ยะลา - “สวนทุเรียนไร่ตาโรม” ในพื้นที่นิคมกือลอง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ปรับรูปแบบขายออนไลน์ส่งให้คนชอบทุเรียนทั่วประเทศ เน้นลดการใช้สารเคมีลง มุ่งเน้นการดูแลสวนแบบออร์แกนิคให้มากที่สุด เพื่อคนชอบทุเรียนได้ทานแบบไร้กังวล
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่ “สวนทุเรียนไร่ตาโรม” ที่หมู่ 6 บ้านตลาดนิคม ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งเป็นสวนทุเรียนของ นายนิยม โอมชล อายุ 85 ปี อดีตลูกจ้างประจำเกษียณอายุราชการของนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ปัจจุบันดูแลสวนทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตแล้วประมาณ 100 กว่าต้น บนพื้นที่เชิงเขาประมาณ 10 ไร่
นางสาวณกนกพันธ์ โอมชล หรือ อีฟ อายุ 42 ปี บุตรสาว ซึ่งเป็นผู้ดูแลสวนทุเรียน และบริหารจัดการผลผลิต ซึ่งได้กลับมาดูแลสวนทุเรียนของตาโรม ผู้เป็นพ่อ เนื่องจากต้องดูแลครอบครัวด้วย ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้กลับมาทำสวนทุเรียนที่ผู้เป็นพ่อทำไว้ได้ประมาณ 10 ปีแล้ว โดยดูแลสวนทุเรียนไปด้วยและดูแลครอบครัวไปพร้อมกัน ช่วงแรกก็เริ่มเรียนรู้ และลงมือทำภายในสวน ช่วยเหลือกันกับพี่ชายอีกคน โดยภายในสวนมีทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์ เป็นต้นเก่าแก่อายุหลายปีก็หลายต้น และต้นที่เพิ่งปลูกก็มีอีกจำนวนมาก
ตนได้เริ่มต้นทำทุเรียนส่งขายออนไลน์แบบบรรจุลงกล่องมาตั้งแต่ 5 ปีที่ผ่านมา โดยที่สวนมีทุเรียนพันธุ์พวงมณีที่คุณพ่อได้ปลูกไว้ จนตอนนี้อายุต้นก็มากอยู่ แต่กลับให้ผลผลิตที่ดีเกิดคาด โดยเนื้อของทุเรียนพันธุ์พวงมณีจะมีสีเหลืองเข้ม อีกทั้งรสชาติที่ถูกปากสำหรับคนชอบกินทุเรียน ซึ่งมีรสชาดที่หวาน ไม่ขม แถมเนื้อละเอียดเป็นครีม อีกทั้งมีขนาดลูกที่พอเหมาะ ไม่ใหญ่มาก โดยครั้งแรกเริ่มจากส่งให้เพื่อน ๆ ต่างจังหวัดได้ทดลองชิม จนมีคนชอบและติดใจ จึงได้สร้างเพจ “สวนทุเรียนตาโรม” ขึ้นมา เพื่อจัดระบบส่งขายให้กับลูกค้าต่างจังหวัดทั่วประเทศ
ส่วนการบริหารจัดการและดูแลผลผลิตในสวนทุเรียนนั้น นางสาวณกนกพันธ์ เล่าว่า ด้วยคุณพ่อที่อยู่ในวัยชรา สุขภาพร่างกายก็เริ่มไม่แข็งแรงไปตามวัย จึงได้ใช้วิธีการลดการใช้สารเคมีในสวนลงมากกว่าครึ่ง เช่น การไล่แมลง หรือ ผีเสื้อวางไข่ ก็จะมาใช้การติดไฟส่องสว่าง ตามต้นทุเรียนเพื่อไล่แมลง ทำให้ลดต้นทุนการใช้สารเคมีไปได้เยอะมาก จากที่ต้องพ่นสารเคมีไล่แมลง จำนวน 5-6 ครั้งในฤดูกาลที่ให้ผลผลิต ก็ลดลง เหลือเพียง 1-2 ครั้ง เท่านั้น และเน้นการบำรุงต้นทุเรียนและบำรุงผลผลิตตามช่วงเวลา ทำให้ผลผลิตที่ออกมามีคุณภาพที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งคำนึงถึงผู้บริโภคและตัวเอง ก็ต้องการมุ่งเน้นการดูแลสวนแบบออร์แกนิคให้มากที่สุด เพื่อผู้บริโภคจะได้รับประทานทุเรียนโดยไม่ต้องกังวลใจ
ที่ผ่านมา ต้นฤดูของปีนี้ได้ตัดส่งขายแบบบรรจุลงกล่องไปแล้วกว่า 600 กิโลกรัม เป็นทุเรียนพันธุ์พวงมณีทั้งหมดในราคากิโลกรัมละ 100-120 บาท เหมาค่าจัดส่งทุกออร์เดอร์ 100 บาท ส่วนต้นทุนที่ผ่านมา เมื่อเน้นการดูแลโดยการลดสารเคมีลงก็จะมีเพียงการค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าไฟฟ้า อยู่ที่ประมาณ 5,000 – 6,000 บาทต่อเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงที่ผ่านมา ก็ทำให้เห็นว่าต้นทุนลดลง แต่ได้มูลค่าเพิ่มจากการจำหน่ายแบบออนไลน์
นางสาวณกนกพันธ์ บอกอีกว่า สำหรับในปีนี้ ผลผลิตลดลงเนื่องจากสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง มีฝนตกชุก ทำให้สวนของตนเอง และสวนทุเรียนของเกษตรกรรายอื่นก็ลดลงเช่นกัน ซึ่งทางเกษตรกรเจ้าของสวนก็ต้องเรียนรู้กันไป แต่ก็เชื่อว่าผลผลิตทุเรียนจากภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ยะลา ยังมีคนรู้จักน้อย และหากได้ลิ้มลองรสชาติทุเรียนจาก “นิคมกือลอง” เชื่อว่าทุกคนจะชื่นชอบและติดใจในรสชาติทุเรียนของที่นี้
สำหรับผู้ที่จะสนใจสามารถสั่งจองทุเรียนจาก “สวนทุเรียนไร่ตาโรม” ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : ทุเรียนสวนไร่ตาโรม ซึ่งจะมีการตัดขายอีกรอบประมาณวันที่ 15 ก.ค. 68 นี้