xs
xsm
sm
md
lg

วัดดวง!!ล้างระบอบทักษิณ-แพ้ “เพื่อไทย” กินรวบประเทศไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แกนนำคนไม่รักทักษิณพร้อมใจ “อุบไต๋” ยุทธศาสตร์ไล่รัฐบาล พิเชฐ พัฒนโชติ รับงานชุมนุม 4 สิงหาคมเป็นที่รวมคนที่เห็นเหมือนกัน ด้านหมอตุลย์เชื่อไม่เหลวเหมือนครั้งที่แล้ว ขณะที่หน้ากากขาว-พันธมิตรเปิดทางร่วมชุมนุม จับตาแฟนคลับประชาธิปัตย์ร่วมวง เชื่อคนมาไม่น้อย ฟากรัฐบาลเดินเกมขู่งัด พ.ร.บ.ความมั่นคงคุม 3 พื้นที่ เทพเทือกประกาศผ่าน 3 วาระร่วมชุมนุม คนวงในประเมินถ้างานนี้แพ้เพื่อไทยยึดประเทศยาว เชื่อสถานการณ์สุกงอมทุกฝ่ายรวมตัวติด

กระแสความไม่พอใจของภาคประชาชนในการบริหารประเทศของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เริ่มมากขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะเรื่องค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นจากนโยบายประชานิยม รวมไปถึงโครงการรับจำนำข้าวที่มีข้อครหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันกันทุกขั้นตอน

หนึ่งในตัวชี้วัดคือการออกมาของชนชั้นกลางในนามของกลุ่มหน้ากากขาวที่แสดงพลังต่อต้านระบอบทักษิณกันทุกอาทิตย์และกระจายกันไปทั้งประเทศ หรือการเกิดกลุ่มไทยสปริงที่นำโดย พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ แต่ด้วยการแสดงออกอย่างสงบทำให้ภาครัฐไม่ได้ให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว

ความพยายามที่จะเปลี่ยนรัฐบาลเพื่อไทยถูกเชื่อมโยงไปยังภาคกองทัพ ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะมีการโยกตัวผู้บัญชาการทหารบกไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด จากนั้นก็มีข่าวการปฏิวัติขึ้น จน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ต้องออกมาสยบข่าวเรื่องนี้

หรือแม้แต่คลิปเสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่คุยกับคนเสียงคล้ายทักษิณ ชินวัตร ในเรื่องการจัดการกับทหารในกองทัพที่หลุดรอดออกมาสู่สาธารณะ ที่หลายฝ่ายคาดกันว่าจะเป็นอีกปมหนึ่งของความไม่พอใจของนายทหารที่มีต่อรัฐบาลและอาจดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดเรื่องดังกล่าวก็เงียบหายไป

ตามมาด้วยคลิปขู่ฆ่าทักษิณ ชินวัตร ที่อ้างว่าเป็นกลุ่มอัลกออิดะห์เผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย ที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังตรวจสอบอยู่ รวมถึงกระแสข่าวที่ครอบครัวของทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศในช่วงที่จะมีการเปิดประชุมสภา

หรือกรณีที่มีการปาระเบิดเข้าไปที่บ้านของ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตหัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี และคนสนิทของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

ขณะเดียวกันก่อนหน้าที่จะถึงวันนัดชุมนุมของกลุ่มก้อนต่างๆ ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำเอาแท่งปูนมาปิดกั้นเส้นทางที่จะเข้าสู่รัฐสภา พร้อมด้วยการซ้อมแผนเพื่อรับมือกับผู้ชุมนุม รวมไปถึงรัฐบาลได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคง

ทั้งหมดนี้ไม่ว่าจะเป็นความพยายามในการปลุกกระแสของแต่ละฝ่าย ด้านหนึ่งหวังเพื่อจะเรียกให้มีผู้ออกมาชุมนุมมากขึ้น ขณะที่อีกด้านพยายามสร้างความหวาดกลัว สร้างภาพให้เห็นว่ามีโอกาสที่จะเกิดความรุนแรงในการชุมนุมครั้งนี้ เพื่อสกัดผู้ที่จะเข้ามาร่วมชุมนุมให้มีปริมาณน้อยลง

ที่รวมคนไม่รักทักษิณ

สำหรับมหกรรมรวมพลคนไม่รักทักษิณ ที่ใช้โอกาสของการเปิดสภาในวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งคาดหมายกันว่าจะมีการนำเอาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ฉบับของนายวรชัย เหมะ เข้าสู่การพิจารณา คาดหมายกันว่าจะเป็นชนวนของความไม่พอใจของภาคประชาชน แม้แต่ นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา ถึงกับออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถอนร่าง พ.ร.บ.นี้ออกจากการพิจารณา

หัวขบวนในครั้งนี้เป็นของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ที่ต่อยอดมาจากทีมงานขององค์การพิทักษ์สยามที่เคยมี เสธ.อ้าย-พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เป็นแกนนำ ครั้งนี้ดำเนินการในรูปของคณะเสนาธิการร่วม ประกอบด้วย พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก พล.อ.ชูเกียรติ ตันสุวัฒน์ อดีตหัวหน้ากองทัพนิรนาม พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคณี อดีตอาจารย์โรงเรียนเสนาธิการทหาร นายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตผู้ร่วมคณะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ อดีตแกนนำองค์การพิทักษ์สยาม-พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นัดหมายคนที่ไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศของเครือข่ายทักษิณ มารวมตัวกันในวันที่ 4 สิงหาคมนี้

นายพิเชฐ พัฒนโชติ หนึ่งในคณะเสนาธิการร่วม กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ กล่าวว่า กลุ่มที่จะเข้ามาร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ประกอบด้วยกลุ่มไทยสปริง กลุ่ม 13 สยามไทย กลุ่มเดิมขององค์การพิทักษ์สยาม กลุ่มหน้ากากขาว และอาจมีมวลชนมาจากกลุ่มของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงมวลชนของพรรคประชาธิปัตย์

“ที่นี่เป็นที่รวมของประชาชนที่เห็นเหมือนกัน และต้องเข้ามาช่วยกันเพื่อสกัดกั้นการนำเอากฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภา หากประชาชนมีมากพอรัฐบาลก็ต้องกลับไปคิด ส่วนมาตรการอื่นๆ ที่จะใช้ในการกดดันรัฐบาลนั้นคงต้องประเมินกันตามสถานการณ์”

จากการสอบถามไปยังแกนนำอื่นๆ ที่ต่อต้านระบอบทักษิณ อย่าง นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี งานนี้คงเป็นที่รวมของคนหลายกลุ่ม ทั้งมีสังกัดและไม่มีสังกัด เพราะในช่วงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าประชาชนเดือดร้อนกันไปทั่ว เริ่มเห็นว่าประเทศไม่มั่นคง นโยบายอย่างจำนำข้าวก็ทำให้ตลาดส่งออกข้าวของไทยหายไป ซึ่งกว่าจะทำให้กลับคืนมาเหมือนเดิมต้องใช้เวลาอีกนาน

“ผมก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่งานนี้น่าจะมีมาตรการในการขับไล่ระบอบทักษิณออกมา”
คณะเสนาธิการร่วม กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ
หลายกลุ่มเป้าหมายเดียว

ขณะที่ นายแก้วสรร อติโพธิ จากกลุ่มไทยสปริง กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน ต้องรอให้มีการหารือกันอีกครั้ง แต่ยอมรับว่างานนี้ถือเป็นงานของส่วนรวม

ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สุดท้ายจะเป็นอย่างไรนั้นก็ตอบไม่ถูก รู้แต่ว่าคนตามต่างจังหวัดเขาถามกันว่าจะไปวันไหน เท่าที่สัมผัสดูเหมือนว่าทุกคนมีอะไรอยู่ในใจเลยอยากที่จะมา ปัญหาคือมาแล้วไปไหน ทำอะไร ทางเราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ากลุ่มอื่นๆ จะดำเนินการอะไรบ้าง

ส่วน นายบวร ยสินทร เครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน กล่าวว่า ทางเรายินดีที่จะร่วมมือกับคณะเสนาธิการร่วม ของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ถือเป็นแนวร่วมหนึ่ง แต่เราก็มีแนวทางเป็นของตัวเอง ถ้าประชาชนออกมามากๆ ก็จะมีพลังมาก

นอกจากนี้ยังมีทีมหน้ากากขาวของกลุ่ม V For Friend เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณอีกส่วนหนึ่ง ขณะที่กลุ่มหน้ากากขาวในนามของ V For Thailand ได้ประกาศผ่าน facebook ว่า “เราชาว V ไม่มีแกนนำที่จะตัดสินใจให้ใครเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมกับกลุ่มใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นหากแม้เราจะไปชุมนุมก็จะไปในฐานะผู้ชุมนุมเยี่ยงทุกคน ดังนั้น “สิ่งที่ VFT จะกระทำในตอนนี้ คือการประชาสัมพันธ์ ประสานงานกับทุกกลุ่มโดยจะยึดมั่นในหลักการของ V” แต่ทั้งนี้การตัดสินใจขึ้นอยู่กับพี่น้องชาว V ทุกคน”

เช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่แกนนำยังมีข้อจำกัดในเรื่องเงื่อนไขการประกันตัว ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ยังไม่เคลื่อนไหวมวลชนด้วยการชุมนุมในช่วงเวลานี้ แต่ก็ไม่ได้ห้ามการเข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้

เกมนอกสภา ปชป. ไม่ชำนาญ

หนึ่งในกลุ่มที่เคลื่อนไหวรายหนึ่งกล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีใครทราบว่าฝ่ายตรงข้ามคุณทักษิณ มีแผนที่จะกดดันรัฐบาลชุดนี้อย่างไร อาจเป็นไปได้ทั้งยังไม่มีแผนอะไรที่ชัดเจน หรือมีแล้วแต่ไม่ยอมแจ้งให้ทราบ ด้วยเกรงว่าแผนจะแตก แล้วทำให้ฝ่ายรัฐบาลสามารถหาทางสกัดกั้นผู้ที่จะเข้ามาร่วมชุมนุมได้ เหมือนที่เคยเกิดในช่วงที่เสธ.อ้ายนัดชุมนุม

ขณะนี้คงอยู่ที่จำนวนคนที่จะเข้ามาร่วมชุมนุม โอกาสของคนที่จะเข้าร่วมมากๆ จนมีพลังนั้น ในเบื้องต้นแน่นอนแล้วว่านอกจากกลุ่มหน้ากากขาวในกรุงเทพฯ แล้ว ยังจะมีกลุ่มหน้ากากขาวตามจังหวัดต่างๆ เดินทางเข้ามาสมทบในวันดังกล่าวด้วยแน่นอน และคงต้องหวังพึ่งกลุ่มหลักอย่างแฟนคลับของประชาธิปัตย์ และเครือข่ายของพันธมิตร ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 กลุ่มนี้ก็เข้าร่วมชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบอื่นๆ ทั้งเข้าร่วมกับเสธ.อ้ายและกลุ่มหน้ากากขาว

งานนี้คนที่จะขับเคลื่อนที่มีน้ำหนักต้องเป็นหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จัดเวที “เดินหน้าผ่าความจริง” ในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง 6 เวที เริ่มตั้งแต่ 31 กรกฎาคม บนสกายวอล์ก สถานีช่องนนทรี ตามมาด้วย 3 สิงหาคม ที่ตลาดปัฐวิกรณ์ 4 สิงหาคม ที่โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร 5 สิงหาคม ยังไม่กำหนดสถานที่ 6 สิงหาคม จัดที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และ 7 สิงหาคม ที่มีการประชุมสภา สถานที่ยังไม่กำหนด

ปัญหาคือประชาธิปัตย์จะทำอย่างไรต่อไปกับสถานการณ์นี้ ที่ผ่านมาประชาธิปัตย์เน้นในเรื่องของการต่อสู้ในสภามาโดยตลอด แม้ว่าคราวนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่พร้อมจะออกมาต่อสู้นอกสภานั้นจะดำเนินไปในสถานะใด อีกทั้งไม่มีความชำนาญทางด้านนี้ เว้นแต่จะเข้าร่วมกับกลุ่มอื่น
การเตรียมพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ถ้าแพ้-เพื่อไทยยึดยาว

“ไม่มีใครตอบได้ว่าคนจะเข้ามาร่วมชุมนุมเท่าไหร่ แต่หากประเมินจากฝ่ายรัฐบาลที่เตรียมพร้อมหน่วยควบคุมฝูงชน และอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมแล้ว แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลก็กังวลในเรื่องนี้ไม่น้อยเช่นกัน ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการขู่ผู้ที่จะมาชุมนุมไปในตัว”

รวมไปถึงผลการประชุมของคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก ที่มี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้ประกาศใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายใน ในพื้นที่ 3 เขตของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ เขตดุสิต พระนคร และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ในช่วงวันที่ 1-10 สิงหาคม 2556

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม ยับยั้งเหตุการณ์ที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคง หลังจากฝ่ายความมั่นคงประเมินสถานการณ์เห็นว่ามีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เนื่องจากมีการประกาศว่าจะมีการชุมนุมของหลายกลุ่มเพื่อคัดค้านและประท้วงไม่เห็นด้วยกับการประชุมรัฐสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีมวลชนมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก และอาจยืดเยื้อลุกลามไปถึงขั้นยึดสถานที่ราชการ ซึ่งหวังผลทางการเมืองต้องการขัดขวางการทำหน้าที่ของรัฐสภา

แหล่งข่าวประเมินต่อไปว่า ตอนนี้ภาครัฐบาลมีความได้เปรียบ ทั้งเรื่องทหารที่นิ่งเงียบ ถือกฎหมายอยู่ในมือ จัดตำรวจเข้ามาประจำในพื้นที่ 20 กองร้อยเพื่อดูแลการประชุมสภา หรือการใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงที่เพิ่มอำนาจให้กับเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น

“รู้สึกเป็นห่วง เพราะที่ผ่านมายังไม่เห็นแต่ละกลุ่มมีการหารือระหว่างกัน หากการชุมนุมในครั้งนี้ไม่มียุทธศาสตร์ที่แน่นอน หรือไม่มีแผนต่างๆ ไว้รองรับ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จย่อมเป็นไปได้น้อย หากเป็นเช่นนี้คงยากที่จะปลุกให้เกิดการชุมนุมครั้งต่อไปขึ้นมาอีก นั่นเท่ากับว่ารัฐบาลของพรรคเพื่อไทยจะบริหารประเทศได้อีกนาน”

สุกงอมรวมตัวติด

ดังนั้นในช่วงนี้ในคงต้องรอดูการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมของรัฐบาลก่อน หากยังเดินหน้าโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านแล้ว โอกาสที่จะเป็นชนวนเหตุให้เกิดการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยมีความเป็นไปได้สูงมาก

ล่าสุดบนเวทีเดินหน้าผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ลานสกายวอร์คเกอร์ ช่องนนทรี ช่วงหนึ่งของการปราศรัย สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่กล่าวถึงการนำเอาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมถ้ารัฐบาลผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ทั้ง 3 วาระแล้วก็พร้อมจะเข้าร่วมชุมนุม

นอกจากนี้หากพิจารณาจากคำแถลงของพันธมิตรให้ดีจะพบว่ามติของพันธมิตร แม้จะมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ยังไม่เคลื่อนไหวมวลชนด้วยการชุมนุมในช่วงเวลานี้ แต่ต้องพิจารณาในข้อความสุดท้ายให้ดีว่า ไม่เคลื่อนไหวในช่วงเวลานี้ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้หากสถานการณ์สุกงอมโอกาสที่จะเกิดการรวมตัวกันครั้งใหญ่ก็มีความเป็นไปได้

กำลังโหลดความคิดเห็น