติ ยกเว้นผู้ที่ชมผ่านดาวเทียมหรือเคเบิลทีวี หากยังไม่ได้ข้อยุติระหว่าง กสท.กับช่อง 3 การรับชมคงต้องให้กลับไปใช้เสาอากาศแบบก้างปลาหรือเสาอากาศแบบหนวดกุ้งเหมือนก่อนเพื่อการรับชมช่อง 3 อนาล็อก
3 กรรมการ กสท.ที่ถูกช่อง 3 ฟ้อง
ฟ้อง 3 กสท.

แต่ใช่ว่าช่อง 3 จะยอมออกอากาศแบบคู่ขนานตามคำสั่งของ กสท. โดยในวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 3 มอบอำนาจให้ นายสุรัตน์ชัย มั่นศรีถาวร ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ พลโทพีระพงษ์ มานะกิจ และนายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ กสทช. เป็นจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

ทนายความของช่อง 3 ระบุในคำฟ้องว่า จำเลยทั้ง 3 เป็นกรรมการ กสทช. และ กสท. เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2557 จำเลยทั้ง 3 ได้จัดให้มีการประชุม กสท.นัดพิเศษ ซึ่งเป็นการประชุมที่ฝ่าฝืนระเบียบคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อออกคำสั่งทางปกครอง ให้ระงับการนำสัญญาณของโจทก์(ช่อง 3) ไปถ่ายทอดผ่านระบบดาวเทียมและเคเบิลทีวี

เป็นที่น่าสังเกตว่าการฟ้องกรรมการ กสท.ทั้ง 3 รายที่มีคำสั่งมิให้ผู้ประกอบการดาวเทียมและเคเบิลทีวีนำสัญญาณของช่อง 3 ไปออกอากาศนั้น ทนายของช่อง 3 ได้นำเอาข้อความในทวิตเตอร์ของพันเอกนที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท.เข้ามาเป็นหลักฐานในการฟ้องกรรมการทั้ง 3 อีกด้วย เพื่อสนับสนุนคำฟ้อง

โดยเฉพาะจำเลยที่ 1 ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง มีข้อความใส่ความโจทก์ด้วยความเท็จ ทำให้โจทก์เสื่อมเสียถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากบุคคลทั่วไป และมีการเผยแพร่ความหมิ่นประมาทดังกล่าวไปตามระบบอินเทอร์เน็ต จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

เป็นอันว่านางสาวสุภิญญา กรรมการ กสท. เจอข้อหาเพิ่มอีก 2 ข้อหา

งัดกฎหมายสู้ทุกช่องทาง

ดังนั้นปฏิบัติการของช่อง 3 ในครั้งนี้นับเป็นการท้าชนผู้ควบคุมกฎระเบียบทางด้านโทรทัศน์อย่าง กสท. ชนิดที่ไม่มีผู้ประกอบการรายใดกล้าทำเช่นนี้

โดยที่ผ่านมาเราจึงเห็นความพยายามของช่อง 3 ที่จะยื้อไม่ยอมขึ้นไปในระบบดิจิตอลให้นานที่สุด ทั้งนี้น่าจะมีเหตุผล 2 ประการ คือ ด้านหนึ่งคือรายได้จากเม็ดเงินโฆษณานับหมื่นล้านบาทในระบบอนาล็อกที่ช่อง 3 สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ กว่าหมื่นล้านบาทต่อปี

ประการที่ 2 พื้นที่ทีวีดิจิตอลยังมีปัญหาเรื่องโฆษณาที่เอเยนซียังไม่เทเม็ดเงินเหล่านี้ไปสู่พื้นที่ทีวีดิจิตอลอย่างจริงจัง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความยากในการรับชมที่ต้องชมผ่าน Set Top Box เนื่องเพราะ กสทช.ยังไม่แจกคูปองดังกล่าวให้กับประชาชน

ปมนี้จึงเป็นข้อต่อสู้ระหว่างกันของช่อง 3 กับ กสท.ที่ต้องการผลักดันให้ทีวีดิจิตอลเกิดขึ้นเพื่อทดแทนระบบอนาล็อก

ส่งผลให้ช่อง 3 เลือกการต่อสู้ในหลากหลายแนวทาง อันดับแรกคือการยื้อเพื่อจะอยู่ในระบบอนาล็อกให้นานที่สุดตามสัมปทานเดิมที่ได้จาก อสมท คือสิ้นสุดในปี 2563 โดยอาศัยประเด็นทางกฎหมายในเรื่องนิติบุคคล เนื่องจากช่อง 3 ใช้บริษัทบีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด เป็นผู้ประมูลทีวีดิจิตอลได้ทั้ง 3 ช่องรายการ ขณะที่ช่อง 3 ระบบอนาล็อกมีบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด เป็นผู้ถือสัมปทาน

ดังนั้นจึงเป็นไปตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 9 ใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ได้รับใบอนุญาตจะโอนแก่กันมิได้ ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์จะต้องประกอบกิจการด้วยตนเอง การแบ่งเวลาให้ผู้อื่นดำเนินรายการให้กระทำได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้กำหนด

แต่ในทางปฏิบัติแล้วเป็นที่ทราบกันดีว่าทั้ง 2 ถือเป็นบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นชุดเดียวกัน โดยบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทบางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด สัดส่วน 99.99% ได้สัมปทานช่อง 3 และถือหุ้น 99.99% บริษัทบีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ได้รับใบอนุญาตโทรทัศน์ดิจิตอล 3 ช่อง

หากมีความตั้งใจจริงที่จะร่วมกันเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิตอลก็สามารถทำได้ ซึ่งทาง กสท.ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือในอุปสรรคที่เกิดขึ้น โดยนายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เคยกล่าวในงานเสวนา “อยู่รอดอย่างรับผิดชอบในยุคทีวีดิจิตอล” เมื่อ 13 กันยายนที่ผ่านมาว่า ช่อง 3 ออริจินัล (อนาล็อก) ยืนยันจะออกอากาศไปจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานกับ อสมท ในปี 2563 โดยไม่มีนโยบายออกอากาศคู่ขนานระบบดิจิตอลมาตั้งแต่ต้น และถือเป็นสิทธิของช่อง 3 ในการออกอากาศระบบอนาล็อก
นายประวิทย์ มาลีนนท์ นายใหญ่ของช่อง 3
นี่คือความตั้งใจที่แท้จริงของผู้บริหารช่อง 3

แม้ว่าช่อง 3 อนาล็อกจะยังออกอากาศได้ตามปกติ แต่คำสั่งทางปกครองนั้น มีผลกระทบต่อฐานผู้ชมในการรับชมของช่อง 3 เป็นอย่างมาก เนื่องจากหลายล้านครัวเรือนเปลี่ยนวิธีการรับชมรายการทีวีของไทยจากแบบเสาอากาศแบบก้างปลามาเป็นรับชมผ่านจานดาวเทียมและเคเบิลทีวีเป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ดี คำสั่งทางปกครองดังกล่าวจึงกระทบต่อผู้ชมของช่อง 3 เป็นอย่างมาก หากช่อง 3 ที่เคยถูกนำสัญญาณไปเผยแพร่บนจานดาวเทียมและเคเบิลทีวีต้องพบกับสภาพจอดำ แม้แฟนๆ ช่อง 3 จะมีทางเลือกด้วยการรับชมผ่านเสาอากาศแบบก้างปลาหรือแบบหนวดกุ้ง แต่การกลับไปใช้เสาอากาศในลักษณะดังกล่าวอีกครั้งคงไม่ใช่เรื่องที่สะดวกนักสำหรับผู้ชม

ขณะเดียวกันการออกมาย้ำมติของ กสท.ที่ให้โทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลทีวีงดการนำสัญญาณภาพของช่อง 3 อนาล็อกขึ้นเมื่อถึงกำหนดนั้น ทำให้นายประวิทย์ มาลีนนท์ ต้องมาเจรจากับกรรมการ กสท. เมื่อ 16 กันยายนที่ผ่านมา นายใหญ่ของช่อง 3 พร้อมด้วยผู้บริหารของช่อง 3 เข้าร่วมหารือกับกรรมการ กสท. 4 คน ประกอบด้วย พันเอกนที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท. และกรรมการ กสท.อีก 3 รายที่ถูกทนายความของช่อง 3 ฟ้อง ประกอบด้วย พลโทพีระพงษ์ มานะกิจ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ส่วนพันตำรวจเอกทวีศักดิ์ งามสง่า แจ้งติดภารกิจไม่เข้าประชุม

นับเป็นการเผชิญหน้ากันของผู้คุมกฎกับผู้ต้องปฏิบัติตามกฎที่ผู้คุมกฎถูกผู้ต้องปฏิบัติตามฟ้องร้องดำเนินคดี และไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนออกมา
ช่อง 3 ในระบบทีวีดิจิตอล
ระวังช่อง 3 ขี่คอ กสท.

จะเห็นได้ว่าเมื่อการยื้อออกอากาศต่อในระบบอนาล็อกอาจจะไม่สำเร็จ ช่อง 3 ใช้วิธีการเจรจาต่อรองควบคู่ไปด้วย การขอลดค่าธรรมเนียมถูกหยิบยกขึ้นมาหารือ ซึ่งค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับ กสท.ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียม 2% ของรายได้ต่อปี และจ่ายเงินเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. อีก 2% ของรายได้ รวมเป็น 4% ของรายได้ในแต่ละปี

โดยเมื่อ 22 กันยายน 2557 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. เห็นชอบแนวทางลดค่าธรรมเนียมให้ผู้ประกอบการทีวีที่ออกคู่ขนานดิจิตอล 4% และลด 2% ให้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลช่องใหม่ จากค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้ กสท. เป็นเวลา 5 ปี โดยการลดค่าธรรมเนียม 4% จะให้สิทธิ์กับผู้ประกอบการที่ออกอากาศคู่ขนานก่อนวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ส่วนรายที่ออกอากาศหลังจากนั้นจะพิจารณาเป็นรายกรณีไป

นับว่าเป็นไปตามข้อเสนอที่เคยหารือกันมาก่อนเมื่อ 16 กันยายนที่ผ่านมา โดยเงินค่าธรรมเนียมที่ กสท.ลดให้กับผู้ประกอบการนั้นย่อมกระทบต่อรายได้ของ กสท.ในอนาคตราว 1.2 หมื่นล้านบาท โดยกลุ่มที่ได้รับประโยชน์สูงสุดคือกลุ่มผู้ประกอบการฟรีทีวีเดิม

“สถานะในตอนนี้ถือว่าช่อง 3 มีชัยเหนือ กสท. เพราะต้องยอมลดค่าธรรมเนียมให้กับช่อง 3 และผู้ประกอบการรายอื่นๆ จากนี้ไปสถานะของ กสท.คงตกอยู่ในภาวะอึดอัด เพราะเป็นผู้ควบคุมกฎระเบียบแต่กลับไม่สามารถบังคับให้สมาชิกปฏิบัติตามได้ หากในอนาคตผู้ประกอบการที่มีฐานผู้ชมมากเรียกร้องอะไรขึ้นมาแล้วใช้ฐานผู้ชมเป็นเครื่องมือในการต่อรอง กสท.ก็จะมีสถานะเป็นเพียงแค่องค์กรในการกำกับดูแลแต่ในนามเท่านั้น ไม่มีอำนาจบังคับใช้ได้จริง กลายเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่มีอำนาจเหนือ กสท.”นักวิชาการด้านสื่อสารกล่าว

เคเบิลสู้-ช่อง 3 Win

โดยในช่วงจังหวะเวลานี้ทางช่อง 3 เดินเกมโดยใช้สื่อของตัวเองและกลไกที่มี เข้ามาสร้างความได้เปรียบในการต่อรองครั้งนี้

ไม่เพียงช่อง 3 เท่านั้นที่พยายามต่อสู้เพื่อจะไม่นำเอาสัญญาณในระบบอนาล็อกขึ้นสู่ระบบดิจิตอล แต่ยังมีแนวร่วมอย่างกลุ่มเคเบิลทีวีที่อ้างถึงหากสัญญาณของช่อง 3 ต้องจอดำว่าประชาชนจะได้รับผลกระทบ

เห็นได้จากการที่กลุ่มผู้ประกอบการเคเบิลทีวีจำนวนหนึ่ง ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเมื่อ 19 กันยายน ฟ้องกรรมการ 3 คนของ กสท. โดยขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่ให้ผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลยุติการนำรายการของช่อง 3 อนาล็อกออกอากาศ เพราะผู้ชมได้รับผลกระทบ

เช่นเดียวกับชมรมโครงข่ายดาวเทียม หรือกลุ่มผู้ประกอบการที่ขายจานดาวเทียมต่างก็เห็นสอดคล้องไปในทางเดียวกับผู้ประกอบการเคเบิลทีวี

“การยื่นเรื่องต่อศาลปกครองของผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในครั้งนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับทนายความของช่อง 3 ที่ยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการ กสท.ทั้ง 3 รายก่อนหน้านี้” แหล่งข่าวจากฟรีทีวีรายหนึ่งกล่าว

ทั้งนี้เพราะผู้ประกอบการเคเบิลทีวีและผู้ประกอบการจานดาวเทียม ได้ประโยชน์ส่วนหนึ่งจากการนำเอารายการบนฟรีทีวีไปรวมกับช่องรายการอื่นๆ เสนอขายให้กับสมาชิกที่สนใจ หากสมาชิกไม่สามารถรับชมรายการของช่อง 3 ได้อาจส่งผลต่อการยกเลิกสมาชิก ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการเหล่านี้

การฟ้องต่อกรรมการ กสท. 3 รายและขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งทางปกครองดังกล่าวจึงเป็นประโยชน์กับทั้งฝ่ายผู้ประกอบการเคเบิลทีวี ผู้ประกอบการจานดาวเทียม กลายเป็นการช่วยเหลือทางช่อง 3 ไปในตัว
หนึ่งในการใช้สื่อของช่อง 3 ตอบโต้ กรรมการ กสท.
ใช้สื่อสร้างความชอบธรรม

แนวทางการต่อสู้ของช่อง 3 ยังดำเนินการผ่านสื่อของช่อง 3 เอง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับแนวทางที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อนาล็อกดำเนินการอยู่ในเวลานี้ โดยในทางทีวีนั้นดำเนินการผ่านทั้งช่วงรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ที่ดำเนินรายการโดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ทั้งในลักษณะของการรายงานข่าวความเคลื่อนไหว รวมทั้งการอธิบายถึงเหตุผลของทางช่อง 3 ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลในเชิงที่เป็นคุณกับทางช่อง 3

อีกรายการหนึ่งที่ช่อง 3 นำมาใช้ในการตอบโต้คำสั่งของ กสท. คือ รายการจอโลกเศรษฐกิจ โดยพิธีกรคือนายบัญชา ชุมชัยเวทย์ ที่มีการนำเสนอรายงานพิเศษ “อนาล็อกสู่ดิจิตอล” เนื้อหารายการแม้จะไม่ได้โจมตีไปที่คู่กรณีอย่าง กสท. โดยตรง แต่เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการกล่าวถึงระบบทีวีดิจิตอลในต่างประเทศที่ต้องอาศัยเวลาในการเปลี่ยนผ่านหลายปี รวมถึงสัมภาษณ์นักวิชาการหรือผู้ร่วมงานสัมมนาที่ให้ความเห็นที่สอดคล้องกับแนวทางของช่อง 3 และสอบถามความคิดเห็นของผู้ชมช่อง 3 ตามต่างจังหวัดหากไม่สามารถรับชมรายการของช่อง 3 ได้

นอกจากนี้ยังใช้สถานีวิทยุครอบครัวข่าว ที่ช่อง 3 เช่าช่วงเวลาจากสถานีวิทยุ สทร. FM 106 นำเอาคำสัมภาษณ์ความคิดเห็นของผู้ชมช่อง 3 ถึงสถานการณ์ของทีวีดิจิตอลและการรับชมรายการของช่อง 3 ในช่วงนี้ ซึ่งทุกรายล้วนแสดงความคิดเห็นที่เป็นบวกกับทางช่อง 3 อนาล็อก
รายการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เพื่อเพิ่มฐานผู้ชม
เพิ่มผู้ชม-เพิ่มตัวประกัน

ขณะเดียวกันทางช่อง 3 ยังรวบรวมตัวอย่างของละครที่เตรียมจะออกอากาศในโอกาสต่อไป โดยละครของช่อง 3 เป็นละครที่มีนักแสดงระดับแม่เหล็กมากมาย แม้จะไม่แตกต่างกับการนำเสนอในครั้งก่อนๆ แต่คราวนี้เป็นการรวบรวมเอาละครฟอร์มใหญ่ที่เตรียมนำออกอากาศเข้ามารวมเป็นตัวอย่างไว้แจ้งให้กับผู้ชมได้ทราบ แม้ทางช่อง 3 อาจไม่มีเจตนาอะไร แต่ตัวอย่างรายการที่เผยแพร่ออกไปนั้นก็ตรึงให้ผู้ชมเตรียมรอชมละครเหล่านี้ได้ไม่น้อย หากช่อง 3 จะจอดำแฟนละครเหล่านี้คงไม่พอใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว

อีกทั้งยังมีการเพิ่มผู้ชมด้วยลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ 23 แมตช์จาก CTH ที่เริ่มตั้งแต่ 23 สิงหาคม 2557 โดยช่อง 3 เน้นเลือกถ่ายทอดสดทีมใหญ่ระดับหัวตารางที่ลงแข่งขัน ซึ่งครั้งนี้แตกต่างจากฤดูกาลก่อนที่ช่อง 9 ได้สิทธิในการถ่ายทอด แต่ครั้งนั้นเป็นเพียงการถ่ายได้เฉพาะคู่ในระดับกลางตารางถึงท้ายตาราง

นี่นับเป็นการต่อสู้อีกแนวทางหนึ่งที่ช่อง 3 กำลังดำเนินการอยู่ในเวลานี้ และยังคงไม่มีเพียงเท่านี้เพราะทางช่อง 3 ยังเดินเข้าสู่สนามทางการเมืองแม้จะเป็นช่วงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีอำนาจอยู่ก็ตาม โดยนายประวิทย์ มาลีนนท์ ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ในนามสมาคมผู้ผลิตละครโทรทัศน์ไทย โดยเข้ารับการสรรหาในด้านสื่อมวลชน

การท้าชน กสท.ของช่อง 3 ในครั้งนี้ มีเดิมพันในเรื่องของรายได้จากเม็ดเงินโฆษณากว่าหมื่นล้านบาท การปรับเกมจากการไม่ยอมออกอากาศแบบคู่ขนานของช่อง 3 ที่กำลังจะตกอยู่ในสภาพจอดำ ถูกพลิกกลับมาเป็นการยอมแบบมีเงื่อนไข ลดค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายให้กับ กสท.หลายร้อยล้านบาทภายในระยะเวลา 5 ปี นับเป็นความสำเร็จของช่อง 3 ที่มีชัยเหนือ กสท.

แต่ที่น่าจับตามากกว่านั้นคือบทบาทของ กสท.นับจากนี้ไปจะดำเนินการควบคุมผู้ประกอบการเหล่านี้อย่างไร เพราะสิ่งที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีฐานผู้ชมมากกลับมีอำนาจเหนือคณะกรรมการ กสท.

กำลังโหลดความคิดเห็น