xs
xsm
sm
md
lg

ชุมพรยังยืนหนึ่งในภาคใต้ ฝุ่น PM 2.5 ยังเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง ส่งผลกระทบสุขภาพประชาชน หน่วยงานเร่งป้องกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชุมพร - ชุมพรยังยืนหนึ่งในภาคใต้ สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ยังเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง ส่งผลต่อสุขภาพประชาชน หลายหน่วยงานเร่งป้องกันแก้ปัญหา

สำหรับฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่มีค่าเกินมาตรฐาน ได้ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน ที่แพร่กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทยนั้น โดยวัดค่ามาตรฐานจะต้องไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.

ในส่วนของ จ.ชุมพร ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการตรวจวัดค่าเกินมาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นจังหวัดเดียวใน 14 จังหวัดภาคใต้ ที่ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย ผู้สูงวัย และเด็กเล็ก


ล่าสุ ดเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (22 ม.ค.) สถานีเครื่องตรวจวัด PM 2.5 กรมควบคุมมลพิษ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดชุมพร ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร ตรวจวัดค่ามาตรฐานฝุ่น PM 2.5 อยู่ที่ 52.7 มคก./ลบ.ม. เป็นสีน้ำตาลซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเริ่มมีผลต่อสุขภาพของประชาชนมาอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้านนายกิตติศักดิ์ บริบูรณ์เกษตร รักษาราชการแทน ปภ.จ.ชุมพร ได้ลงพื้นที่จุดตรวจวัดคุณภาพอากาศ กรมควบคุมมลพิษ ที่สนามกีฬากลางจังหวัดชุมพร พบค่าเกินกว่ามาตรฐานที่มีผลต่อสุขภาพประชาชน จึงได้ประสานงานร่วมกับเทศบาลเมืองชุมพร ในการเตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว

นอกจากนั้น ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.ชุมพร ได้จัดทำแผนเผชิญเหตุไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออกขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ จ.ชุมพร ไว้อย่างต่อเนื่องด้วย

ขณะที่ นายศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร ได้ออกประกาศ เรื่องห้ามการเผาในที่โล่งในเขตเทศบาลเมืองชุมพร และส่งเจ้าหน้าที่ออกแจ้งเตือนประชาชน พร้อมทั้งแนะนำในการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัยจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5


ด้าน นพ.อนุ ทองแดง นายแพทย์สาธารณสุข จ.ชุมพร ได้ให้เจ้าหน้าที่ออกแจ้งเตือนประชาชนถึงมาตรการป้องกันดูแลสุขภาพ จากสถานการณ์การเฝ้าระวังฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรลดหรือจำกัดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และเฝ้าระวังตนเอง

หากพบว่ามีอาการผิดปกติ ระคายเคืองตา แน่นหน้าอก หายใจลำบากเหนื่อยง่าย หายใจมีเสียงหวีด ให้รีบไปพบแพทย์ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วย ญาติควรดูแลเป็นกรณีพิเศษ

นอกจากนั้น ขอให้ประชาชนควรร่วมกันงดการเผาทุกประเภท เช่น เผาในที่โล่งแจ้ง เผาขยะมูลฝอย เศษใบไม้ เป็นต้น เพื่อคืนคุณภาพอากาศที่ดี


กำลังโหลดความคิดเห็น