ไม่ว่า “ช่อง 3 แอนะล็อก” หรือ “ช่อง 3 ออริจินัล” ของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) จะ “จอดำ” ผ่านทางโครงข่ายเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมทั่วประเทศในวันที่ 30 กันยายน ศกนี้ หรือไม่? ตามประกาศของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. ซึ่งหลายฝ่ายเฝ้ารอดูอย่างใจจดใจจ่อไม่แพ้ “ช่อง 3” เองก็ตาม
แต่ดูเหมือนว่า เกมครั้งนี้คงมีอะไรที่เข้ามาเป็นตัวแทรกที่ทำให้ “ช่อง 3” จอไม่ดำแน่ หรืออย่างน้อยก็ยืดเวลาออกไปอีก
หมากเกมนั้นคือ การที่ กสท.มีมติเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้ “ช่อง 3 แอนะล็อก” ต้องออกอากาศการถ่ายทอดสดคู่ขนานไปกับทีวีดิจิตอล “ช่อง 33 HD” ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19 กันยายน-4 ตุลาคม 2557 ซึ่งเป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่อง “หลักเกณฑ์ที่รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในการบริการที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555” กำหนดให้รายการทีวีสำคัญออกอากาศได้เฉพาะโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (ฟรีทีวี) เท่านั้น หรือที่เรียกกันว่า “มัสต์แฮฟ” (Must Have)
มตินี้ย่อมทำให้หลายฝ่ายมองว่า กสท.กำลังยืดอายุ หรือซื้อเวลาให้กับ “ช่อง 3” ได้ต่อลมหายใจออกอากาศทางแอนะล็อกต่อไปอีกเกินกำหนดเดิม
ขณะที่ “พ.อ.นที ศุกลรัตน์” รองประธาน กสทช.ในฐานะประธาน กสท. ย้ำถึงเหตุผลที่ต้องบังคับให้ถ่ายทอดคู่ขนานด้วยกันว่า กสท.มองว่าเพื่อต้องการที่จะให้ประชาชนอีกไม่ต่ำกว่า 30% ที่ยังใช้บริการแอนะล็อกเดิมสามารถเข้าถึงและรับชมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ได้ จึงต้องให้ช่อง 3 ถ่ายทอดผ่านแอนะล็อกได้
ส่วนทางช่อง 3 เองก็ไม่เห็นมีปฏิกิริยาต่อต้านอะไรกับมติให้ถ่ายทอดครั้งนี้เลย
คำถามที่เกิดขึ้นคือ
1. ถามว่า “เอเชียนเกมส์” เป็นกีฬาที่คนไทยส่วนใหญ่สนใจและติดตามการถ่ายสดการแข่งขันหรือไม่และมากน้อยเพียงใด เพราะไม่ใช่มหกรรมฟุตบอลโลกที่คนไทยคลั่งไคล้มากกว่า
2. ถามว่า ในเมื่อ กสท.ต้องการให้ประเทศไทยก้าวผ่านจากระบบแอนะล็อกไปยังระบบดิจิตอลแล้ว รวมทั้งรณรงค์ให้คนไทยใช้ทีวีดิจิตอล แต่ทำไมต้องให้ “ช่อง 3 แอนะล็อก” ถ่ายทอดสดเอเชียนเกมส์อีก
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากทาง กสท.อธิบายว่า การที่ กสท.ให้ “ช่อง 3 แอนะล็อก” ต้องถ่ายทอดสดเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการต่อเวลา หรือซื้อเวลาให้ “ช่อง 3” แต่อย่างใด เพราะในที่สุด “ช่อง 3 แอนะล็อก” ที่ออกอากาศผ่านทางเคเบิลทีวีกับทีวีดาวเทียมทุกโครงข่ายจะต้องจอดำอย่างแน่นอนเมื่อถึงวันที่ 30 กันยายน 2557
เว้นเสียแต่ว่าจะมีการเจรจาระหว่าง กสท. กับ “ช่อง 3” เรื่องการออกอากาศคู่ขนานแอนะล็อกกับทีวีดิจิตอลได้สำเร็จลุล่วงด้วยดีก่อนถึงวันนั้น
แต่คงยากเพราะด้วยเงื่อนไขต่างๆ ที่ “ช่อง 3” ยื่นเสนอมานั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย เช่น การให้ กสท.หาช่องทางออกอากาศโดยที่ต้องไม่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง หรือตัดทอนรายการทุกรายการที่ออกอากาศ หรือแม้แต่การขอลดค่าสัมปทาน หรือค่าไลเซนส์ต่างๆ เพราะถ้าทำเช่นนั้นทีวีอีกหลายช่องคงไม่ยอมแน่นอน
นอกจากนั้นแล้ว บรรดาผู้ประกอบการโครงข่ายเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมทั้งหลายที่นำ “ช่อง 3 แอนะล็อก” ไปออกอากาศทางโครงข่ายของตัวเองต่างก็แสดงท่าทีชัดเจนแล้วว่าจะทำตามคำสั่งของ กสท.ในการงดออกอากาศรายการ “ช่อง 3 แอนะล็อก” เพราะกลัวความผิดในแง่ของกฎหมาย
อีกทั้งการที่ช่อง 3 ต้องถ่ายทอดสดระบบแอนะล็อกเอเชียนเกมส์นั้น คิวของช่อง 3 ก็จะจบลงวันที่ 30 กันยายน 2557 พอดี ตามที่ทาง “ทีวีพูล” ได้ให้ข้อมูลมา ทั้งยังไม่ได้ถ่ายทอดสดแอนะล็อกจนจบการแข่งขันแต่อย่างใด กล่าวคือ ช่อง 3 มีคิวถ่ายทอดสดเอเชียนเกมส์ครั้งนี้จำนวน 4 วัน โดยวันที่ช่อง 3 ถ่ายทอดสดวันสุดท้ายตรงกับวันที่ 30 กันยายน 2557 พอดี จากนั้นก็จะเป็นคิวของช่องอื่นสลับกันถ่ายทอดสดตามที่วางแผนกันไว้แล้ว เช่น ช่อง 5 ช่อง 7 และช่อง 9 เป็นต้น
ที่สำคัญประชาชนจำนวนมากยังเข้าใจผิดว่า หลังจากวันที่ 30 กันยายน 2557 แล้วจะไม่สามารถรับชม “ช่อง 3 แอนะล็อก” ได้ทั้งหมด แต่ในความจริงแล้วไม่ใช่เพราะ กสท.ไม่ได้ปิดกั้นทุกช่องทาง เพราะประชาชนที่รับสัญญาณผ่านทางเสาหนวดกุ้ง หรือเสาก้างปลาก็ยังสามารถรับชมแอนะล็อกได้ต่อไปเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม ถึงเวลานี้คงยังต้องจับตากันต่อไปว่า เกมยื้อเวลา “ช่อง 3 แอนะล็อก” จะเป็นอย่างไรต่อไป? เพราะกว่าจะถึง “เดดไลน์” แน่นอนว่าต้องมีอะไรเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นอีก
นั่นเพราะขุมทรัพย์มหาศาลของ “ช่อง 3 แอนะล็อก” ที่มีอยู่...ตระกูล “มาลีนนท์” ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ แน่นอน