นราธิวาส - ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส เผยรู้สึกยินดีที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์กับมาเลเซีย เพราะจะเกิดผลดีต่อพื้นที่ชายแดนใต้อย่างเป็นรูปธรรม
นายกิตติ หวังธรรมมั่ง ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส และประธานหอการค้ากลุ่มภาคใต้ชายแดน กล่าวว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางไปประเทศมาเลเซียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อทำข้อตกลงระหว่างประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย ในเรื่องความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เชื่อมต่อกับรัฐตอนเหนือ เช่น รัฐกลันตัน และรัฐตรังกานู ของประเทศมาเลเซีย ให้เป็นเขตเศรษฐกิจการค้าชายแดนระหว่างประเทศขึ้น
ประกอบกับในวันนี้ 19 ตุลาคม 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) เตรียมเดินทางไปประชุมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและสังคม ระหว่าง กพต.และสมาคมชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เพื่อสานสัมพันธ์ และพัฒนาการค้าชายแดนระหว่างประเทศ ทำให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เชื่อมโยงกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งเห็นว่าหากสามารถขับเคลื่อนกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศไทย และประเทศมาเลเซียได้อย่างเป็นรูปธรรม จะส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ดีขึ้น จนเห็นผลในเชิงประจักษ์
ขณะเดียวกัน เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ขอเสนอให้ภาครัฐเชิญชวนผู้ประกอบการ นักลงทุนหันมาลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ชิปประมวลผล) เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีกลุ่มแรงงานเป็นจำนวนมาก สามารถรองรับกลุ่มธุรกิจที่จะมาลงทุน และยังเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ พัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังต้องการให้ภาครัฐส่งเสริม และจัดกิจกรรมการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเฉพาะที่ อ.สุไหงโก-ลก ที่เป็นประตูเศรษฐกิจการค้าชายแดน ในหลากหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง เช่น ที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการเปิดตลาดการค้าชายแดนมาโดยตลอด เพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการจากทั้ง 2 ประเทศมาพบปะ และจับคู่เจรจาการค้ากัน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างเครือข่ายทางการค้า รวมถึงพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเพิ่มช่องทางการตลาดไปสู่ตลาดชายแดนระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ