xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายภาคปชช.ตอ.นัดม็อบหน้าทำเนียบฯพรุ่งนี้ ขู่ฟ้อง“สมัคร”ละเว้นเอาผิดสินบนอีไอเอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการออนไลน์ – เครือข่ายภาคประชาชนภาคตะวันออก แนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ นัดประท้วงหน้าทำเนียบฯ พรุ่งนี้ (1 เม.ย.) พร้อมยื่นหนังสือถึง “สมัคร” ทวงถามการตรวจสอบเรื่องการให้สินบนการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือ อีไอเอ ขู่ฟ้องฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่หากเพิกเฉย

นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก แจ้งว่า พรุ่งนี้ (1 เม.ย.) เวลา 10.00 น. เครือข่ายฯ จะประท้วงหน้าทำเนียบ และยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช เรื่องการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อี.ไอ.เอ. = EIA = Environmental Impact Assesment Report ) เพื่อให้นายกฯ เปิดเผยชื่อบริษัทที่มีผลประโยชน์ร่วมกับผู้อนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า บริษัทบางบริษัททำ อีไอเอ แล้วผ่านการอนุมัติได้ง่าย บางบริษัททำ อีไอเอแล้ว ไม่สามารถผ่านการอนุมัติได้

เครือข่ายฯ ยังจะถามนายสมัครที่ให้สัมภาษณ์ได้วยว่า กระบวนการจัดทำอีไอเอด้วยว่า ขวางการพัฒนาและฉุดการลงทุนของรัฐตรงไหน พร้อมทวงถามบริษัทที่รับทำ EIA บริษัทใดที่จ่ายเงินจำนวน 10 ล้าน 20 ล้าน 30 ล้านบาท ให้กับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อผ่านโครงการซึ่งเรื่องนีต้องเปิดเผยและดำเนินคดีกับทางบริษัทและผู้รับสินบน ในฐานะนายกรัฐมนตรีเมื่อพบเห็นต้องจัดการแก้ไขและพัฒนาให้ดีขึ้น

นายสุทธิ แจ้งด้วยว่า หากนายกรัฐมนตรี พบความผิดแล้ว ไม่ดำเนินการใดๆ เครือข่ายฯ พร้อมฟ้องร้องดำเนินคดีนายกรัฐมนตรีโทษฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่

ในการยื่นหนังสือถึงรัฐบาล เครือข่ายฯ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหามลพิษอุตสาหกรรมที่มาบตาพุดอย่างจริงจัง รวมถึงต้องหยุดการขยายโรงงานเพิ่มในจังหวัดระยองด้วย

สำหรับการร่วมชุมนุมหน้าทำเนียบฯ จะมีสมาชิกเครือข่ายฯ เข้าร่วมประมาณ 100 คน พร้อมกับจัดนิทรรศการร้อยเรื่องปัญหาอุตสาหกรรมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลด้วย

ทางด้านนายวิฑูรย์ บัวโรย ประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือ เรื่องขั้นตอนของรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการส่งเสริมการลงทุนนั้นว่า ที่จริงชาวประจวบฯ มีบทเรียนซึ่งเป็นข้อเท็จจริงว่าระบบ (อีไอเอ) ของประเทศไทยยังต้องปรับปรุงอีกมากเพื่อให้สามารถดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นจริง

เพราะเมื่อ10 ปีที่แล้ว เราเจออีไอเอที่ทำปะการังให้เป็นหินโสโครกในโรงไฟฟ้าถ่านหินบ้านกรูด ตกสำรวจปลาวาฬใน อีไอเอโรงไฟฟ้าบ่อนอก รวมทั้งคิดค่าเสียหายจากกระบวนการดูดน้ำหล่อเย็นโดยตีค่าเสียหายกุ้งกิโลกรัมละ 13 บาท และในปัจจุบันเราก็เจออีไอเอที่ทำป่าชุ่มน้ำที่สมบูรณ์ให้เป็นป่าเสื่อมโทรมและถูกทำให้เป็นเพียงป่าบึงน้ำจืด ในโครงการก่อสร้างโรงถลุงเหล็กสหวิริยา

"อีไอเอ ที่ไม่สามารถประเมินผลกระทบได้อย่างเป็นจริงนี่คือปัญหาใหญ่ที่นำไปสู่ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม อีไอเอ จะเป็นอุปสรรคอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมที่มีมลพิษสูงเช่นโรงถลุงเหล็ก โรงไฟฟ้าถ่านหิน การที่รัฐบาลจะทำให้อีไอเอผ่านกันให้ง่ายยิ่งขึ้นก็จะยิ่งทำให้ ประเทศไทยเป็นที่ทิ้งขยะพิษจากอุตสาหกรรม นี่ก็เหมือนกับนำประเทศลงเหวและไม่มีความยั่งยืน ในการใช้ทรัพยากร"

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี อย่ามองแค่ช่วงชีวิตของตัวเองที่เหลืออยู่ เพราะมันสั้นเกินไป เป็นรัฐบาลควรจะให้มองให้ไกลไปถึงชีวิตของลูกหลานไทยที่ยังอีกไกลมากๆ เราเห็นว่าคำถามที่สำคัญคือเราจะใช้กระบวนการ อีไอเอ รักษาทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นจริงได้อย่างไร ควรเป็นประเด็นที่ท่านนายกรัฐมนตรีน่าจะหยิบยกขึ้นมาหารือมากกว่าจะไปหาทางให้อุตสาหกรรมที่มีมลพิษสูงตั้งในประเทศไทยเร็วๆ เพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม.
กำลังโหลดความคิดเห็น