ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มโบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต ผู้นำอสังหาฯ ระดับลักชัวรีในภูเก็ต ผุดเมกะโปรเจกต์ “โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว” มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้าน ทั้งวิลล่า-คอนโดฯ ระดับลักชัวรี ถึงซูเปอร์ลักชัวรี ยึดหัวหาดย่านเชิงทะเล เจาะตลาดต่างชาติระดับไฮเอนด์
นายอรรถสิทธิ์ อินทรชูติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด ผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีในจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงแผนการลงทุนของโบทานิก้าฯ ในงานเปิดตัว "โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว" ( Botanica Grand Avenue ) โครงการใหม่และใหญ่ที่สุด เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2566 ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนขายทั้งชาวไทยและต่างชาติ ภาคเอกชน ร่วมแสดงความยินดี พร้อมชมวิลล่าตัวอย่าง ณ พื้นที่โครงการบ้านโคกโตนด ซอย 2 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่า
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีที่รองรับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่ทางโบทานิก้ามีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการลงทุนและทำตลาด เพราะเราจับตลาดกลุ่มนี้มาโดยตลอด และที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรียังเป็นที่ต้องการของลูกค้าชาวต่างชาติ ทำให้เรามั่นใจว่าที่อยู่อาศัยในระดับลักชัวรีจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีนี้ ซึ่งดูได้จากยอดขายของทางโบทานิก้าที่ยังสามารถทำยอดขายได้เป็นอย่างดีในทุกโครงการ ทางบริษัทจึงได้วางแผนการลงทุนโครงการใหม่ในช่วงปลายปี 2566 นี้ ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า 2567 โดยได้โฟกัสไปที่กลุ่มลูกค้าระดับลักชัวรี ไปจนถึงซูเปอร์ลักชัวรี ในราคาตั้งแต่ 20-150 ล้านบาท
โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โบทานิก้า ได้เปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด และใหญ่ที่สุดเท่าที่เราได้ลงทุนมาในภูเก็ต รองรับความต้องการของลูกค้าชาวต่างชาติที่ต้องการที่อยู่อาศัยในระดับลักชัวรี คือ โครงการ “โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว” (Botanica Grand Avenue) ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ดินในโซนพรีเมียม บนเนื้อที่ 178 ไร่ บ้านโคกโตนด ซอย 2 ย่านเชิงทะเล ใกล้ชายหาดลายัน ใช้เวลาเพียง 30 นาที จากสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
“โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว โครงการแรกที่เรามิกซ์ ยูส โปรดักต์ในโครงการ และเป็นโครงการแรกที่โบทานิก้าที่ลงทุนคอนโดมิเนียมในระดับลักชัวรีเข้ามาด้วย โดยในโครงการจะประกอบไปด้วย ลักชัวรีวิลล่า พรีเมียมลักชัวรีวิลล่า ไปจนถึงซูเปอร์ลักชัวรีวิลล่า 280 หลัง ในราคาเริ่มตั้งแต่ 48-180 ล้านบาท ลักชัวรีคอนโดมิเนียม 268 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 10-45 ล้านบาท ส่วนเพนต์เฮาส์ ราคา 135 ล้านบาท โดยโครงการนี้มีมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท” นายอรรถสิทธิ์ กล่าวและว่า
โบทานิก้ามีความตั้งใจที่จะสร้างโครงการ โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว ให้เป็น “เมืองลักชัวรี” ซึ่งเป็นหน้าที่ของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องอัปมูลค่าให้ภูเก็ตให้ได้มากที่สุด เลือกสร้างงานและโครงการที่มีคุณภาพ เพื่อทำให้ที่ดินมีมูลค่าสูงสุด โบทานิก้าจึงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการนี้ให้เป็นโครงการที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยสไตล์แกรนด์ โมเดิร์น ลักชัวรี ให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกถึงการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ความสงบ และการอยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ และจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ศูนย์การค้าขนาดเล็ก ร้านอาหาร และศูนย์ดูแลสุขภาพ สปา ลู่วิ่ง สระว่ายน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย ในขณะเดียวกัน สนับสนุนเศรษฐกิจขนาดย่อยในชุมชนผ่านการสร้างงานสร้างอาชีพ มั่นใจว่าจะสามารถดึงดูดนักลงทุนได้อย่างแน่นอน ที่ได้มาตรฐานใหม่ของการใช้ชีวิตที่หรูหรา ในขณะเดียวกัน ส่งผลเชิงบวกต่อภูมิทัศน์ของจังหวัดภูเก็ต
โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก คือ ตลาดรัสเซีย ยุโรป ตะวันออกกลาง และตลาดกลุ่มจีนที่กำลังทยอยเข้ามาบ้างแล้วในขณะนี้ แต่กลุ่มหลักๆ ประมาณ 50% ยังเป็นกลุ่มรัสเซีย
หลังจากที่ได้เปิดพรีเซลในส่วนของลักชัวรีวิลล่า มียอดขายเข้ามาแล้วประมาณ 10 หลัง ยอดขายอยู่ประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนคอนโดมิเนียม จากที่ได้เปิดขายให้เฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็น FC ของโบทานิก้านั้น เซอร์ไพรส์มากๆ มียอดขายแล้วประมาณ 30 ห้อง มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ลูกค้ากลุ่มนี้ยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่ารูปแบบของคอนโดฯ จะออกมาเป็นแบบไหน รู้แค่ราคาคร่าวๆ เท่านั้น ซึ่งจุดนี้ทำให้เรามั่นใจว่าความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งที่เป็นวิลล่าและคอนโดฯ ในระดับลักชัวรียังเป็นที่ต้องการของคนต่างชาติ
นายอรรถสิทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากโครงการ โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว ซึ่งเป็นเซกเมนต์บนสุดของโบทานิก้า ที่ขายอยู่ในราคา 18-180 ล้านบาทแล้ว โบทานิก้ายังมีโครงการอื่นๆ ที่กำลังทำตลาดอยู่ในขณะนี้ เช่น โครงการโบทานิก้า โฟร์ซีชั่น บนเนื้อที่กว่า 170 ไร่ ในพื้นที่ห่างจากโครงการโบทานิก้า แกรนด์ อเวนิวไปเล็กน้อย แต่ยังสะดวกสบาย ขายในราคา 20-30 ล้านบาท โครงการโบทานิก้า ฟลอเรสต้า วิลล่าระดับพรีเมียม ราคา 30-40 ล้านบาท มีอยู่ 3 เฟส ตอนนี้เปิดขายไปแล้วประมาณ 50% และโครงการที่กำลังจะเริ่มดำเนินการเป็นโครงการซูเปอร์ลักชัวรีในพื้นที่อ่าวปอและกมลา มีที่ดินบีชฟอร์ท โอเชี่ยนวิว จะพัฒนาให้เป็นท็อปสุดของโบทานิก้า ราคาเริ่มต้น 150-400 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการร่วมทุนกับกลุ่มมอนท์เอซัวร์ เข้าไปพัฒนาพื้นที่ที่ด้านหลังโรงแรมอินเตอร์คอนฯ ซึ่งอยู่ใกล้ทะเลและสงบ โครงการนี้จะเจาะไปที่ลูกค้ากลุ่มที่ซื้อเพื่อการลงทุนเป็นหลัก
นายอรรถสิทธิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า มั่นใจว่าวิลล่าระดับลักชัวรี และซูเปอร์ลักชัวรียังเป็นที่ต้องการของตลาดระดับไฮเอนด์ ทั้งในปีหน้าและปีต่อไป ซึ่งวิเคราะห์ได้จากยอดขายของโบทานิก้าแต่ละโครงการที่เปิดขายในหลายทำเล ยอดขายดีทุกโครงการ และภูเก็ตเนื้อหอมมาก มีนักลงทุนจากภายนอกเข้ามาลงทุนเปิดตัวโครงการระดับลักชัวรีกันตลอด จากที่ภูเก็ตเป็นเมืองที่มนต์เสน่ห์ มีความปลอดภัยสูงถ้าเทียบกับต่างประเทศ และจะเห็นได้จากเมื่อวิกฤติการณ์ต่างๆ ขึ้นรอบโลก ทั้งจากภัยสงคราม หรือภัยอื่นๆ ชาวต่างชาติจะเลือกมาอาศัยอยู่ในภูเก็ต ซึ่งจุดนี้แสดงให้เห็นว่าภูเก็ตมีความลอดภัย ทำให้จังหวัดภูเก็ตมีเม็ดเงินสะพัดไหลเวียนในจังหวัดเป็นจำนวนมหาศาล รวมถึงจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดสะดวกสบายในการเดินทาง มีสนามบินนานาชาติ โดยเฉพาะในย่านเชิงทะเล ลายัน เป็นทำเลที่คนต่างชาตินิยม
“ทำให้ปัจจุบันนี้มีโครงการระดับลักชัวรีเกิดขึ้นในภูเก็ตเป็นจำนวนมาก แต่แอบกังวลว่า เมื่อมีนักลงทุนเข้ามาจำนวนมากขึ้นโครงการกันมากมาย หากนักลงทุนที่เข้ามาไม่มีประสบการณ์ในตลาดระดับลักชัวรี อาจจะทำให้ตลาดโอเวอร์ซัปพลายได้ในอนาคต ซึ่งในส่วนของโบทานิก้า ที่เป็นกลุ่มทุนท้องถิ่นภูเก็ต เรามั่นใจในตลาด เราเป็นแบรนด์ที่เข้มแข็ง เป็นที่รู้จักในตลาดระดับไฮเอนด์ และมีฐานลูกค้าที่เข้มแข็งจากที่เราทำตลาดนี้มานาน จนปัจจุบันนี้เรามีส่วนแบ่งตลาดลักชัวรีกว่า 50%” นายอรรถสิทธิ์ กล่าวในที่สุด